ตั้งแต่ถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2015 หรือ พ.ศ. 2558 ซึ่งก็คือ 3 ปีที่แล้ว ในที่สุด Windows 10 ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นระบบปฏิบัติการสามัญ สำหรับค่าย Microsoft และสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้โค่นส่วนแบ่งตลาดและการใช้งานจากระบบปฏิบัติการ Windows 7 สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ครองสัดส่วนดังกล่าวในปริมาณที่มากมาโดยตลอด ต่อให้ Microsoft ยื่นข้อเสนอการอัปเกรดระบบปฏิบัติการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้งานก็ตาม
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูล Net MarketShare ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมถึง 39.22% ในขณะที่ยอดการใช้งานของระบบปฏิบัติการ Windows 7 ลดลงไปกว่า 36.90% ส่วนระบบปฏิบัติการ Windows XP มีพื้นที่ในส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 4.54%
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 บริษัท Microsoft ได้ประกาศในงานประชุมว่าระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะมีผู้ใช้งาน 1 พันล้านคนภายใน 3 ปี แต่ตัวเลขการเติบโตไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่ในปี 2016 จนบริษัทต้องออกมาประกาศขอเวลาอีกไม่นาน
จนกระทั่งถึงช่วงกลางปีของปีที่แล้ว ยอดผู้ใช้งานของระบบปฏิบัติการ Windows 10 แตะตัวเลข 700 ล้าน ซึ่งเป็นตัวที่สูงพอสมควร และทำให้ระบบปฏิบัติดังกล่าวครองส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดถึง 35% ของระบบปฏิบัติการติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
สำหรับระบบปฏบิติการ Linux โดยอ้างอิงจากข้อมูลสถิติ ถึงแม้ว่าระบบปฏิบัติดังกล่าวมีการอัปเดตเพิ่มเติมมากมาย แต่ยอดผู้ใช้งานมีเพียงแค่ 2% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งหมดบนโลก ซึ่งน้อยกว่าจำนวนของผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP ด้วยซ้ำ
