เปิดตัวกันไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับเกมใหม่จากค่ายเทพ From Software
เรียกเสียงฮือฮากันไปพอสมควรสำหรับ Sekiro: Shadow dies Twice ผลงานใหม่ของค่าย From Software ผู้พัฒนาเกม Action ชื่อดังอย่างซีรีส์ Dark Souls และ Bloodborne หลังเปิดตัวบนเวที Microsoft พร้อมปล่อย Trailer ในงาน E3 2018 ที่ผ่านมา (ตามไปชม Trailer กันได้ ที่นี่)
ล่าสุดก็มีการปล่อยรายละเอียดของตัวเกมออกมากันแล้ว มีอะไรน่าสนใจ แตกต่างหรือเหมือนกับเกมเก่าของค่ายอย่าง Dark Souls และ Bloodborne ตรงจุดไหนบ้างไปดูกันเลย
- ตัวโครงการเริ่มต้นพัฒนากันในช่วงปี 2015 หลัง DLC ของ Bloodborne โดยตอนนั้นทีมงานเริ่มมองหาไอเดียสำหรับเกมใหม่หลังการสร้าง Dark Souls 3
- Keyword หลักของเกมคือ “นินจา” ซึ่งไอเดียหลายอย่างก็มาจากซีรีส์ Tenchu ผลงานเก่าของค่าย
- ตอนแรกทีมงานอยากกลับมาสร้างซีรีส์ Tenchu แต่ซีรีส์ Tenchu ถูกสร้างโดยทีมงานหลายทีม แต่ล่ะภาคก็มีจุดเด่นต่างกันไป ทีม From Software รุ่นปัจจุบันคิดว่าพวกเขาอาจจะไปสร้างอะไรที่ “ซ้ำ” กันเกมเก่า สุดท้ายเลยเกิดเป็นการตัดสินใจปั้นซีรีส์ใหม่ขึ้นมาแทนเลย
- ตัวเกมได้คุณ Miyazaki ผู้ให้กำเนิด Dark Souls และ Bloodborne มาดูแลแบบเต็มขั้น
- คำว่า Shadow หรือ “เงา” ในชื่อเกมสื่อถึง “นินจา” ส่วน Dies Twice ก็หมายถึงการตายซ้ำแล้วซ้ำอีกอันเป็นจุดเด่นของค่าย
- ตัวเกมไม่ได้เน้นควาสมจริง
- มีตัวเอกหลัก ไม่ได้สร้างตัวละครเอกเองแบบ Dark Souls และ Bloodborne
- แม้จะมีพระเอกหลักแต่การเล่าเรื่องก็ยังคงไม่เป็นเส้นตรงเหมือนเดิม Miyazaki ระบุว่าแนวทางการเล่าเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์จะยังกลับมาใน Sekiro
- จุดเด่นของระบบการเล่นอยู่ที่ 3 หัวใจสำคัญ
- อันแรกคือระบบตะขอเกี่ยวซึ่งผู้เล่นสามารถใช้เคลื่อนไหวไปมาตามฉากได้ และทำให้ภาคนี้การออกแบบด่านเปลี่ยนไป
- อันดับสองคือเพลงดาบ ผู้เล่นต้องใช้ทั้งการป้องกันและการโจมตีอย่างถูกจังหวะ รวมไปถึงท่าสังหารดาบเดียวในรูปแบบนินจา
- อันดับสามคือการสังหารศัตรูอย่างชาญฉลาด ตัวเกมถูกออกแบบมาอย่างดีให้ศัตรูแต่ละตัวสามารถถูกสังหารได้หลายรูปแบบ
- การเอาชนะเนื้อหาที่ท้าทายยังคงเป็นหัวใจหลักสำคัญของการออกแบบเกมนี้
- ตัวเกมไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้าสู่การต่อสู้ทันทีเมื่อคุณเจอศัตรู คุณสามารถสังเกตุพฤติกรรมของพวกมันเพื่อวางแผนการเข้าโจมตี
- แขนกลถูกออกแบบมาให้รองรับระบบการต่อสู้ของเกม ไอเทมอย่าง ดาวกระจาย ขวานลับ และของเสริมต่างๆจะถูกเลือกติดตั้งและใช้งานที่นี่
- ตัวเกมเป็นเกม action adventure ดังนั้นตัวเกมจะมีระบบพัฒนาตัวละครที่แตกต่างจากเกมเก่าของค่ายที่เป็นเกม action rpg
- แผนที่ถูกออกแบบมาให้คล้ายเกม Dark Souls 1 ที่ทุกจุดเชื่อมเข้าหากัน โดยแทบจะไร้รอยต่อ
- ไม่มีระบบ Multiplayer เพื่อเปิดทางให้สามารถออกแบบระบบต่างๆสำหรับเกม Singleplayer ได้แบบเต็มที่
- ผู้เล่นจะสามารถฟื้นชีพที่จุดเดิมได้ทันที 1 ครั้ง การฟื้นชีพครั้งต่อไปต้องใช้ทรัพยากร และอาจมีการลงโทษผู้เล่น ซึ่งจุดนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงให้สมดุล
- การสังหารศัตรูที่คิดว่าผู้เล่นตายไปแล้วเป็นหนึ่งในเทคนิคที่สามารถใช้งานได้
- ความยากของเกมในภาคนี้สามารถเอาชนะได้ด้วย “มันสมอง” อย่างการวางแผนและการสังเกตุ แตกต่างจากเกมเก่าของค่ายที่เน้นในเรื่อง “ฝีมือ” การบังคับตัวละคร
- ไม่ใช่เกม “ง่าย” แน่นอน
