BY KKMTC
18 Oct 23 8:06 pm

รีวิว Fate/Samurai Remnant เกมแอ็กชันที่ไม่ใช่แฟนเดนตายก็อินได้

671 Views

แฟรนไชส์ Fate ถูกสร้างเป็นอนิเมะ เกม มังงะ และนิยายไลท์โนเวลมาหลายภาค และนี่เป็นครั้งแรกของ Koei Tecmo กับ Omega Force ทีมผู้สร้าง Dynasty Warriors ได้จับมือกับ Type-Moon เพื่อสร้างเกม Fate เป็นแนวแอ็กชัน RPG แล้วเกมนี้จะถูกใจแฟนหรือไม่ มาอ่านรีวิว Fate/Samurai Remnant ได้เลย

Story

Fate Samurai Remnant

เนื้อเรื่อง Fate/Samurai Remnant ได้ตั้งอยู่ในปี 1651 หรือช่วงยุคสมัยเอโดะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเล่าผ่านมุมมองของ Miyamoto Iori บุตรบุญธรรม และลูกศิษย์ของนักดาบระดับตำนานอย่าง Miyamoto Musashi

แต่หลังจาก Musashi ผู้เป็นอาจารย์ของ Iori ได้เสียชีวิต และญี่ปุ่นได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความโหดร้าย ทำให้นักดาบไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป ทำให้ Iori ได้ผันตัวกลายเป็น Ronin ซามูไรไร้เจ้านายที่รับจ้างทำงานต่าง ๆ เพื่อประทังชีวิตตัวเองในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเข้าสู่ความสงบสุข

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาความสงบสุขของ Iori ก็หมดไป เพราะจู่ ๆ เขาได้เข้าไปผัวพันกับ ‘Waxing Moon Ritual’ สงครามที่มาสเตอร์กับเซอร์แวนท์ทั้งหมด 7 คู่ ต้องต่อสู้กันอย่างนองเลือด เพื่อแย่งชิงจอกที่ทำให้ความปรารถนาของมาสเตอร์ได้เป็นจริง

Iori ค้นพบว่าตัวเองได้ถูกเลือกให้เป็น 1 ในมาสเตอร์จากจำนวน 7 คน ที่ต้องเข้าร่วมสงคราม Waxing Moon Ritual โดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วพบกับ Saber เซอร์แวนท์ฝีมือเก่งกาจประจำตัวของ Iori ทั้งสองคนจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้ และออกเดินทางทั่วเมืองเอโดะ เพื่อเอาตัวรอด และชนะสงครามให้ได้

อย่างแรกเลยคือ คนที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ Fate มาก่อนนั้น จะสามารถเข้าถึงได้ค่อนข้างง่าย ผิดกับภาคอื่น ๆ ที่อาจจะต้องรู้จักและทำความเข้าใจมาก่อน โดยที่มันเข้าถึงง่าย เพราะมันเน้นนำเสนอเรื่องความสัมพันธ์ของ Iori กับ Saber เท่านั้น ไม่ได้ลงลึกจักรวาลหลักอะไร และเนื้อเรื่องเกมนี้ก็ไม่ได้ผูกกับภาคใด แต่เป็นเนื้อเรื่อง Original ที่ทำขึ้นมาใหม่ ไม่มีความจำเป็นว่าผู้เล่นต้องเล่นเกมไหน ดูอนิเมะภาคไหน หรืออ่านนิยายมังงะเล่มไหนมาก่อน ก็สามารถอินกับสตอรีได้

จุดเด่นสตอรีเกมนี้ คือการนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง Iori และ Saber ที่เราจะได้เห็นวิวัฒนาการตัวละครทั้งด้านฝีมือการต่อสู้ ความคิด และลักษณะนิสัย จากคู่หูที่ดูเข้ากันไม่ได้ แต่สุดท้าย เพราะประสบการณ์ในสงคราม และการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน ก็ทำให้สองคนกลายเป็นเพื่อนร่วมรบที่ไม่สามารถตัดขาดกันได้

