BY StolenHeart
27 Feb 19 12:09 pm

สรุปเนื้อเรื่อง Devil May Cry ภาค 1 – 4

706 Views

ไม่น่าเชื่อว่าจากโปรเจกต์ภาคต่อที่ถูกโละทิ้งของ Resident Evil จะสามารถมาได้ไกลและกลายเป็นแฟรนไชส์หลักของ Capcom ได้สำเร็จในปัจจุบัน และเพื่อเป็นการฉลองที่เกมภาคใหม่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ทาง GamingDose จึงขอนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของเกมซีรีส์นี้มาให้ทุกคนได้บันเทิงกันก่อนเกมจะวางจำหน่ายกันครับ

อนึ่ง Timeline ของเกมจะเล่าเรียงลำดับตามภาค 3 1 2 และ 4 ตามที่ผู้พัฒนาได้แจ้งเอาไว้ ดังนั้นในบทความนี้จะขอเล่าเรื่องราวของเกมตามลำดับดังนี้เพื่อให้มีความลื่นไหลและถูกต้องในส่วนของเนื้อเรื่องครับ

สายเลือดก่อเกิด

สองสหัสวรรษก่อน เกิดสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจจากใต้โลก แต่ก็มีปีศาจตนหนึ่งที่ตื่นรู้ถึงความโหดร้ายที่ปีศาจกระทำต่อมนุษย์ ออกต่อต้านเหล่าปีศาจด้วยพลังของตนเอง และปราบ Mundus จอมปีศาจผู้นำทัพรุกรานมายังโลกมนุษย์ ปีศาจตนนั้นมีชื่อว่า Sparda ที่ซึ่งเคยเป็นทหารเอกของ Musdus ที่ช่วยให้เขาสามารถยึดครองนรกได้สำเร็จ เขาต่อสู้เพื่อสันติสุขของมวลมนุษย์มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นตำนานเล่าขาน และยกย่องให้เขาเป็นอัศวินดำในตำนานที่มีชื่อว่า Dark Knight Sparda

Sparda ทหารเอกของ Mundus ผู้เปลี่ยนฝ่ายไปปกป้องมนุษย์

Sparda ได้พบรักกับหญิงสาวชาวมนุษย์ที่มีชื่อว่า Eva ทั้งคู่แต่งงานและให้กับเนิดบุตรชายฝาแฝดสองคนคือ Vergil และ Dante เพื่อฉลองการกำเนิดของพวกเขา Sparda ได้มอบสร้อยคอที่ระลึกให้กับ Eva โดยสร้อยเส้นนี้สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนได้ และเธอก็ได้มอบมันให้กับลูกชายทั้งสองไปคนละส่วน และสร้อยทั้งสองเส้นก็ได้ซ่อนความลับเอาไว้ ก็คือมันสามารถใช้ปลุกพลังที่ซ่อนอยู่ในดาบประจำตัวของ Sparda อย่าง Force Edge ให้ตื่นขึ้นและแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ และยังมีความลับอีกอย่างที่ซ่อนเอาไว้ด้านใน

Eva คนรักของ Sparda

พรากจากและพานพบ

เมื่อ Dante และ Vergil อายุได้ 8 ขวบ หมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นได้ถูกกองทัพปีศาจบุกโจมตี เป็นเหตุให้ Eva แม่ของพวกเขาถูกฆ่า ทั้งสองพี่น้องแยกจากกันโดยที่คิดว่าต่างคนต่างได้ตายจากไปแล้ว ทำชีวิตของพวกเขาทั้งสองก็แยกจากกันอย่างสิ้นเชิง Dante เลือกที่ละทิ้งชีวิตในด้านของปีศาจและโอบรับความอ่อนโยนของมนุษย์เข้าไป ส่วน Vergil ได้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ มุ่งสู่เส้นทางของปีศาจ กระหายในพลังที่จะช่วยให้เขาไม่พ่ายแพ้ใครอีก เพื่อที่จะล้างแค้นให้แม่ และเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

