ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลาย ๆ คนคงตั้งเป้าหมายสำหรับปีใหม่นี้ หรือ New Year’s Resolution เพื่อประสบความสำเร็จในทิศทางต่าง ๆ ตามที่หลายคนฝันไว้ และผมเชื่อว่าหนึ่งในเป้าหมายเหล่านั้นต้องมี “ฉันจะขยันขึ้น” หรือ “ตั้งใจทำงานมากขึ้น” อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน

ผู้เขียนเลยมาแนะนำ 4 ทริคเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อเพิ่ม Productivity หรือการบรรลุเป้าหมายและภารกิจของตัวเอง เพราะสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ของพวกเราแทบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา และอินเตอร์เน็ตก็ดันเป็นศูนย์รวมของความบันเทิงที่พร้อมจะดึงโฟกัสในการทำงานของเราออกไปอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องดีที่ระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนและเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรามีการตั้งค่าแบบ Built-in ที่ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม คุณผู้อ่านจึงสามารถเพิ่ม Productivity ในตัวเองได้อย่างง่ายดายผ่านการตั้งค่าภายในเครื่อง

นอกจากนี้แล้ว การดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นในยุคสมัยนี้ก็สามารถทำได้โดยง่าย และแอปพลิเคชั่นนี้เหล่านี้ก็ใช้งานไม่ยุ่งยากและติดตั้งได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเสริมให้คุณ Keep Focus กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ทบทวนตัวเองว่าใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์อย่างไร

สิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกคือเราต้องรู้ตัวเราเองก่อนว่าเราหมดเวลาไปกับอุปกรณ์ของเราและพื้นที่ต่าง ๆ ในโลกอินเตอร์เน็ตนานกี่ชั่วโมงต่อวัน และผู้เขียนเชื่อว่าคงไม่มีใครมานั่งจับเวลาด้วยตัวเองว่าเราใช้เวลากับสมาร์ทโฟนกับคอมพิวเตอร์ไปเท่าไหร่

ผู้เขียนจึงขอแนะนำแอปพลิเคชั่น ManicTime สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ติดตามการใช้งานของผู้ใช้อย่างละเอียดมาก ๆ ละเอียดขนาดติดตามได้ว่าผู้ใช้งานใช้เวลาไปกับการพิมพ์เอกสารไฟล์หนึ่งนานแค่ไหน ผู้ใช้งานจึงสามารถพิจารณาและจัดแจงเวลาให้กับโปรเจกต์ที่ทำงานอยู่ได้อย่างเหมาะสมตามข้อมูลที่แอปพลิเคชั่นนี้รวบรวมมาให้

แอปพลิเคชั่น ManicTime ยังติดตามและจับเวลาการท่องเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ของผู้ใช้งานได้อีกด้วย มากไปกว่านั้น แอปพลิเคชั่นดังกล่าวยังบันทึกเวลาที่ผู้ใช้งานไม่ใช้คอมพิวเตอร์อีกด้วย โดยแอปพลิเคชั่นนี้ใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android และ Linux

ผู้เขียนขอนำเสนอแอปพลิเคชั่น RescueTime อีกตัวหนึ่ง เพราะผู้ใช้งานสามารถตั้งเป้าหมายการใช้อุปกรณ์ในแต่ละวันได้ นอกจากการติดตามกิจวัตรการใช้งานอุปกรณ์ ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้สามารถใช้งานได้ผ่านระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, และ Linux เช่นกัน

สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ยังไม่ต้องรีบหนีไปไหนนะครับ คุณยังมีแอปพลิเคชั่นดี ๆ ในการติดตามการใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่ ซึ่งนั่นก็คือแอปพลิเคชั่น Moment ซึ่งแอปพลิเคชั่นตัวนี้ นอกจากการติดตามการใช้งานแอปพลิเคชั่นตามปกติ มันยังบันทึกจำนวนครั้งและเวลาที่คุณยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ระบบปฏิบัติการ iOS รุ่น 12 ก็สามารถติดตามเวลาของการใช้โทรศัพท์ของผู้ใช้งานและยังรายงานผู้ใช้งานสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพราะฉะนั้น เจ้าของ iPhone ทั้งหลายก็อาจไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นตัวนี้ และหันมาใช้ Built-in Feature ของระบบปฏิบัติการ iOS แทน

