BY Watchman
24 Jan 23 3:41 pm

The Last of Us กับเส้นทางจากเกมที่ผู้คนรักและผูกพัน สู่ซีรีส์มาแรงที่ใครต่างก็เอ่ยปากชม

47 Views

พูดถึงเกม PlayStation ที่ใครๆ ก็ต้องเล่น คงไม่พ้น The Last of Us ไม่เพียงแต่เกมนี้จะเป็นเกมที่ให้ประสบการณ์และสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี แต่ The Last of Us เป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีของเกมที่ผลักดันให้เกิดการแข่งขันด้านเนื้อเรื่องมากขึ้น เพราะเกมๆ นี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเนื้อเรื่องและตัวละครที่ดี = เกมที่ดี และเกมที่ดี = ประสบการณ์ที่จำไม่มีวันลืม หรือมากกว่านั้นคือกลับมาเยี่ยมเยียนมากกว่าหนึ่งครั้ง

The Last of Us คือเป็นแนวแอ๊คชั่น-ผจญภัยมุมมองบุคคลที่สามของค่ายหมาซุกซน (Naughty Dog) ที่จัดจำหน่ายโดยค่าย Sony Entertainment ว่าด้วยเรื่องราวของการเดินทางในโลก post-apocalyptic ที่ล่มสลายเพราะเชื้อรายึดร่างมนุษย์ เรื่องราวจะเล่าผ่านตัวละครหลักสองตัวคือ Joel ผู้รับงานเดินทางข้ามประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อลักลอบขนส่ง Ellie เด็กสาววัยรุ่นผู้เป็นความหวังหนึ่งเดียวของโลกใบนี้ไปยังสถานที่ปลายทางโดย ผู้เล่นเกมนี้จะต้องเผชิญกับทั้งซอมบี้เชื้อรากลายพันธุ์ และสิ่งที่น่ากลัวไม่แพ้กันคือมนุษย์ด้วยกัน

The Last Of Us (2)

จุดเริ่มต้นของ The Last of Us และ Part I

ต้นกำเนิดหรือการพัฒนาเกม The Last of Us เริ่มต้นขึ้นในปี 2009 หลังจากที่ Naughty Dog วางจำหน่ายเกม Uncharted 2: Among Thieves นี่คือครั้งแรกที่บริษัทนี้แยกเป็นสองทีม ทีมนึงรับหน้าที่พัฒนาภาคต่อที่สร้างชื่อให้บริษัทอย่าง Uncharted 3: Drake’s Deception ส่วนอีกทีมพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่อย่าง The Last of Us

Neil Druckmann รับหน้าที่พัฒนา ดูแลบท และสร้างสตอรี่ ในขณะที่ผู้กำกับ Uncharted 2 อย่าง Bruce Straley รับหน้าที่กำกับ โดยมี Gustavo Santaolalla คอมโพสเซอร์ชื่อดังเจ้าของรางวัลออสการ์เป็นผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ ส่วนนักแสดงนำคือ Troy Baker กับ Ashley Johnson ที่มารับบทเป็น Joel และ Ellie ตามลำดับ ทั้งสองคนรับหน้าที่ให้เสียงและแสดงโมชั่นแค็ปเจอร์ และยังมีส่วนในการออกไอเดียเกี่ยวกับนิสัยใจคอและการตัดสินใจของตัวละครอีกด้วย

ไอเดียตั้งต้นของ The Last of Us คือการเป็นเกมที่เล่าเรื่องแนว coming-of-age โดยไฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของ Joel และ Eillie เป็นหลัก นอกเหนือจากนั้นถูกสร้างรอบๆ ตัวละครทั้งสอง อีกหนึ่งในคอนเซ็ปต์หลักที่สำคัญคือชีวิตจะต้องเดินต่อไป ถึงแม้ว่าโลกจะถูกปกครองไปด้วยเชื้อราก็ตาม ซึ่งไอเดียเกี่ยวกับเชื้อรา Neil ได้รับมันมาจากการดูสารคดี Planet Earth แล้วค้นพบว่าเชื้อราเห็ด Cordyceps สามารถควบคุมแมลงได้ เขาตั้งคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมันเกิดขึ้นกับมนุษย์

