BY Nattapit Arsirawatvanit
18 Sep 20 3:49 pm

Review: NBA 2K21 เกมบาสฯ บนถนนเส้นเดิม จะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี?

7 Views

ปีนี้ดูเหมือนว่า เหล่าเกมกีฬารายปีทั้งหลาย จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 กันเป็นแถว ๆ ไม่ว่าจะเกมแถวบ้านที่ต้องเลื่อนปีบ้าง ปล่อยเป็นแพทช์อัพเดตบ้าง หรือถ่อขนตัวเกมออกมาวางจำหน่ายในแบบที่ต้องขายหน้าขายตาเลยก็มี ‘NBA 2K21’ ก็ถือเป็นเกมที่เข้าข่าย เนื่องจากปีที่แล้ว Visual Concept พบเจอกับความล้มเหลวทั้งในด้านการพัฒนาตัวเกมของตัวเอง อีกทั้งยังต้องเจียดเวลาไปเรียนรู้ในการทำเกมมวยปล้ำ เพราะทีมงานเก่าถอนตัวอีก ปีนี้ยังต้องมาโดน COVID-19 ซ้ำ ถือว่าหนัก

แต่สุดท้าย NBA 2K21 ก็ปรากฏโฉมออกมาได้ งานนี้ผู้เขียนไม่รู้ว่าพวกเขาลำบากแค่ไหนกว่าจะผ่านเรื่องราวอันหนักหน่วง จนพัฒนาออกมาเป็นเกมภาคนี้ได้ เอาเป็นว่าเราจะพูดไปตามเนื้อผ้าเลยแล้วกัน ในรีวิว NBA 2K21

Story

บางครั้ง พอเราพูดถึงเจ้าลูกกลม ๆ อย่างลูกบาส มุมมองในการเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีนับไม่ถ้วน มันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของบาส หรือนักบาสก็ได้ แค่การปาลูกบาสอัดหน้าคนอื่น ก็กลายเป็นข่าวอาชญากรรมที่มี ‘ลูกบาส’ อยู่ในเรื่อง

เนื้อหาในโหมด MyCareer ของ NBA 2K21 คือการนำมิติของกีฬาบาสมารีแคปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกรอบ ในภาคนี้คุณจะได้เล่นเป็นไอ้หนุ่มผู้เดินตามรอยฝันของพ่อที่ตายไปแล้ว แต่มีอุปสรรคชีวิตเป็นความรัก บลา ๆ ถ้าคุณเล่น 2K20 มาก่อน คุณคงจะได้สัมผัสอะไรที่เป็นเรื่องราวดราม่า ร้อยแปดพันเก้าของการตามหาความฝันบลา ๆ ในฐานะนักกีฬาบาส สิ่งที่เราจะบอกคือ เนื้อหาของ NBA 2K21 นั้นไม่ต่างกัน แม้มันจะเล่าอยู่ในสถานการณ์ที่มันแตกต่าง แต่สุดท้ายยังไง แก่นของมันยังคงเป็นกีฬาบาสเกตบอลอยู่ดี

สิ่งที่น่าชื่นชมของมันมีอยู่ไม่เยอะมาก การรับส่งอารมณ์น่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อดีอันดับต้น ๆ ของโหมดนี้ หากคุณเป็นเด็กผู้ชายที่มีความฝันในกีฬาซักแขนง อยากเก่งจนไปเป็นดาวในระดับโลก NBA 2K21 สื่อจุดนี้ออกมาได้ดี แต่ถ้าคุณไม่เข้าถึงพล็อตประเภทนี้ คุณก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยกับชีวิต แล้วกลับมาตั้งคำถามประมาณว่า “คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร” ซ้ำ ๆ หลังจบแมตช์

ซึ่งผู้เขียนเป็นคนที่เข้าไม่ถึงเนื้อหาในภาคนี้ ไม่ใช่ว่าเพราะเราไม่ชอบกีฬาบาสเกตบอล หรือไม่อินกับคนสู้ชีวิต แต่มันเหมือนว่า ผู้เขียนพบเจอกับเนื้อหาประเภทนี้มาหลายภาคแล้ว คือเจอจนเอียน จนคิดว่าลูกบาสในเกมเนี่ย มันทำอะไรเพิ่มได้อีกไหม นอกจากการเดินไปแข่ง แล้วมานั่ง Interview พร้อมกับเจอปัญหาชีวิตไปด้วย ทุกอย่างมันเหมือนลูปเดิมซ้ำไปซ้ำมา ทำให้เราไม่อยากเล่น อยากปิดโหมดแล้วออกไปเล่นแมตช์ออนไลน์เสียเดี๋ยวนั้นเลย