นอกจากนี้ ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่อง ผู้เล่นได้พบปะกับมาสเตอร์คนใหม่ และเซอร์แวนท์คนต่าง ๆ ที่คุ้นตาคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น Jehanne d’Arc, Berzerker, Tamamo , Archer และแน่นอน รวมถึง Miyamoto Musashi นักดาบระดับตำนานที่เป็นอาจารย์ของ Iori เช่นกัน รวมถึงเรื่องราว ปมปริศนา ข้อมูลใหม่ต่าง ๆ จะมีการเปิดเผยมากขึ้น ซึ่งทำให้พล็อตเนื้อเรื่องเริ่มมีความซับซ้อน มีความเข้มข้น และน่าสนใจเป็นระยะ ๆ โดยไม่มีการยัดเนื้อหาหรือปมมากเกินไปจนรู้สึกว่าพล็อตมันออกทะเล

Fate Samurai Remnant

และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับตระกูล Fate คือฉาก Cinematic แอ็กชันที่ดุเดือดเมามัน ซึ่งเกมนี้ยังสามารถออกแบบฉากคัตซีน และท่าไม้ตายของเซอร์แวนท์ได้ไม่น่าผิดหวัง มีความอลังการงานสร้างที่เห็นครั้งแรกแล้วต้องรู้สึกว้าว และมอบความบันเทิงให้ผู้เล่นได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Fate/Samurai Remnant เป็นเกมที่ให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องและตัวละคร ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวเกมจะโยนฉากคัตซีน กับบทพูดที่ยาวมาก ซึ่งบางครั้ง ตัวเกมมีบทสนทนาที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไปจนทำลายจังหวะ Pacing การเล่นเกมได้เช่นกัน แต่ถ้าหากคุณชอบการสนทนา หรือไม่อยาก Skip เนื้อเรื่อง ก็ขอให้เตรียมขนม ป๊อปคอร์นมากินระหว่างเสพเนื้อเรื่องได้เลย

ถึงแม้เกมมีข้อเสียในเรื่อง Pacing ด้วยบทสนทนายืดยาว แต่หากข้ามข้อเสียดังกล่าวไปได้ ผมรับประกันเลยว่านี่คือเกม Fate ที่มีเนื้อเรื่องเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เข้าใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย

Presentation

Fate Samurai Remnant

การนำเสนอของ Fate/Samurai Remnant จะบอกว่าเป็น Fate ฉบับซามูไรก็ว่าได้ เพราะนอกจากใช้ฉากหลังเป็นประเทศญี่ปุ่นแล้ว กลิ่นอายของ Fate ก็ยังคงอยู่ครบ ตัวอย่างเช่น แม้ในเกมใช้ชื่อสงครามว่า Waxing Moon Ritual แต่ความจริง สงครามดังกล่าวก็ไม่ต่างจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ของ Fate หลายภาคที่มาสเตอร์ กับเซอร์แวนท์ต้องจับคู่กัน เพื่อต่อสู้มาสเตอร์ กับเซอร์แวนท์อีกฝ่าย เพื่อแย่งชิงจอกที่สามารถทำให้ปรารถนาของมาสเตอร์เป็นจริง

เนื้อหา Lore ของเกมภาคนี้จะเน้นเผยรายละเอียดสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ คลาสต่าง ๆ กฎของสงคราม รวมถึงประวัติของเซอร์แวนท์แต่ละคน โดยรายละเอียดจะไม่ล้ำลึกมาก เน้นอ่านง่าย มีตัวอักษรน้อย และเผยข้อมูลเบสิกที่ทุกคนฟังหรืออ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้จะนำเสนอผ่านฉากคัตซีนโดยตรง และอ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าต่าง Logbook

