เกมเมอร์บางส่วนมักอ้างว่าอาการเสพติดเกมจะเดือดร้อนเพียงแค่คน ๆ เดียว แต่ความจริงคือไม่ใช่เลยสักนิด ภรรยาเปิดจดหมาย สามีเสพติดเกม PUBG อย่างหนักจนลืมครอบครัว
เรื่องราวมาจาก Facebook ของคุณ Akhtar Syamir ได้เล่าเรื่องปัญหาสามีเสพติดเกม PUBG จนลืมหน้าที่การงานและดูแลครอบครัว ซึ่งหากอ้างอิงจากการแปลภาษาแบบคร่าว ๆ เธอกล่าวว่า สามีของเธอมีการอาการเสพติดวิดีโอเกมมานานแล้ว แต่หลังจากเกม PUBG เปิดให้บริการ ทำให้สามีของเธอได้เผยธาตุแท้ด้วยอาการติดเกมที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและยากที่จะแก้ไขได้
อาการเสพติด PUBG ของสามีรุนแรงมากจนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และทำลายครอบครัวในที่สุด โดยสามีของเธอมักกล่าวโทษภรรยาอยู่เสมอว่าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแฮปปี้กับการใช้ชีวิตร่วมกันเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจึงแสวงหาความสุขจากการเล่นวิดีโอเกมแทน แล้วเริ่มละทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลังจากนั้นเป็นต้นมา
จนมีครั้งหนึ่งที่ลูกชายของครอบครังกำลังนอนป่วย แทนที่คุณพ่อ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวจะช่วยดูแลหรือดูอาการป่วยอย่างใกล้ชิด แต่กลับเอาแต่เล่นวิดีโอเกมแล้วไม่สนใจลูกแม้แต่นิดเดียว
ภรรยาพยายามที่จะตักเตือนให้สามีของเธอเข้ารับการบำบัดจากการเสพติดวิดีโอเกมก่อนที่จะสายเกินแก้ แต่การเกลี้ยกล่อมก็ยังไม่เป็นผล เนื่องจากพลังของ PUBG ได้เริ่มเกาะกินทำลายความสัมพันธ์ของครอบครัวทีละนิด
ตอนนี้เธอกำลังต่อสู้กับสามีอยู่ในปัจจุบัน เธอจึงแชร์ประสบการณ์ช่วงเวลาอันแสนลำบากยากเข็ญมาเปิดเผยผ่านโซเชี่ยลเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้สำหรับทุกคน และแสดงความคิดเห็นลงท้ายไว้ว่า วิดีโอเกม และเหล่าเกมเมอร์ไม่ผิด แต่คนผิดคือคนที่เล่นเกมจนเสพติดต่างหาก
นี่คือหนึ่งในเคสตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการเสพติดวิดีโอเกมได้ส่งผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งไม่ใช่ส่งผลกระทบแต่เพียงแค่ตัวเราคนเดียว แต่รวมไปถึงกระทบต่อความสัมพันธ์คนรอบข้างอีกด้วย
ฉะนั้นทางที่ดีที่สุด ผู้เล่นควรแยกแยะระหว่างหน้าที่การงานกับเวลาว่างให้เล่นเกมตั้งแต่เริ่มต้น แล้วปัญหาชนิดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนครับ
