โซนี่ว่ายุคเกมพกพาไปต่อไม่ได้ แล้วทำไม Nintendo Switch จึงประสบความสำเร็จ ?

หรือตลาดเครื่องเกมพกพายังมีที่ทางให้ไปต่อ

 ปี 2011 Sony เปิดตัวเครื่องเกมพกพารุ่นใหม่ถัดจาก Playstation Portable ชื่อ Playstation Vita ตัวเครื่องมีฟังก์ชันใหม่ ๆ น่าสนใจอย่างระบบสัมผัสหน้าจอและระบบสัมผัสที่หลังตัวเครื่องสร้างความตื่นเต้นให้สาวก Playstation ได้ไม่น้อย แต่แล้วในปี 2015  Masayasu Ito ผู้บริหารโซนี่กลับประกาศลอยลำ PS Vita ด้วยการกล่าวว่าโซนี่จะไม่ทำเกมลงให้กับ PS Vita อีกแล้ว เพราะเกมบนสมาร์ทโฟนมาแย่งพื้นที่ตลาดเกมพกพาไปมากจนมันไม่อำนวยที่เครื่องเกมจะเติบโตบนตลาดนี้ได้อีกต่อไป

Nintendo Switch เปิดตัวปี 2017 ปัจจุบันก็นับว่าครบรอบ 1 ปีกว่า ๆ แต่กลับทำยอดขายได้ราว 15 ล้านเครื่อง เทียบเท่า PS Vita ที่เปิดตัวมาแล้วถึง 7 ปีที่มียอดขายอยู่ประมาณ 10-15 ล้านเครื่อง อะไรคือปัจจัยที่ทำให้นินเท็นโดประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ผู้เขียนจะลองยกเหตุผลมาให้ผู้อ่านพิจารณาสัก 3 ข้อ

แนวคิดนี้ผู้เขียนหยิบยืมมาจากอดีต CEO ชื่อดังที่ใครหลายคนยกให้เขาเป็นศาสดาแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หรือก็คือ สตีฟ จอบส์ ผู้ล่วงลับ จอบส์ไม่เคยถามว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่เขาจะเป็นผู้บอกเองว่าลูกค้าต้องการอะไร โดยการสร้างสิ่งที่มันไม่เคยมี หรือมีอยู่แล้วแต่มันยังไม่ดีพอ ซึ่งมันจะตอบโจทย์ลูกค้าก่อนที่ลูกค้าจะรู้จักสิ่ง ๆ นั้นเสียอีก หรือก็คือจอบส์ทำตัวเป็นครูที่สร้างนวัตกรรมออกมาให้เหล่านักเรียนได้เรียนรู้และใช้งานผลงานของเขา มากกว่าจะไปไล่ถามว่านักเรียนอยากจะเรียนรู้เรื่องอะไร คล้ายกับแนวทางที่นินเท็นโดทำมาตลอด บริษัทนี้ไม่เคยดำเนินรอยตามคอนโซลเจ้าใหญ่สองเจ้าอย่าง Playstation และ Xbox ที่ผลิตเครื่องเกมออกมากี่รุ่น ๆ ก็มีเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่แทบไม่แตกต่างกัน นินเท็นโดเลือกที่จะแตกต่าง สร้างสิ่งใหม่ ๆ ออกมาให้ผู้บริโภคได้เซอร์ไพร์ซและเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ของเขา ดั่งตอนที่ออกเครื่องเกม Wii ก็สร้างความสนใจให้นักเล่นเกมเป็นอย่างมาก เพราะ Wii มันแตกต่างและไม่เหมือนใคร และเครื่อง Nintendo Switch มันก็ถูกออกแบบมาให้แตกต่าง สร้างความน่าสนใจจนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเย็น