Presentation

ย้อนกลับไปสมัย 2K19 การอัพเดตกราฟิกของ 2K20 ถือเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงของจริง ทั้งในเรื่องการเบลอระยะไกลที่ถูกนำออก โมเดลที่ชัดขึ้น เงาสะท้อนของสนาม แสงไฟ จังหวะการเชียร์ ทุกอย่างมันถูกพัฒนาจนเห็นได้ชัด แต่มาวันนี้ 2K21 แทบไม่มีความแตกต่างใด ๆ เลยกับ 2K20

คำว่าไม่มีความแตกต่าง หลายคนคงคิดว่า มันมีการปรับอะไรบางอย่างเล็ก ๆ ที่ถ้าไม่เพ่งมองก็คงไม่เห็น แต่จากการสำรวจ ปรากฏว่าที่บอกว่าไม่มี ‘มันไม่มีจริง ๆ’ ทุกอย่างยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปไหน ซึ่งถ้าถามว่ามันดีอยู่แล้วไหม ก็คงจะดีอยู่แล้วจริง ๆ ตรงนี้เราก็เข้าใจว่า มันใกล้จะหมดเจเนอเรชั่นคอนโซลนี้แล้ว ก็เลยพัฒนากราฟิกอะไรไม่ได้มาก

แต่อย่างน้อยการพัฒนาอะไรขึ้นมาบ้างนอกจากหน้าตานักบาสทั้งหลาย น่าจะเป็นการแสดงให้ผู้เล่นเห็นได้บ้าง ว่าทีมงานของเกมนี้มีความเชื่อมั่นในตัวเกมขนาดไหน หรืออาจจะไม่โฟกัสตรงการพัฒนา เปลี่ยนเป็นการเปลี่ยนแปลงโทนสีโทนแสงในเกมให้สดขึ้น ให้ตรงกับเทรนด์กราฟิกในยุคสมัยนี้ ซึ่ง NBA 2K21 ไม่ได้ทำอะไรแบบที่เราหวังจะให้เกิดขึ้นเลย มันก็แค่ยกกราฟิกของ 2K20 มาแปะ แสกนหน้าเหล่านักกีฬาให้ตรงฤดูกาล แล้วก็จบไปเลย แค่นั้น

Gameplay

หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่ลำบากใจมากที่สุด ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเป็นคนที่เชียร์เกมซีรีส์นี้ เชียร์ทีมงานนี้ และเข้าใจพวกเขามาตลอดว่า ระยะเวลาหนึ่งปีมันอาจเป็นความกระชั้นชิดเกินไป ในการพัฒนาอะไรที่ดีแบบสูงชะลูด เห็นกันได้ทั้งตำบลทั้งอำเภอ ทำให้พวกเขาได้แต่ปรับปรุงอะไรที่มันดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นอีกในภาคต่อไป เป็นการค่อย ๆ ปรับจูนตัวเกมให้ดีขึ้นปีต่อปี

แต่สำหรับ NBA 2K21 เป็นครั้งแรก ๆ เลยที่คำว่า ‘ถอยหลังลงคลอง’ เด้งขึ้นมาในความคิดโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณเล่นซีรีส์นี้มาก่อน คุณจะรู้ว่า 2K20 ทำพวกระบบการเคลื่อนไหว และ Tracking จากนักกีฬาคนนั้นจริง ๆ ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ แม้ในบางครั้งมันอาจจะรู้สึกถึงความมึน ๆ อยู่บ้าง แต่สุดท้ายยังไงมันก็ถือเป็นก้าวใหม่ ที่เราคาดหวังได้ว่า 2K กำลังสนใจในการพัฒนาความสนุกแบบแมตช์ต่อแมตช์ มากกว่าจะไปสนใจการพัฒนาส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