แม้การนำเสนอ Lore ไม่ได้ล้ำลึกมากนัก และไม่ได้ครอบคลุมเนื้อหา Lore ของ Fate ทั้งจักรวาล แต่ก็นับว่าเป็นข้อดีที่จะทำให้คนหน้าใหม่สามารถเข้าถึงตระกูล Fate ได้ และเป็นการปูทางให้ผู้เล่นอยากเข้าใจจักรวาล Fate ที่นอกเหนือจากเกมภาคนี้มากขึ้น

ส่วนตัวละครก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์เด่นสำหรับเกมนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนต้องถูกใจคาแรคเตอร์ Iori กับ Saber แน่ ๆ โดยเฉพาะ Saber แม้เป็นเซอร์แวนท์ที่เก่งกาจ แต่เพราะขาดความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น และเครื่องมือเทคโนโลยีในยุคนั้น ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นระหว่างการผจญภัยในเมืองเอโดะอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าร้านอาหาร หรือได้กินข้าวกับซุปมิโซะ ตาของเธอจะเปล่งประกายทุกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นด้านอ่อนโยน ด้านสนุกสนานของ Saber ที่ผมเห็นกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หรือน่ารำคาญแต่อย่างใด

ไม่ใช่ตัวละครเอกฝ่ายเดียวที่น่าสนใจ แต่รวมถึงพันธมิตร, มาสเตอร์ และเซอร์แวนท์คนอื่น ล้วนก็มีประวัติความเป็นมา มีรหัสเกียรติยศเป็นของตัวเอง มีจุดมุ่งหมาย และความปรารถนาอันแรงกล้าที่ทำให้ได้รับเลือกเป็นมาสเตอร์ เพื่อเข้าร่วมสงคราม Waxing Moon Ritual

ซึ่งพันธมิตรบางกลุ่ม และเซอร์แวนท์บางคน จะมีเนื้อเรื่อง Sub-Story ของตัวเองที่เรียกว่า Digression หรือภารกิจเสริมที่เน้นขยายเรื่องราวของกลุ่มหรือเซอร์แวนท์ ซึ่งทำให้พวกเราเข้าใจพื้นหลังของพันธมิตรในกลุ่มเรามากขึ้น และหากมีความสัมพันธ์มากพอ พวก Rogue Servant บางคน (เซอร์แวนท์ที่ไม่มีมาสเตอร์) จะเข้ามาช่วยเป็นกำลังรบให้เราได้ด้วยเช่นกัน

แม้บางเนื้อเรื่องในภารกิจ Digression มีความน่าสนใจ ได้ของรางวัลดี และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลองบังคับเล่นเซอร์แวนท์ที่เก่งกาจ แต่ก็มีจุดที่ต้องติคือบางภารกิจ Digression มีเนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่ รวมถึงบางภารกิจเป็นการตบบอสอย่างเดียวแล้วจบเนื้อหาเลยโดยไม่มีการขยายเนื้อหาเพิ่ม และบางภารกิจ Digression เมื่อเริ่มดำเนินแล้วจะไม่สามารถกดยกเลิกได้ ต้องเคลียร์ภารกิจก่อนจึงจะกลับมาทำเนื้อเรื่องหลักต่อได้อีกครั้ง ซึ่งมีผลกระทบต่อ Pacing ของเกมพอสมควร

นอกจากการต่อสู้แล้ว ตัวเกมได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจญี่ปุ่นในยุคโบราณ ซึ่งบรรยากาศของเกมนี้จัดว่าทำออกมาได้ดี มีความสวยงามสมกับเกมยุคปัจจุบัน สามารถจับความเป็นญี่ปุ่นโบราณได้ตรงจุด ระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นสามารถคุยกับ NPC เพื่อเรียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถเก็บไอเทมที่หล่นข้างทางโดยไอเทมบางชิ้นสามารถขายได้เงินดี และสิ่งที่สำคัญที่สุด Iori กับ Saber (รวมถึงมาสเตอร์กับเซอร์แวนท์คนอื่น) สามารถลูบน้องแมวกับน้องหมา เพื่อฟื้นฟู HP กับเกจท่าไม้ตายได้เล็กน้อย มีประโยชน์มากกว่าแค่ดูความน่ารักซะอีก