ในขณะที่แรงบันดาลใจด้านวิช่วล Ricky Cambier เกมดีไซเนอร์เล่าว่าเกม Ico และ Resident Evil 4 กับหนังซอมบี้คลาสสิก Night of the Living Dead และตัวละคร John Hartigan ใน Sin City คือแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบ เกม The Last of Us เป็นเกมที่ตั้งใจให้น้ำหนักกับทั้งความสัมพันธ์ตัวละครและความตึงเครียดของโลกล่มสลายใบนี้

ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศในปี 2011 จากทาง Naughty Dog ว่าพวกเขากำลังทำเกมสนี้อยู่ ผู้คนต่างก็คาดหวัง และถึงแม้จะมีคำกล่าวว่า “ไม่คาดหวังไม่ผิดหวัง” แต่นั่นไม่ใช่กับ The Last of Us เพราะทันทีที่เกมออกจำหน่ายในปี 2013 และเปิดให้เล่นใน PlayStation 3 เกมนี้ต่างก็ได้รับคำชื่นชมล้มหลาม ทั้งจากผู้เล่นและนักวิจารณ์ ในแง่ภาพ การเล่าเรื่อง ตัวละคร อารมณ์ร่วมที่ได้จากการเล่น ดนตรีประกอบ การออกแบบเสียง และอื่นๆ อีกมาก รวมไปถึงบทบาทโดนเด่นของตัวละครหญิงอีกด้วย บางคนถึงกับบอกว่านี่คือหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล

ไม่เพียงแค่กระแสของรับ ยอดขายของ The Last of Us ยังพุ่งทะลุทะลวงจนกลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ด้วยยอดขาย 1.3 ล้านยูนิตเพียงแค่สัปดาห์แรก และ 17 ล้านยูนิตภายใน 5 ปีต่อมา และปัจจุบันหรืออีกสิบปีต่อมา The Last of Us มียอดขายสูงถึง 37 ล้านยูนิตทั่วโลก ส่วนทางด้านรางวัลก็ไม่แพ้กัน The Last of Us โกยหลายรางวัลไปจากหลายเวทีประกาศรางวัลเกม และมักจะชนะสาขาใหญ่อย่าง Game of the Year และได้คะแนน 10/10 จากหลายสำนัก

The Last Of Us Part I Remake

จุดเด่นของเกม The Last of Us

แน่นอนว่าจุดเด่นที่โดดเด่นที่จุดของ The Last of Us คือสตอรี่และตัวละคร แต่หากพูดถึงอย่างอื่นเช่นระบบเกม ก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่ผู้เล่นได้รับจากการรับบทเป็นตัวละครที่ต้องทั้งปกป้องและเอาตัวรอดในโลกที่อันตรายจากทั้งศัตรูที่ไม่ได้มุ่งหวังอย่างอื่นนอกจากแพร่พันธุ์หรือโจมตีตามสัญชาติญาณอย่างพวก Cliciker และศัตรูที่โจมตีเราด้วยสัญชาติญาณดิบอย่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

การต่อสู้ในเกม The Last of Us มีตั้งแต่ใช้อาวุธระยะยาวอย่างธนู ไรเฟิล  ปืนสั้น เครื่องพ่นไฟ ปืนลูกซอง ปืนบอมพ์ ระเบิดขวด ไปจนถึงระยะสั้นอย่างพวกมีดสั้นมีดพก ขวาน มีดมาเชเต้ ท่อเดี๋ยวนะ (ท่อแป๊บ) รวมไปถึงอะไรที่หยิบปาได้ก็หยิบอย่างก้อนอิฐ และยังมีระบบคราฟต์ของเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บฟื้นฟู HP กับ Listen Mode ที่ช่วยระบุตำแหน่งศัตรูผ่านสิ่งกีดขวางอย่างกำแพงอีกด้วย

AI เกมนี้ยังมีความเป็นมนุษย์ตรงที่มักจะทำสิ่งที่มนุษย์ทำ คือเรียกกำลังเสริมหากสบโอกาส และฉวยโอกาสโจมตีเมื่อมีช่อง ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นเกมเนื้อเรื่องและเกมบู๊ แต่ The Last of Us ยังเป็นเกมที่ละเอียดยิบๆ และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทำอย่างอื่นนอกจากคุยกับต่อสู้ เช่น ไขปริศนา และสำรวจแผนที่ กับเรื่องราวเพิ่มเติมจากบันทึกต่างๆ

