เปิดตัวให้เล่นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาคล่าสุดของเกมฟอร์มยักษ์จากค่ายไมโครซอฟท์
แต่รู้หรือไม่ว่า ครั้งหนึ่ง Halo Infinite มีไอเดียตั้งต้นให้เป็นเกมโลกเปิดขนาดใหญ่แบบ Zelda แต่ถูกปัดตกไป และลดทอนเนื้อหาลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของ 343 Industries ที่จะลดขนาดเกมลงเกือบ 2 ใน 3 ในเวอร์ชั่นสุดท้ายของตัวเกม
ฺBloomberg รายงานว่า ในรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเกมในโหมดเนื้อเรื่องว่า แรกเริ่มตัวเกมได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์เกม Zelda ของ Nintendo เพราะอยากได้เกม Halo แบบ Open World แต่ท้ายที่สุด เกมต้องถูกลดทอนบางอย่างออกไปเป็นจำนวนมาก
สาเหตุหนึ่งมาจากการลาออกของพนักงาน 343 Industries จำนวหนนึ่ง การตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์ที่ขัดแย้งกัน และเอนจิ้นที่ใช้พัฒนาเกมนั้น ใช้งานยาก จนต้องมีการย้ายไปยัง Unreal Engine แทน
ถึงอย่างไรก็ตาม Halo Infinite ก็ยังมีความเป็น Open World อยู่ แค่สเกลและขนาดของมันไม่ได้ใหญ่กว่าที่เราคาดคิดเอาไว้ นอกจากนั้นเกมยังเกิดการล่าช้ามาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ประกาศเปิดตัวโหมด Multiplayer ในปี 2019 และเปิดตัวแคมเปญเนื้อเรื่องในปี 2020
ก่อนที่สุดท้าย Joseph Staten หัวหน้าทีมเขียนบทจาก 3 เกมแรกของ Halo จึงถูกดึงตัวมาช่วยงาน และทาง Microsoft ยืนกรานว่าเกมนี้จะต้องเปิดตัวพร้อมเครื่อง Console เจ็นใหม่ แต่ทาง Staten นี่แหละ ที่เข้าไปเจรจากับ Microsoft ว่ามันต้องใช้เวลา จึงได้เวลาในการทำงานอย่างเต็มที่
ปัจจุบัน Halo Infinite ก็เปิดตัวให้เล่นแล้วทั้งโหมดออนไลน์และโหมดเนื้อเรื่อง และได้รับกระแสิจารณ์กับคำชมในแง่บวก ใครที่สนใจก็สามารถหามาเล่นกันได้ โดยโหมด Multiplayer นั้น เล่นฟรี ส่วนโหมดเนื้อเรื่องต้องเสียเงินซื้อ หรือใครเป็นสมาชิก XBOX Game Pass อยู่แล้วก็สามารถเล่นได้เลยเช่นกัน
