ในปี 2012 เป็นช่วงที่ม็อดของ DayZ เกม ARMA II ได้รับความนิยมแบบเปรี้ยงปร้าง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้มีเกมแนว Survival Open-World ได้ผุดขึ้นมากมาย แล้วประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น
แต่แน่นอน เนื่องจากมีเกม Survival อีกหลายเกมได้พัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเกมทันสมัย ก็เป็นเรื่องปกติที่เกมเก่าจะมีกระแสความนิยมลดลง และนี่คือ 6 เกมเอาตัวรอด Open-World ดังจัดในอดีต สร้างความทรงจำดี ๆ ให้เกมเมอร์ แล้วจะมีเกมอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปอ่านได้เลย
7 Days to Die
7 Days to Die เป็นเกม Open-World เอาตัวรอดจากซอมบี้ที่เคยออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยเกมดังกล่าว มีฉากหลังเป็นเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เกือบทั่วโลกได้ล่มสลายจากหายนะซอมบี้ระบาด
ในเกมนี้ เกมเมอร์ต้องรับบทเป็น Survival คนหนึ่งต้องเอาตัวรอดจากซอมบี้ในแผนที่สมมุตินามว่า “Navezgane Arizona” โดยผู้เล่นต้องหาอาหาร ที่พักอาศัย น้ำ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเอาชีวิตรอดในนรกบนดินแห่งนี้
The Forest
ถึงแม้ The Forest วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2018 แต่ความจริงแล้ว เกมดังกล่าวเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2013 และเปิดให้เล่น Early Access ครั้งแรกเมื่อปี 2014
จุดเด่นของ The Forest คือเกมดังกล่าวมีเนื้อเรื่องหลัก ที่ผู้เล่นรับบทเป็นคุณพ่อ Eric LeBlanc ต้องตามหาลูกชายที่ถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์กินคน หลังเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกแล้วได้ตื่นขึ้นบนเกาะปริศนาสุดสยองแห่งหนึ่ง
แม้ The Forest จะมีเนื้อเรื่องหลัก แต่ตัวเกมไม่มีการบังคับว่าผู้เล่นต้องช่วยเหลือลูกชายให้ทันภายในเวลาที่กำหนด หรืออธิบายง่าย ๆ เลย เกมนี้คือเกม Sandbox Open-World ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์กินคน ด้วยการหาที่พักอาศัย, หาอาหาร, หาน้ำ และยารักษาโรค โดยถ้าหากเกมยากเกินไป ก็สามารถชวนเพื่อนมาเล่น CO-OP ในโลกของตัวเองได้
H1Z1: Just Survive (Just Survive)
เกมเมอร์หลายคนอาจจะรู้จัก H1Z1 ในฐานะเกม Battle Royale ที่มีกระแสตอบรับเงียบเหงา แต่ความจริงแล้ว เกมดังกล่าวเคยเป็นเกมแนว Survival มาก่อน
H1Z1: Just Survival (หรือบางคนรู้จักกันว่า Just Survival) เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องเอาตัวรอดจากซอมบี้และสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเกมดังกล่าวมีจุดเด่นในด้านองค์ประกอบ MMO (Massively Multiplayer Online) ที่รองรับผู้เล่นได้หลายคนในห้องเดียว และแน่นอนผู้เล่นที่เข้าร่วมในโลกของเรา อาจจะเป็นมิตรหรือศัตรูก็ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจาก Just Survival เปิดให้เล่นผ่านไป 3 ปี เกมดังกล่าวได้หยุดพัฒนาอย่างเป็นทางการ เพราะทีมงานต้องการมุ่งเน้นสร้างเกมภาค Battle Royale อย่างเต็มที่ ทำให้ Just Survival กลายเป็นเกมที่โดนลืมไปโดยปริยาย