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ The Last of Us เป็นที่นิยมคือ Online Multiplayer Mode ที่เรียกว่า ‘Factions’ ในโหมดนี้ผู้เล่นจะเล่นได้สูงสุด 8 คนที่ไม่ใช่ Joel กับ Ellie เหมือนโหมดปกติ แต่เลือกเล่นเป็นฝ่าย Hunters หรือ Fireflies โดยมีเกมอยู่สามประเภท คือเกม Deathmatch อย่างบุกปล้นสะดม (Supply Raid) และเอาตัวรอด (Survivors) กับเกมแนวสืบสวนระบุตำแหน่งทีมศัตรู (Interrogation)

The Last Of Us

ภาคแยก การรีมาสเตอร์ และรีเมค

ในปี 2014 หลังจากที่มีการปล่อยภาคเสริมอย่าง The Last of Us: Left Behind ที่มีเนื้อเรื่องเล่าเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ Ellie กับเพื่อน (รัก) อย่าง Riley ก่อนที่ Ellie และมาเจอ Joel และเกิดเป็นเรื่องราวในเกม The Last of Us Part I

หลังจากนั้นทาง Sony วางจำหน่าย The Last of Us ฉบับรีมาสเตอร์สำหรับเวอร์ชั่น PlayStation 4 โดยนอกจากเรื่องภาพที่สวยที่อัปเกรดให้สวยขึ้นและคมชัดเฟรมเรตสูงขึ้นแล้ว ยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นและโหมดใหม่เข้าไปอีกด้วย เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่เข้าถึงได้มากที่สุด

ต่อมาในปี 2022 ก็ได้มีการประกาศรีเมคสำหรับเวอร์ชั่นที่เล่นบน PlayStation 5 โดยมีกำหนดวางจำหน่ายคือเดือนมีนาคมปี 2023 การรีเมคครั้งนี้นอกจากจะทำให้มีความใหม่เอี่ยมเข้ากับยุคสมัย

จุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้ประสิทธิภาพของ PlayStation 5 ได้อย่างสูงสุด (คือคุ้มที่สุดนั่นแหละ) การรีเมคครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่เกมเพลย์ ภาพ สี แสง เสียง การควบคุมเกม อาร์ทไดเร็กชั่น  อนิเมชั่น AI และโมเดลตัวละคร ทั้งหมดก็เพื่อเน้นย้ำเรื่องความสวยงามในโลกที่ดิสโทเปีย ดาร์กและ กำลังล่มสลาย

ซึ่งกระแสตอบรับก็ค่อนข้างที่จะเสียงแตก บ้างก็ว่าเป็นการรีเมคที่ไม่จำเป็นในเมื่อมีฉบับรีมาสเตอร์แล้ว บ้างก็รอคอย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ค่อนข้างจะเห็นตรงกันว่างานภาพที่ทำการรีเมคนั้นออกจะเยอดเยี่ยมเอามากๆ

The Last of Us Part II

ภาค 2 ของ The Last of Us ตามมาในปี 2020 ภาคนี้ถูกสร้างมาสำหรับ PlayStatioon 4 โดยเนื้อเรื่องในเกิดขึ้น 5 ปีหลังตอนจบเหตุการณ์ภาคแรก ที่จะโฟกัสไปที่ตัวละครสองตัวเป็นหลักคือ Ellie ผู้ออกเดินทางเพื่อล้างแค้น กับ Abby ทหารหญิงผู้ไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างกองกำลังของตัวเองและลัทธิศาสนา

การพัฒนาเกม The last of Us Part II เกิดขึ้นในปี 2014 หลังจากที่จัดจำหน่ายฉบับรีมาสเตอร์แล้ว Part II เป็นภาคที่ Neil Druckmann ได้รับแรงบันดาลใจพล็อตแก้แค้นมาจากประสบการณ์ของตัวเขาเองระหว่างเติบโตขึ้นมาในประเทศอิสราเอล และเขารับหน้าที่ทั้งเขียนบทเองและกำกับเองโดยที่ครั้งนี้ไม่มี Bruce Straley

Neil Druckmann กล่าวว่า The Last of Us Part I เป็นเรื่องราวที่จะวัดว่าคนๆ หนึ่งทำอะไรได้บ้างเพื่อความรัก ในขณะที่ Part II จะเป็นเรื่องของการที่ความรักจะทำให้คนๆ หนึ่งออกเดินทางล้างแค้นเพื่อความยุติธรรมได้ไกลแค่ไหน