หลายปีต่อมา เด็กน้อยทั้งสองเติบใหญ่และพุ่งไปสู่แนวทางของตนเอง Dante ที่ถึงแม้จะไม่ได้เข้าสู่วิถีของปีศาจ แต่ก็ตั้งใจฝึกฝนฝีมือของตนเองอยู่เสมอ จนถึงจุดหนึ่ง เขาก็เริ่มเปิดร้านรับจ้างปราบปีศาจ แต่ก็ยังไม่ได้คิดชื่อร้านเอาไว้

ขณะเดียวกัน Vergil ก็ยังคงใฝ่หาพลังมหาศาลที่ทำให้ไม่แพ้ใครอย่างไม่ลดละ จนได้พบกับ Arkham บุรุษลึกลับที่ห้องสมุดแห่งหนึ่งในระหว่างที่เขากำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพลังที่ต้องการอยู่ พร้อมกับได้ชี้หนทางที่จะทำให้เขาได้ครอบครองพลังมหาศาลที่ต้องการ รวมไปถึงอดีตของพ่อผู้ให้กำเนิดอย่าง Sparda ซึ่งแผนของพวกเขาก็คือ เปิดสร้างหอคอยที่เป็นประตูที่ผนึกทางเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจขึ้นมา และให้โลกทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อรับพลังที่ Sparda ผนึกเอาไว้ และจะได้ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ได้

และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากตัว Dante ที่รับงานว่าจ้างให้ค้นหาเด็กสาวที่ถูกปีศาจลักพาตัวไป และ Vergil เองที่กำลังค้นหาหนทางในการเปิดผนึกของหอคอยปีศาจ ทำให้ทั้งสองพี่น้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

การกลับมาพบกันในครั้งนี้ของสองพี่น้องไม่ได้เต็มไปด้วยความอบอุ่น กลับกัน จุดยืนของทั้งสองต่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะถูกเชื่อมโยงกันด้วยสายเลือด แต่ ทั้งคู่ก็พูดคุยกันราวกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน การพูดคุยจบลงด้วยการต่อสู้ และเป้าหมายของ Vergil ก็ชัดเจน เขาต้องการสร้อยที่อยู่กับ Dante เพื่อนำมาไขความลับและใช้มันเป็นกุญแจเปิดไปยังโลกปีศาจ Dante รู้สึกเสียใจที่ Vergil พี่ชายของเขาเลือกหนทางนี้

การกลับมาพบกันระหว่างสองพี่น้องที่จบลงด้วยการต่อสู้ (ภาพจากหนังสือการ์ตูน Devil May Cry Code 02)

“คนอย่างพี่ลดตัวไปเป็นหมากของพวกปีศาจเนี่ยนะ? เศร้าจังว่ะ”

แต่กระนั้น Vergil ก็ยังค่อนขอด Dante ในเรื่องของการใช้อาวุธปืน ว่าคนที่ใช้มันคือพวกนอกคอกและแหกกฎ และเขาก็ไม่สนใจว่าใครหน้าไหนจะมาขัดขวาง

“ฉันจะเข้าไปในโลกปีศาจ ใครที่กล้ามาขวางทางจะฆ่าทิ้งให้หมด”

ขณะเดียวกันนั้นเอง Arkham ก็ได้ทำพันธสัญญา เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นปีศาจ ด้วยการฆ่าภรรยาของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งเรื่องนี้ Mary ลูกสาวของเขาได้พบเห็นการฆาตกรรมดังกล่าว และรู้สึกเคียดแค้นอย่างมาก พร้อมกับทิ้งชื่อของตัวเองและหนีออกจากบ้านไป รอเวลาที่จะล้างแค้นให้แม่ของตนเอง

*เนื้อเรื่องด้านบนนี้มาจากหนังสือการ์ตูน Devil May Cry 3 Code 1 และ 2 ที่เป็นการเกริ่นนำก่อนที่เหตุการณ์ในภาคที่ 3 จะเริ่มต้นขึ้นประมาณหนึ่งปี โดยที่จริงแล้วยังมีเนื้อหาใน Code 3 ที่ไม่ได้วางจำหน่ายออกมา แต่ผู้พัฒนาเคยบอกว่าเนื้อหาจะเป็นเรื่องของ Mary ในช่วงหลังจากที่เธอหนีออกไปจากบ้านและรวบรวมอาวุธและฝึกฝีมือมาเพื่อแก้แค้นให้กับแม่ของเธอ*