2. ใช้ Parental Controls ควบคุมพฤติกรรมของคุณ

หากคุณรู้ตัวแล้วว่าคุณใช้เวลาใน Social Media หรือเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งมากเกินไป และยังควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้เขียนขอเชิญคุณผู้อ่านที่การตั้งค่า Parental Control เลยครับ และบล็อกเว็บไซต์พวกนั้นไปเลย พวกเราต้องเอาให้เด็ดขาดครับ

• สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ไปที่ Setting ตามด้วย Screen Time และต่อด้วย Content & Privacy Restrictions ส่วนจะสั่งปิดเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นอะไรก็ตามที่ผู้ใช้งานเห็นสมควรเลย
• สำหรับระบบปฏิบัติการ macOS ผู้ใช้งานเข้าไปตั้งค่าที่ System Preferences และ Parental Controls
• ส่วนผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Windows Setting และต่อด้วย Accounts และ Family & Other People
• ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android สามารดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น TrendMicro ซึ่งผู้ใช้งานสั่งบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างสะง่ายดาย

3. เปิดโหมด Do Not Disturb ระหว่างวันเพื่อป้องกันการรบกวน

ถ้าคุณค้นพบว่าที่จริงแล้วคุณเสียเวลาไปกับโลกออนไลน์และการใช้อุปกรณ์เพราะเพื่อนของคุณทักเข้ามา หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เตือนคุณด้วยข้อความอะไรต่อมิอะไร ผู้เขียนแนะนำให้เปิดโหมด Do Not Disturb ไปเลย เพื่อหลีกเลียงการแจ้งเตือน และเราจะได้มีสมาธิจอจ่อกับงาน

• สำหรับระบบปฏิบัติการ macOS ผู้ใช้งานเพียงเข้าไปที่ System Preferences และตามด้วย Notifications หลังจากนั้นติ๊ก Turn on Do Not Disturb
• ส่วนผู้ใช้งาน iPhone เพียงแค่เข้า Settings ผู้ใช้งานก็จะเจอกับการตั้งค่า Do Not Disturb ในทันที โดยสังเกตได้ง่ายผ่านสัญลักษณ์รูปพระจันทร์
• ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ต้องคลิกขวาที่ Action Center และเลือกเปิด Turn On Quiet Hours
• สำหรับระบบปฏิบัติการ Android ผู้ใช้งานแค่เลื่อนหน้าต่างการแจ้งเตือนลงมา และกด Do Not Disturb

4. พักผ่อนสักระยะด้วยแอปพลิเคชั่นแจ้งเตือนเวลาพัก

ทำงานและจดจ่อกับเป้าหมายมากเกินไปก็ไม่ดีนะครับ พวกเราควรพักกันบ้าง เพราะผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าการพักผ่อนสักพักหนึ่งช่วยให้ผู้คนสร้าง Productivity ได้มากขึ้น

แอปพลิเคชั่นจำนวนหนึ่งสามารถบอกผู้ใช้งานได้ว่าถึงเวลาที่คุณควรพักจากการทำงานและแวะท่องเว็บไซต์และใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ภายในระยะเวลาจำกัดที่เหมาะสม

สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ macOS แอปพลิเคชั่น Time-Out Break Reminders นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถตั้งเวลาได้ว่าคุณควรพักตอนไหน หรือให้แอปพลิเคชั่นจัดเวลาการพักให้ก็ได้เช่นกัน

ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux สามารใช้ฟรีแวร์อย่าง Workrave ซึ่งมีฟีเจอร์การใช้งานในลักษณะเดียวกัน

และในเมื่ออ่านมาถึงตอนจบแล้ว ผู้เขียนก็ขอเชิญท่านผู้อ่านกลับไปทำงานต่อได้แล้วครับ สวัสดีปีใหม่ครับ