เดิมที The Last of Us Part II เกือบจะถูกสร้างเป็นเกม open world ก่อนที่จะถูกจำกัดให้มีลู่ทางชัดเจนเพื่อที่จะได้สอดคล้องกับเส้นเรื่อง  ถึงอย่างนั้นก็เป็นภาคที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด และมีดีเทลดกว่าที่เคย ทั้งเรื่องศัตรูที่ต้องปะทะ สภาพแวดล้อมที่ใหญ่โตขึ้นกว่าภาคแรกมากๆ การใช้ AI โดยเฉพาะการเน้นไปที่มิติตัวละครที่ตั้งใจให้ทุกอย่างออกมาสมจริงกว่าที่เคย ทั้งด้านสตอรี่และด้านภาพ

เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ย่ำแย่มากและทางทีม Naughty Dog ต้องทำงานหนัก มีข่าวว่าพวกเขา 350 คนทำงานต่อเนื่องถึงวันละถึง 12 ชั่วโมง โดยในการสร้างภาคต่อเกมที่มีคนคาดหวังสูงเกมนี้ มีนักพัฒนาอีก 2,169 คนจากทั้งหมด 14 สตูดิโอ (รวม Naughty Dog แล้ว) ด้วยกันที่มีส่วนร่วมกับโปรเจ็กต์นี้

แต่ผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพึงพอใจเพราะ The Last of Us Part II ได้รับคำชมถึงองค์ประกอบต่างๆ อย่างล้มหลาม ได้คะแนน 10/10 จากหลายสำนักเช่นเคย กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ขายดีและเร็วที่สุดของ PlayStation 4

โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับรางวัล Game of the Year หรือเกมแห่งปีมากถึง 320 รางวัลจากทั้งหมด 567 รางวัลในปี 2020 รวมไปถึงเวทีที่ใหญ่ที่สุดในวงการเกมอย่าง The Game Award ด้วยเช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ The Last of Us Part II ยังเป็นเกมที่กวาดรางวัลนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนที่เพิ่งจะโดนโค่นสถิติไปโดยเกม Elden Ring ในปี 2022 ด้วยยอด 321 รางวัล

The Last Of Us

ฉบับทีวีซีรีส์

และแล้วก็มาถึงฉบับซีรีส์ของ HBO ซีรีส์ The Last of Us ซีซั่นแรกเป็นการดัดแปลงโดยตรงจากเกม Part I ซึ่งเนื้อเรื่องจบซีซั่นจะไปบรรจบกับตอนจบของเกมภาคแรกพอดี หลังจากนั้น ผู้สร้างจะดัดแปลงจากเกม Part II ต่อ แต่มีแผนแน่นอนแล้วว่าจะไม่ทำหลายซีซั่นหรือเกินเลยไปกว่าที่เนื้อเรื่องจะไปได้หรือเกินกว่าต้นฉบับจะมี เพราะไม่ต้องการเป็นแบบ Game of Thrones ที่ทำเลยต้นฉบับจนแปรเปลี่ยนจากซีรีส์ที่คนรักเป็นซีรีส์ที่คนต่างก็แทบไม่อยากพูดถึงเมื่อซีรีส์จบลง

The Last of Us ฉบับทีวีซีรีส์เป็นการดัดแปลงจากเกมครั้งแรกของ HBO และเป็นโปรเจ็กต์รวมตัวเทพจากทุกฝั่ง ไม่ว่าจะเป็น Neil Druckmann ที่ทั้งมาร่วมเขียนบท เป็นผู้สร้าง คุมเนื้อเรื่อง เลือกแคสติ้งตัวละครหลัก และกำกับเอง โดยเป็นครีเอเตอร์ร่วมกับ Craig Mazin ผู้สร้างซีรีส์ขั้นเทพอย่าง Chernobyl ที่เป็นแฟน The Last of Us อยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังได้ Gustavo Santaolalla ที่สกอร์ดนตรีประกอบเกมต้นฉบับกลับมาสกอร์ให้ และยังมี Barrie Gower คนทำเมคอัพ Night King ใน Game of Thrones มาเมคอัพให้, Cynthia Ann Summers จาก The Series of Unfortunate Events มาดูแลคอสตูมให้ และยังได้สตูดิโอ Elastic ที่เคยทำ opening credits ให้ซีรีส์ Game of Thrones และ Westworld มาทำ opening credits ให้กับเรื่องนี้อีกด้วย