ความวุ่นวายเริ่มต้น

หนึ่งปีต่อมา Vergil และ Arkham ได้เดินทางมายังหอคอย Temen-Ni-Gru ที่ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจ ซึ่ง Arkham ขอให้ Vergil จัดการเก็บกวาดพวกปีศาจที่อยู่ในหอคอยแห่งนี้ ส่วนเขาจะไปตามตัวพระเอกคนสำคัญมาในงานปาร์ตี้ครั้งนี้ ซึ่งก็คือ Dante นั่นเอง

ขณะเดียวกัน Dante ก็กำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมร้านของตนให้พร้อม และยังไม่มีอารมณ์รับงานในตอนนี้ Arkham ก็เข้ามาเชื้อเชิญให้เขาไปงานปาร์ตี้ที่กำลังจะเริ่ม โดยพี่ชายของเขาเอง แต่ยังไม่ทันถามอะไรเพิ่ม กองทัพปีศาจก็เข้ามาบุกทำลายร้านและสังหาร Dante แต่แน่นอนว่าเขาไม่ตายและไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย พร้อมกับสั่งสอนพวกมันกลับไปจนเกลี้ยง หลังจากที่อาลัยอาวรณ์ร้านที่พังลงไปอยู่พักใหญ่ Dante ก็เดินทางไปยังหอคอย Temen-Ni-Gru ที่ผุดขึ้นมาตรงใจกลางเมือง เพื่อไปหาพี่ชายของเขาทันที

Dante ได้พบกับเหล่าปีศาจที่อยู่ในหอคอย Temen-Ni-Gru มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเหล่าปีศาจที่เคยถูก Sparda พ่อของเขาสอนมวยมาแล้วแทบทั้งสิ้น และเขายังพบกับเจ้าตัวตลกจอมกวนโอ้ย Jester ที่คอยยั่วโมโหไปตลอดทาง แต่นั่นก็ไม่ใช่งานยากสำหรับเขา ขณะเดียวกันนั้นเอง Mary ที่เห็นหอคอย Temen-Ni-Gru งอกขึ้นมาก็ทราบทันทีว่า พ่อของเธออยู่ที่นั่น จึงรีบรุดหน้าไปทันที และได้เจอกับ Dante ที่กำลังเข้าไปในหอคอยพอดี แต่การพบกันระหว่างหนุ่มสาวดูจะไม่เป็นที่ประทับใจเท่าใดนัก

ในที่สุด Dante ก็ได้ปะทะกับ Vergil ในชั้นบนสุดของหอคอย และก็พลาดท่าถูกชิงสร้อยคอที่เป็นของต่างหน้าของแม่ไป ทำให้แผนการของ Vergil และ Arkham ใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้นหนึ่งทันที แต่ Dante ก็ยังไม่ยอมแพ้ ยอมลงจากหอคอยเพื่อไปเตรียมตัวมาสู้กับพี่ชายของเขาใหม่อีกครั้ง แต่ก็ถูกปีศาจปลาขนาดยักษ์กลืนเข้าไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เขาหาทางออกมาจากตัวของมันได้อย่างง่ายดาย

Dante พบกับ Mary หลังจากที่หาทางออกมาจากในตัวของปลาปีศาจได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากที่พูดคุยถามไถ่กันแบบไม่เต็มใจ เขาก็ถามชื่อเธอ แต่เธอบอกว่าเธอนั้นไม่มีชื่อ Dante จึงเรียกเธอว่า Lady นับตั้งแต่ตอนนั้น

ซ้อนแผน

หลังจากที่ Vergil และ Arkham หาทางเข้าไปด้านในสุดได้สำเร็จ แต่ Vergil ก็จัดการปลิดชีพของ Arkham ทิ้งอย่างเลือดเย็น เพราะในเมื่อเปิดประตูสุดท้ายได้สำเร็จ และมีสร้อยทั้งสองเส้นแล้ว เขาจึงไม่ต้องการ Arkham อีกต่อไป รวมไปถึงยังเห็นว่า Arkham แสดงความเป็นห่วง Mary ที่เข้ามาในหอคอยอีกด้วย

ในที่สุดทั้ง Dante และ Mary ก็เข้ามาถึงหน้าประตูสุดท้าย และพบร่างของ Arkham ที่นอนแน่นิ่ง Mary ถาม Dante ว่าได้ฆ่าเขาหรือไม่ ด้วยความอยากหยอกเล่น เขาจึงถามกลับไปว่า

“แล้วถ้าใช่ล่ะ?”