ส่วนคอนเทนต์ของเกมนี้มีปริมาณที่พอดี ไม่เยอะมากหรือน้อยจนเกินไป โดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะลงกับเนื้อเรื่องหลักกับเนื้อเรื่องเสริม ซึ่งมันเยอะจริง ๆ เพราะเล่นผ่านไป 10 ชั่วโมง ยังเพิ่งเข้าถึง Chapter 2 ที่ยังไม่ถึงจุดพีคสุดของสตอรีซะด้วยซ้ำ

ส่วนคอนเทนต์ที่เหลือจะเป็นมินิเกมเล็ก ๆ อย่างการซ่อมแซมดาบ เพื่อบัฟ EXP, ปรับปรุง Workshop เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์ต่าง ๆ หรือทำภารกิจ Edo Commission กับ Local Trials เพื่อรับของรางวัลไปใช้ซื้ออัปเกรด หรือไอเทมหายาก

แน่นอนว่านอกจากมีมินิเกมขนาดเล็กแล้ว ตัวเกมก็มีมินิเกมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “Spirit Fonts” เป็นโหมดคล้ายบอร์ดเกมที่ผู้เล่นต้องเลือกเดินทางตามช่องต่าง ๆ เพื่อปราบศัตรูให้หมด ก่อนที่พวกมันจะเดินทางเข้ามายึดครองเมืองได้สำเร็จ

Fate Samurai Remnant

โดยเกมการเล่นของ Spirit Fonts จะมีลักษณะเล่นเพลิน และต้องอาศัยการวางแผนเล็กน้อย โดยหลังจากรับชัยชนะแล้ว ผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นการเพิ่มค่าสถานะตามจำนวนช่องที่ผู้เล่นได้เดินผ่าน และพื้นที่ที่ครอบครองทั้งหมด ก็ต้องบอกเลยว่าใครรักเกมวางแผน อาจจะชอบโหมดนี้ไม่ใช่น้อย

ถึงอย่างนั้น จะบอกว่า Spirit Fonts เป็นมินิเกมขนาดใหญ่ก็อาจจะไม่ถูกต้อง เพราะโหมดนี้เป็นการบังคับเลยว่าต้องเล่นระหว่างดำเนินเควสต์เนื้อเรื่อง ซึ่งผมเองต้องยอมรับว่าแปลกใจพอสมควร และมีความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าโหมดนี้ควรเป็นเนื้อหาเสริมที่ไม่บังคับต้องทำ เนื่องจาก Spirit Fonts ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไหร่นัก

แม้มินิเกมขนาดเล็กไม่หลากหลาย และภารกิจพวก Commission อาจไม่แปลกใหม่ แต่ตัวเกมยังมอบประสบการณ์การเล่นที่เต็มอิ่มด้วยการนำเสนอที่ต้องถูกใจคนทุกกลุ่ม และปริมาณเนื้อเรื่องหลักกับเนื้อเรื่องเสริมที่เยอะจริงอะไรจริง

Gameplay

เห็นว่าเป็นเกมจากทีมงาน Omega Force นึกว่าจะต้องลุยแหลกแบบ Musou กันซะแล้ว แต่เอาจริง ๆ แล้วเกมนี้มันมีความเป็น Hack & Slash ผสม RPG ซะมากกว่า

ในเกมนี้ ผู้เล่นจะควบคุมเป็น Iori ต้องต่อสู้ร่วมกับ Saber เพื่อกำจัดศัตรูกับฝ่ายข้าศึก ซึ่งแตกต่างจากเกม Fate ไตเติลที่ผ่านมาที่มักควบคุมเป็นเซอร์แวนท์ในเกมนี้เราควบคุมเป็นมาสเตอร์ที่มีฝีมือการต่อสู้ต่างชั้นกับเซอร์แวนท์อย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกใหม่สำหรับเกม Fate และมีความเข้าท่า เพราะผู้เล่นสวมบทบาทเป็นซามูไรที่ต้องพัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อเอาตัวรอดในสงคราม Waxing Moon Ritual ฉะนั้นการปลดล็อกสกิล เพิ่มค่าสถานะจากการเลเวลอัป และอัปเกรดอาวุธ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง จึงเข้ากับแนวคิดเกม RPG พอดี