ส่วนด้านนักแสดง บท Joel และ Ellie รับบทโดย Pedro Pascal กับ Bella Ramsey หรือ Oberyn Martell และน้องหมีจาก Game of Thrones ตามลำดับ ที่ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะทั้งหน้าตาและเชื้อชาติไม่ได้ตรงกับต้นฉบับ แต่ Neil Druckmann มั่นใจแล้วว่าสองคนนี้คือ Joel กับ Ellie และมีอินเนอร์ที่จะถ่ายทอดจิตวิญญาณตัวละครที่ผู้คนรักทั้งสองได้อย่างเที่ยงตรง

ซีรีส์ The Last of Us ดังเปรี้ยงปร้างไม่แพ้เกมและดึงดูดผู้ชมทั้งที่เป็นแฟนเกมอยู่แล้วและทั้งที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน แบบที่เรียกได้ว่าสร้างฐานให้คนรู้จัก The Last of Us มากขึ้นอย่างประสบความสำเร็จ เพราะทันทีที่อีพีแรกออนแอร์ ซีรีส์เปิดตัวด้วยคะแนน IMDb 9.7/10 (ปัจจุบัน 9.3) และได้รับคำชมล้นหลามว่าทั้งเคารพต้นฉบับ มาสเตอร์พีซ การดัดแปลงจากเกมที่ดีที่สุดที่เคยมีมา กับเสริมรายละเอียดที่ไม่มีในเกมได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น ฉากเปิดที่ให้นักวิชาการมาออกรายการเพื่ออธิบายถึงคอนเซ็ปต์ของเชื้อรา และความน่ากลัวของมันที่เรากำลังจะได้ดู ฉากนี้เป็นฉากที่คนดูกล่าวขานและพูดถึงกันเยอะ กับฉากบางฉากที่เรียกได้ว่าแทบจะเป๊ะกับในเกมทั้งมุมกล้องและบทพูด นอกจากนี้ยังมีการเสริมดีเทลต่างๆ ที่คนดูที่ไม่ได้เล่นเกมจะได้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น มีน้ำหนักขึ้น ในขณะที่คนเล่นเกมที่รู้เรื่องราวมาแล้วจะยิ่งอินด้วยสิ่งเหล่านี้

ซีรีส์เปิดตัวมาด้วยเรตติ้งผู้ชม 4.7 ล้านวิวซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของช่อง HBO นับตั้งแต่ปี 2010 และมากที่สุดโดยเป็นรองเพียงแค่ House of the Dragon เท่านั้น อีกทั้งทุนสร้างและการนำเสนอยังจัดเต็มไม่กั๊ก ด้วยทุนสร้างสูงถึง 10-15 ล้านดอลล่าร์ต่ออีพี ที่ทุนสร้างต่ออีพีมากกว่าสมัย Game of Thrones ซีซั่น 5 ซะอีก

ทั้งแนวทางการนำเสนอ ด้านความโหดของฉาก คำหยาบคายแบบไม่กั๊ก ความเป็นดราม่าเข้มข้น กับทุนสร้างและคุณภาพ นับว่า The Last of Us นอกจากจะอยู่ในมือของผู้ดูแลถูกคนแล้ว ยังอยู่ในช่องที่ถูกต้องและดูจะเข้ากับซีรีส์ที่สุดอีกด้วยครับ เป็นเรื่องดีที่นอกจากจะไม่ทำให้ผิดหวัง (แบบหนังซีรีส์ดัดแปลงจากเกมอย่างที่ผ่านมา) แล้ว ยังทำออกมาได้ดีเกินคาด

ที่มา

http://www.gameinformer.com

http://www.techradar.com

https://blogs.scientificamerican.com

http://www.gamespot.com

http://www.gamasutra.com

https://www.thedigitalfix.com

Watchman Watchman

A man who ชื่นชอบการดูหนังซีรีส์ ไซไฟ ปรัชญา Game of Thrones และชอบเขียนวิเคราะห์เป็นชีวิตจิตใจ

Back to top