เป็นเหตุผลอีกข้อที่ยกเอาแนวคิดของจ็อบส์มาอ้างอิงตามเคย นินเท็นโดเรียนรู้จากความผิดพลาดของเครื่อง Wii U ของตนที่มีความยุ่งยาก กว่าจะเข้าเล่นเกมสักเกมต้องใช้เวลา แต่ Nintendo Switch ถูกออกแบบใหม่ให้ใช้งานได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น กดไม่กี่ปุ่มก็เข้าเกมได้ และนอกจากนี้นินเท็นโดเลิกล็อกโซนเกมแล้ว ซึ่งข้อจำกัดนี้เป็นข้อเสียในมุมมองของผู้บริโภคหลายคนที่ไม่ซื้อเครื่องของนินเท็นโดมาเล่น เพราะบางเกมก็จำกัดขายแค่บางโซน จะให้ไปซื้อเครื่องทุกโซนมาเล่นมันก็ไม่ใช่เรื่อง เมื่อยกเลิกข้อจำกัดนี้ ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ก็ยิ่งถูกใจผู้บริโภค เหมือนกับกรณีที่จอบส์สร้างผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลแต่ละอย่าง เขามีแนวคิดหลัก ๆ คือ ต้องทำทุกอย่างให้มันง่าย เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ อะไรที่มันเวิ่นเว้อไม่จำเป็น ต้องตัดทิ้งให้หมด เหลือแค่สิ่งที่เรียบง่ายเท่านั้น เพราะแท้จริงผู้บริโภคไม่ได้ต้องการอะไรมากมายขอแค่มันใช้ง่ายก็ได้ใจใครหลายคนแล้ว

ผู้เขียนขอยกสุภาษิตไทยมาใช้อธิบายปัจจัยความสำเร็จข้อที่สาม นินเท็นโดไม่รีบร้อนปล่อยเครื่องเกมรุ่นใหม่ออกมา โดยไม่เรียนรู้สถานการณ์โลกปัจจุบันว่าเกมมือถือกำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดเครื่องเกมพกพา และมองถึงความผิดพลาดในอดีตที่กระหน่ำเปิดตัวเกมมากมายในช่วงเปิดตัว Wii U แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่มีเกมใหม่เปิดตัวอีกเลยในช่วงนั้น ทำให้คนไม่สนใจที่จะซื้อเครื่องเกมนี้มากพอ เนื่องจากซื้อมาก็ไม่มีเกมเล่น Nintendo Switch จึงปรับตัวสร้างตลาดใหม่ของตัวเองขึ้นมาเสียเลย นั่นคือเครื่องเกมกึ่งพกพาที่เปิดโอกาสให้คุณพกออกไปเล่นนอกบ้านก็ได้ จะเสียบเล่นกับทีวีที่บ้านก็ได้ และเรียนรู้ที่จะค่อย ๆ ทยอยเปิดตัวเกมใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย ดีกว่าปล่อยออกมาทีแรกครั้งเดียวและเงียบหายไปเลย ทำให้เครื่อง Nintendo Switch มีเกมใหม่ ๆ ป้อนให้อยู่เรื่อย ๆ จนมัดใจแฟน ๆ เกมได้มากมาย

การที่บางสิ่งบางอย่างจะอยู่รอดในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ปัจจัยที่สำคัญที่สุดนั่นคือการปรับตัว และนอกจากนี้ต้องสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณสร้างสรรค์ สร้างความเชื่อมั่น มีจุดยืนที่ชัดเจน ซึ่ง Nintendo Switch ทำได้ดี จึงประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ผู้อ่านบางคนที่อ่านบทความนี้จบอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไม Playstation Vita ถึงไม่ประสบความสำเร็จล่ะ หัวข้อนี้เดี๋ยวผู้เขียนจะขอยกไปเขียนต่อที่บทความถัดไป สำหรับบทความนี้หากมีประเด็นไหนที่เป็นข้อสงสัย หรืออยากแลกเปลี่ยนพูดคุยสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยครับ ขอบคุณครับ