การโจมตีของเกมนี้ได้แบ่งออกเป็น 4 แบบระหว่างการโจมตีธรรมดา โจมตีหนัก ท่าไม้ตาย และโจมตีโดยใช้พลัง Spell ซึ่งผู้เล่นสามารถปล่อยท่าโจมตีได้หลากหลาย และประสานคอมโบระหว่างโจมตีธรรมดากับโจมตีหนักได้อย่างเสรี

ในช่วงเริ่มต้นของเกม Iori จะมีท่าต่อสู้ 2 แบบระหว่าง Earth Stance เน้นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว กับ Water Stance เน้นการต่อสู้กับศัตรูเป็นกลุ่ม ซึ่งท่า Stance ใหม่จะสามารถปลดล็อกได้จากการอัปเกรด Workshop ส่วนตัว และผู้เล่นสามารถสลับท่า Stance ได้ตลอดเวลา

แม้การควบคุมตัวละครมีการตอบสนองดีมีความไหลลื่น แต่ก็มีติดขัดตรงปัญหามุมกล้องที่บดบังวิสัยทัศน์เป็นบางครั้ง และเพราะการสลับท่าต่อสู้ การใช้ Spell กับ Technique  จะต้องกดปุ่มพร้อมกัน 2 ปุ่ม จึงมีบ่อยครั้งที่ผมเผลอกดผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ และต้องยอมรับว่าเล่นผ่านไปหลายชั่วโมงก็คุ้นเคยกับมันไม่ได้สักที

Fate Samurai Remnant

ระหว่างการต่อสู้ ผู้เล่นสามารถใช้ Technique เพื่อให้ Saber ปล่อยท่าโจมตีพิเศษที่มีพลังทำลายล้างเป็นกลุ่ม และทำให้ศัตรูติดอาการมึนงงได้ ซึ่งท่า Spell ของ Iori และ Technique ของ Saber สามารถเปลี่ยนแปลง และปลดล็อกทักษะใหม่ ๆ ได้จากการใช้แต้มสกิล

แต้มสกิลของเกมนี้จะไม่ได้มาจากการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งจะได้มาจากการคุยกับ Saber ที่เมื่อเธอ (ตอนนี้กำลังมีการดีเบตว่า Saber เป็นเพศชายหรือหญิงกันแน่) เจอสิ่งที่น่าสนใจ หรือทำภารกิจ Digression และบางภารกิจเสริมอื่น ๆ ซึ่งมาในรูปแบบรางวัลไอเทม Skill Jewel ตรงส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้ผมอยากทำคอนเทนต์เสริม เพื่อเอาของรางวัลไปอัปเกรดตัวละครให้เก่งขึ้น

ย้อนกลับไปที่ระบบการต่อสู้อีกครั้ง เมื่อหลอดพลัง Substitute ของ Saber เต็มแล้ว ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่มเพื่อสลับเล่นเป็น Saber ได้ชั่วคราว เนื่องจากเธอมีพลังทำลายล้างที่สูงมาก มีเอฟเฟกต์อลังการ และระหว่างเล่นก็สามารถกดใช้ท่า Technique ได้อีกด้วย การสลับเล่นเป็น Saber จึงเหมาะสำหรับการใช้ต่อสู้บอสที่มีความท้าทาย