ซึ่งในภาคนี้มันมีระบบพวกนี้เหมือนเดิม… แต่! มันแทบจะไม่ได้รับการพัฒนาเลย สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือระบบหลัก ๆ ถูกปรับปรุงให้แย่ลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะการยิง ซึ่งหลาย ๆ คนที่เล่นกับผู้เขียน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การยิงสามแต้มแทบจะเป็นไปไม่ได้ในระบบการยิงแบบใหม่นี้ แถมมันยังปรับเป็นแบบเก่าไม่ได้อีก นี่ยังไม่รวมถึงค่าสถานะของตัวนักบาสที่แปลก ๆ บางคนเก่งอยู่แล้วแต่เมื่อเอาลงสนามไปเล่นจริง กลับดรอปลงไปเสียอย่างนั้น แต่กับบางคนที่เป็นเพียงรุกกี้ในปีนี้ กลับเล่นได้ยอดเยี่ยม ยิงสามแต้มรัว ๆ แบบไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน

ถ้าให้สรุปเลยตรงนี้ เราขอบอกว่าระบบหลักมันดีอยู่แล้ว และมันดีแบบนั้นมานานแล้ว แต่การปรับเปลี่ยนในภาคนี้ ถือเป็นการ ‘สร้างอุปสรรค’ ให้การเล่นจนเกินลิมิต ส่งผลให้เกมมันไม่สนุก พอเกมมันไม่สนุก งานนี้ก็คงไม่เหลือเหตุผลใด ๆ ให้มานั่งเล่นซ้ำ ๆ อีกแล้ว

Performance

ก็ยังจะพูดอยู่เหมือนเดิมว่า ตัวเกมในภาคนี้ มันเหมือนยก 2K20 มาทั้งดุ้น แล้วอัพเดต Roster กับท่าทางใหม่ ๆ เข้ามาแค่นั้น เพราะขนาดบั๊กที่เกิดขึ้นใน 2K20 แล้วไม่ยอมแก้ ใน 2K21 มันก็ยังอยู่ เหมือนทีมพัฒนาไม่เคยเห็นมันมาก่อน รวมไปถึงสเปกที่ยังคงกินคงเส้นคงวาอยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับเวอร์ชัน PC คุณต้องการการ์ดจอระดับ 1060 ขึ้นไป อย่าไปเชื่อที่ตัวเกมบอกว่าใช้ GTX 770 ก็รอด เพราะถ้าคุณลองนำตัวเกมไปเล่นกับการ์ดจอที่ใกล้เคียงกันอย่าง GTX 1050Ti คุณจะรู้สึกได้เลยว่ามีความหน่วง ๆ เกิดขึ้น ภาพที่ออกมาสโลว์โมชันเสียจนคิดว่าดูช็อตเด็ดกีฬาดัง

แต่สำหรับเวอร์ชันคอนโซล นี่อาจจะเป็นข้อดีที่สุดของเกมนี้ เพราะมันไม่มีปัญหาในการเล่นแต่อย่างใด ทุกอย่างเสถียร แม้จะมีบั๊กบ้างประปราย แต่ก็ไม่ถึงขนาดเกมเด้ง ส่วนมากก็เรียกชื่อผิด เสียงสลับ การแสดงผลมั่ว ๆ บ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลอะไรในการเล่นมาก ฉะนั้นถ้าใครอยากจะเล่นเกมนี้จริง ๆ เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ต้องเล่นในคอนโซล

Conclude

ถ้าการพัฒนาจากภาค 2K19 ไป 2K20 คือน้อย ภาคนี้ก็คงไม่มีพัฒนาการอะไรเกิดขึ้นเลย ด้วยเนื้อเรื่อง MyCareer ที่ขาดเสน่ห์ ซ้ำซาก และระบบเกมแบบเดิมที่ทีมงานพยายามทำให้แตกต่าง ดันไปได้ผลลัพธ์ที่ย่ำแย่มาแทน ส่วนหนึ่งเราก็เห็นใจทีมงาน เพราะในเวลาหนึ่งปี การจะปรับปรุงสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีมากขึ้นไปอีก อาจจะเป็นงานที่ยากเกินไป แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ถึงแม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักของเกม พวกเขาก็ทำมันได้แย่กว่าเดิมอยู่ดี

นี่อาจจะถึงเวลาแล้ว ที่พวกเขาจะมาทบทวนกันอีกรอบ ว่าจะหยุด เพื่อไปเริ่มใส่ไอเดียใหม่ ๆ หรือจะดันทุรัง ใช้คอนเซปต์แบบนี้ในภาคต่อไปดี

Verdict 5/10

SHARE

Nattapit Arsirawatvanit

มาร์ค - Senior Content Writer

Back to top