การประท้วงของกลุ่มพนักงานขับแท็กซี่ในประเทศเกาหลีใต้เกิดขึ้น หลังจากที่พนักงานรายหนึ่งจุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงบริการ Carpooling ของผู้ให้บริการ Kakao Mobility ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดบริษัท Kakao Corp. ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นส่งข้อความในอุปกรณ์พกพา
Yoon Woo-seok พนักงานขับแท็กซี่วัย 62 ปี กล่าวกับสื่อว่าเขาจะสูญเสียรายได้ลงครึ่งหนึ่งและเขาอาจอดอยาก หากการให้บริการ Carpooling เปิดให้บริการเต็มได้อย่างเต็มรูปแบบ
พนักงานขับแท็กซี่ที่ร่วมประท้วงต่างสวมสายรัดศีรษะสีดำเพื่อไว้อาลัยให้กับพนักงานแท็กซี่ที่ยอมเสียชีวิต และทุกคนต่างโห่ร้องว่า “ต่อต้านบริการขนส่งผิดกฎหมาย”
บริษัท Kakao Corp. จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการให้บริการออกไปหลังพนักงานขับแท็กซี่รายดังกล่าวตัดสินใจสละชีวิตตัวเอง และบริษัทกล่าวว่าบริษัทจำเป็นต้องหารือร่วมกับผู้ให้บริการระบบขนส่งรายอื่น สภา และรัฐบาล เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
ประเทศเกาหลีใต้มีจำนวนประชากรผู้ใช้สมาร์ทโฟนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น บริการ Carpooling และ Car-hailing ผ่านแอปพลิเคชั่นจึงเข้ากับไลฟ์สไตล์ของประชากรกรุงโซล และถึงแม้ว่าพนักงานขับแท็กซี่จำนวนมากประท้วงนวัตกรรมนี้อย่างหนัก แต่ผู้ให้บริการอย่าง Uber ยังไม่ถอนตัวออกไป
จากการสำรวจของ Realmeter เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประชากรกว่า 50% อยากให้มีและสนับสนุนบริการ Carpooling
พนักงานขับแท็กซี่ในประเทศเกาหลีใต้ประท้วงในหลายรูปแบบ รวมถึงการจอดแท็กซี่เป็นแนวปิดถนนบนทางด่วนในเมืองแทจ็อน
ปลัดกระทรวงคมนาคมของประเทศเกาหลีใต้เผยว่าจำนวนการให้บริการของพนักงานขับแท็กซี่ลดลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
พนักงานขับแท็กซี่แย้งเสริมว่าพวกเขาได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำอยู่แล้ว แถมพวกเขาต้องติดอยู่บนถนนเป็นเวลานาน
Lee Nam-soo พนักงานขับแท็กซี่วัย 67 ปี กล่าวว่าชีวิตของครอบครัวเขาขึ้นอยู่กับรายได้เพียงน้อยนิดที่เขาได้รับ เขาเสริมว่าเขาได้รับค่าตอบแทนเพียง 80,000 วอน หรือ 2,000 กว่าบาทต่อวัน และเขาอาจไม่มีชีวิตอยู่ได้เลย หาก KaoKao Mobility เปิดให้บริการ
สมาคนผู้ขับแท็กซี่ท้วงรัฐบาลให้แบนบริการ Carpooling อย่างจริงจัง เนื่องจากการให้บริการลักษณะดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
พรรคแกนนำรัฐบาลได้ส่งหน่วยพิเศษลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์