DayZ
DayZ เป็นเกมแนวเอาตัวรอดที่ดั้งเดิมเป็นม็อดสำหรับ ARMA II แต่เนื่องจากม็อดดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลทำให้ทีมพัฒนาเกม Bohemia Interactive ตัดสินใจพัฒนากลายเป็นเกม Standalone ให้เล่น Early Access ในปี 2014 และเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในปี 2019
ด้วยระบบเกมการเล่น การเอาตัวรอด และ Gunplay มีความสมจริงตามสไตล์ ARMA II ทำให้ DayZ เป็นเกมเอาตัวชีวิตรอดที่แตกต่างจากเกมอื่นอย่างเห็นได้ชัด แม้เกมเวอร์ชันเต็ม ยังมีบั๊กประปรายที่ส่งผลทำให้การเล่นเกมขาดความราบรื่นบ้าง แต่โดยรวมแล้ว DayZ ยังคงเป็นเกมที่เล่นสนุกสนานเหมือนเดิม
How to Survive
How to Survive เป็นเกม RPG เอาตัวรอดในมุมกล้อง Top-Down ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 โดยเกมดังกล่าวมี 2 โหมดหลักให้เล่นระหว่างเนื้อเรื่อง Story ที่เล่นได้แค่ Solo และ Challenge ซึ่งเป็นโหมดท้าทายที่เชิญชวนเพื่อน ๆ มาเล่นเกมด้วยกันได้
แม้ How to Survive จะประสบความสำเร็จจนได้สร้างเป็นเกมภาคต่อ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวเกมขาดคอนเทนต์ที่หลากหลายในช่วง End-Game จึงทำให้ How to Survive เป็นเกมที่มี Replay Value (คุณค่าในการกลับมาเล่นอีกครั้ง) ค่อนข้างต่ำหากเทียบกับเกมแนวเอาตัวรอดเกมอื่น
Miscreated
คล้ายกับ DayZ เกม Micreated คือเกมเอาตัวรอด MMO ที่มีจุดเด่นในด้านระดับความยากแบบฮาร์ดคอร์ ที่หากโดนโจมตีเพียงครั้งเดียว ก็อาจทำให้เกมเมอร์ต้องจบชีวิตลงได้
ตอนแรก Micreated เป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากหลายคน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกมมีปัญหาบั๊กต่าง ๆ, มีระบบเกมเพลย์ที่เล่นยาก ไม่เหมาะสำหรับทุกคน และนอกเหนือจากตัวเกมมีความท้าทายแล้ว การนำเสนอธีมต่าง ๆ ก็ขาดเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลทำให้ Micreated กลายเป็นเกมที่หลายคนลืมอย่างรวดเร็ว
แถม: Infestation: Survivor Stories
หากพูดถึงเกมแนว Survival ชื่อดังที่มีประเด็นถกเถียงมากมายก็ไม่มีทางหนีพ้น Infestation: Survivor Stories โดยทีมพัฒนา Fredaikis AB ที่เปิดให้เล่นครั้งแรกเมื่อปี 2012
Infestation: Survivor Stories เคยมีชื่อเดิมว่า “WarZ” แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทีมงานโดนเรียกร้องด้านปัญหาลิขสิทธิ์ว่าชื่อเกมมีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์เรื่อง World War Z และเกม DayZ มากเกินไป ทางทีมงานจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Infestation ที่เรารู้จักกันจนถึงทุกวันนี้
แม้ Infestation: Survivor Stories กลับมาเปิดให้เล่นอีกครั้งในปี 2020 (หลังปิดให้บริการในปี 2016) แต่ตัวเกมยังคงมีชื่อเสียในด้านการออกแบบระบบที่เน้น Pay-to-Win มากเกินไป เกมเพลย์ตกยุค และยังมีปัญหา Performance หลายอย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ถึงแม้ตัวเกมมีเสียงวิจารณ์ย่ำแย่ เกมดังกล่าวทำยอดขายได้ 2.8 ล้านชุด (สถิติของปี 2012)