ไหน ๆ ก็พูดถึงความยากท้าทายแล้ว เกมนี้จัดว่ามีความยากระดับปานกลาง ที่ไม่ยากเกินไปจนต้องร้องขอชีวิต หรือง่ายเกินไปจนสามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องคิดเยอะ เนื่องจากเกมนี้ไม่มี Animation Cancel ก็อาจจะเล่นยากลำบากสักหน่อยสำหรับผู้เล่นสายรัวปุ่มไม่ยั้ง เพราะมีโอกาสสูงมากที่ผู้เล่นจะโดนโจมตีจนเสียหลักระหว่างกดโจมตีอย่างเพลิดเพลิน เพราะฉะนั้นผู้เล่นจึงต้องคอยถอยหลัง หลบซ้ายขวา แล้วเข้าโจมตีศัตรูในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด

แต่แน่นอน นี่คือเกม Action RPG เพราะฉะนั้นการอัปเกรดตัวละคร จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งการอัปเกรดมีสองเส้นทางหลัก ๆ คือการปลดล็อกทักษะ ปลดล็อกลูกเล่นระหว่างการต่อสู้โดยใช้แต้มสกิลตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ และอย่างที่สอง คือการเปลี่ยนกับอัปเกรดอาวุธ

ดาบ และเครื่องประดับของดาบ มีโอกาสดรอปได้จากการปราบศัตรูระดับสูง และการต่อสู้กับบอส โดยดาบแต่ละเล่ม เครื่องประดับดาบแต่ละชิ้นจะมีค่าสถานะ และการบัฟที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งหลังจากเล่นไปเรื่อย ๆ ตัวเกมจะปลดล็อกฟีเจอร์การอัปเกรดอาวุธ

อาวุธทุกชิ้นสามารถอัปเกรดได้สูงสุด 9 ครั้ง โดยภายใน 9 ครั้ง ผู้เล่นจะสามารถเลือกอัปเกรดตรงไหนก็ได้ เช่น เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มพลังป้องกัน เพิ่มพลังบัฟ และเปลี่ยนพลังบัฟใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าการอัปเกรดจะต้องใช้ทรัพยากร และ Steel Mullet ซึ่งสามารถหาได้จากการย่อยสลายอาวุธ และเครื่องประดับของดาบที่ไม่คิดจะใช้อยู่แล้ว ฟาร์มจากศัตรู หรือซื้อจากร้านค้าขายของชำ

เนื่องจากผมชื่นชอบใช้อาวุธดาบเล่มเดียว แล้วทำการอัปเกรดค่าสถานะไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนพลังบัฟ ทำให้การเล่นเกมหลายชั่วโมงไม่ค่อยหมดเวลาไปกับการ Grind สักเท่าไหร่นัก เพราะผมจะเปลี่ยนอาวุธก็ต่อเมื่อไม่สามารถต่อกรกับศัตรูที่มีความแข็งแกร่งมาก ซึ่งจนกว่าจะถึงเวลานั้น ทรัพยากรสำหรับอัปเกรดดาบก็มีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว

ด้วยองค์ประกอบเกมเพลย์ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ Fate/Samurai Remnant เป็นเกม Hack and Slash RPG เล่นง่าย แต่มีความลึกกับความยากท้าทายระดับพอดีที่ทุกคนเล่นได้ แม้มีปัญหาเรื่องมุมกล้อง และปุ่มสลับท่าโจมตี และเลือก Spell มีการตั้งค่าชวนเผลอให้กดผิดหลายครั้ง แต่โดยรวมแล้ว ตัวเกมยังมอบประสบการณ์การเล่นที่เมามันเร้าใจสมกับเกมแอ็กชัน RPG

Performance

ส่วนในเรื่องของ Performance จากการเล่นผ่านเครื่องเกมคอนโซล PlayStation 5 พบว่าเกม Fate/Samurai Remnant รันด้วยเฟรมเรตที่ 60 FPS ซึ่งก็ตรงส่วนนี้ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะว่าเกมนี้ไม่ใช่แผนที่ Open-World จึงทำให้ตัวเกมกินทรัพยากรเครื่องไม่มากจนเกินไป

