ในเมื่อวานเป็นวันแรกที่เหล่าผู้บริหาร Activision Blizzard, Sony PlayStation และ Microsoft Xbox มีการรวมตัวที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อนัดเจอกับคณะกรรมการ EU เพื่อพูดคุยประชุม และแถลงในประเด็นการเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ของ Microsoft
แน่นอนว่าในการประชุมดังกล่าวเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียด โดยระหว่างการประชุม ทาง Activision Blizzard ได้มีการวิจารณ์ Sony ว่าพวกเขาพยายามกีดกั้นดีล เพื่อ Sony ได้ครองตำแหน่งเป็นผู้นำตลาดวิดีโอเกมต่อไป ทั้งที่ได้เป็นมาแล้ว 2 ทศวรรษ
“ภารกิจของหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป คือการปกป้องผู้บริโภคในยุโรป ไม่ใช่การปกป้องผู้นำตลาดระดับโลก Sony มีความพยายามที่จะทำลายเป้าหมายนั้น เพื่อปกป้องการครอบงำตลาดวิดีโอเกมที่พวกเขาได้เป็นผู้นำมาตลอด 2 ทศวรรษ
เรามั่นใจว่าหน่วยงานกำกับดูแล จะพบว่าการควบรวมกิจการที่เราเสนอไป จะช่วยเพิ่มการแข่งขัน และสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับพนักงาน และเกมที่ดีขึ้นสำหรับผู้เล่นของเรา” – ตัวแทนจาก Activision
Microsoft thinks its two deals, with Nvidia and Nintendo, will be enough to convince regulators. Smith on the CMA: "Do you want to kill a deal and cement Sony's position? Or do you want to open this [Call of Duty] up to 150 million more people?" pic.twitter.com/S1M3bmqEY5
— Tom Warren (@tomwarren) February 21, 2023
ในขณะเดียวกัน Brad Smith ประธาน Microsoft คนปัจจุบัน ได้กล่าวว่าทีมงาน “คาดหวัง” ว่า Sony จะให้ความร่วมมือด้วยการยอมติดต่อมาถึง Microsoft เพื่อหารือกับยอมรับเกี่ยวกับดีลครั้งนี้ พร้อมมีการโชว์แผนภูมิวงกลมจาก IDG ที่ระบุว่า PlayStation สามารถทำรายได้ในตลาดวิดีโอเกมช่วงปี 2022 ในโซนยุโรปถึง 80% ในขณะที่ Xbox ทำได้เพียง 20% เท่านั้น
“Sony สามารถทุ่มแรง และเวลาทั้งหมด เพื่อพยายามกีดกั้นดีลนี้ หรือจะมานัดคุยกับพวกเรา เพื่อหารือ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึง Call of Duty ในอนาคต
คุณต้องการทำลายข้อตกลง แล้วยึดตำแหน่งของ Sony ต่อไป หรือคุณต้องการเปิดให้เกม [Call of Duty] เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นอีก 150 ล้านคน ?” – Brad Smith กล่าว
150 ล้านคนที่ Brad Smith กล่าวถึงนั้น คือการคาดการณ์ของ Microsoft ที่ผู้เล่นจะเข้าถึง Call of Duty เพิ่มมากขึ้น หาก Call of Duty สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม Nintendo กับ NVIDIA Geforce Now ได้ โดยไม่นานมานี้ ทาง Microsoft มีการเซ็นสัญญาระยะยาว 10 ปี กับ Nintendo และ NVIDIA เพื่อต้องการนำหลายเกมรวมถึง Call of Duty ไปลงทั้งสองแพลตฟอร์ม