แล้วด้วยประสิทธิภาพ SSD ของเครื่องเกมคอนโซลเจเนอเรชันปัจจุบัน ทำให้เกมสามารถโหลดได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่ต้องรอ Loading Screen ให้เสียเวลา ซึ่งช่วยมอบประสบการณ์การเล่นที่ต่อเนื่องไม่ติดขัด

สำหรับด้าน UI/UX ถือว่าออกแบบมาได้อย่างเรียบง่าย สามารถเข้าถึงเมนูต่าง ๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มเยอะ พร้อมมีตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับอำนวยความสะดวกในการเล่น เช่น ปรับความเร็วของการหันกล้อง, ปิด-เปิดหันมุมกล้องให้เองอัตโนมัติ, ปรับความช้า-เร็วในการปรากฏตัวอักษรในฉากคัตซีน และอื่น ๆ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างเบสิก

แต่ไม่ได้หมายความว่าการ Optimized ของเกมนี้จะเพอร์เฟกต์ เพราะตัวเกมยังมีปัญหา Performance นิดหน่อย จากการสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ พบว่าเฟรมเรตจะมีอาการร่วงอย่างเห็นได้ชัด เพื่อเข้าสู่พื้นที่ที่มีแสงเยอะมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวเจอได้จากการสำรวจพื้นที่ Yoshiwara ในช่วงเวลากลางคืนเพียงพื้นที่เดียวเท่านั้น แต่หากเราเดินทางผ่านจุดที่มีแสงเยอะแล้ว อาการเฟรมเรตดรอปก็จะหายไปทันที

นอกจากนี้ ตัวเกมมีปัญหาเฟรมเรตเล็กน้อย คือเมื่อภาพในเกมมีศัตรูเป็นจำนวนมาก และมีเอฟเฟกต์ต่าง ๆ หลายอย่างปรากฏพร้อมกัน เฟรมเรตในเกมจะมีอาการกระตุกนิดหน่อย ซึ่งแม้ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงขั้นเล่นไม่ได้ หรือทำให้การต่อสู้ในเกมสะดุด แต่อาการนี้อาจสร้างความขัดใจให้ผู้เล่นบางกลุ่มที่ต้องการเฟรมเรตลื่นปรื้ดอย่างแท้จริง

สรุป

 

ยอมรับเลยว่าเกินคาดในหลายด้านมาก ๆ สำหรับ Fate/Samurai Remnant ด้วยระบบการต่อสู้ที่เมามัน, เนื้อเรื่องน่าติดตาม ฉากแอ็กชันอลังการงานสร้าง ตัวละครเอกน่าจดจำ และที่สำคัญที่สุด ตัวเกมนำเสนอเข้าถึงง่ายแต่ยังมีกลิ่นอายของ Fate ไว้ นี่จึงเป็นเกม และสื่อบันเทิงที่เหมาะที่สุดสำหรับคนอยากรู้จักแฟรนไชส์ Fate ในตอนนี้ และแน่นอนว่าแฟน ๆ Fate ระดับเดนตายก็ไม่ควรพลาดเกมนี้เช่นกัน

คะแนน 8.5

Fate/Samurai Remnant

8.5 / 10 คะแนน

8.5

ข้อดี

  • เนื้อเรื่องหลักน่าติดตาม ฉากแอ็กชันดุเดือด
  • ระบบการต่อสู้สนุกสนาน มีความยากท้าทายพอดี
  • เนื้อหาเข้าถึงง่าย ไม่ใช่แฟนตระกูล Fate ก็อินกับเกมนี้ได้
  • ตัวละครเอก Iori กับ Saber เข้าคู่กันได้ดี

ข้อเสีย

  • บางฉากคัตซีนคุยกันเยอะเกินจำเป็นจนทำลาย Pacing
  • มีปัญหา Performance เล็กน้อย
  • เนื้อเรื่องในบางเควสต์เสริมไม่น่าสนใจ

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top