นั่นทำให้เธอโมโหมาก และชักอาวุธมายิงใส่เขาทันที หลังจากปะทะกันพักหนึ่ง Dante ก็จากไป พร้อมกับบอกว่า พวกเราต่างก็มีครอบครัวที่บกพร่องเหมือนกัน และก็พอจะเข้าใจความรู้สึกนั้นดี

หลังจากนั้นไม่นาน Arkham ก็ฟื้นขึ้นมา Mary ที่กำลังตกใจก็เตรียมที่จะปลิดชีพเขา แต่จากคำพูดที่แสดงความอ่อนแอออกมาทำให้เธอใจอ่อน เขาได้บอกกับเธอว่า Vergil คือคนที่ทำร้ายเขา และขอให้เธอไปฆ่าเขาเสีย

หลังจากฝ่าฟันเหล่าปีศาจจำนวนมหาศาลเข้ามาได้ Dante ก็ได้เจอกับ Vergil ที่ห้องในสุด และเขากำลังหัวเสียอย่างมากเพราะประตูมิติไม่เปิดออกเสียที แม้จะใช้ทั้งสร้อยคอทั้งสองและเลือดของเขาเองแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเมื่อสองพี่น้องเผชิญหน้ากันก็มักจะจบลงที่การต่อสู้ โดยในคราวนี้ Vergil มีอาวุธใหม่มาต่อกรกับด้วย

แต่ยังไม่ทันที่จะรู้ผล Mary และ Jester ก็โผล่มาขัดขวางเสียก่อน และความจริงก็ปรากฏ ที่จริงแล้ว Jester ก็คือ Arkham ที่แกล้งตาย แล้วล่อให้ Mary เข้ามาสู่ใจกลางหอคอย เพื่อใช้เลือดของเธอในการทำลายผนึกที่ถูกสะกดไว้ เปิดทางเข้าของโลกปีศาจเพื่อค้นหาขุมพลังของ Sparda ได้สำเร็จ และซัดทุกคนตกลงไปชั้นล่างของหอคอย

Dante และ Mary สามารถปีนกลับมาได้สำเร็จ แต่ก็ทะเลาะกันเพราะต่างคนต่างแย่งที่จะไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองจนต้องต่อสู้กัน สุดท้ายหลังจากที่สู้กันจนถึงจุดหนึ่ง Mary ก็ยอมถอยให้ Dante ไปจัดการเรื่องนี้ พร้อมกับมอบอาวุธประจำกาย Kalina Ann ให้เขาใช้

จุดยืนไม่ตรงกัน

Dante เข้ามาในโลกปีศาจได้สำเร็จ และก็ต้องพบกับกองทัพของปีศาจที่มาต้อนรับเขาอย่างแน่นหนา รวมไปถึงยังแข็งแกร่งกว่าพวกที่อยู่ในโลกมนุษย์อย่างมาก และในที่สุดเขาก็พบกับ Arkham ที่ได้รับพลังจากดาบ Force Edge อย่างเต็มที่ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมพลังเอาไว้ได้ และกลายร่างขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุด ในขณะที่ Dante กำลังเสียเปรียบอยู่ Vergil ก็ปรากฏตัวออกมาช่วยเหลือเขา และปราบ Arkham ได้สำเร็จ ร่างพลังของเขาสลายหายไป ทิ้งดาบ Force Edge และสร้อยคอทั้งสองชิ้นเอาไว้

Arkham ถูกอัดกระเด็นออกไปยังโลกมนุษย์ที่หอคอย Temen-Ni-Gru ที่ซึ่ง Mary ได้รอเขาอยู่ เขาเรียกชื่อของเธอ แต่เธอก็ได้บอกว่าเขา คนที่เรียกชื่อนั้นได้มีแค่แม่ของเธอเท่านั้น และนับตั้งแต่วันนี้ เธอคือ Lady และเธอก็ปิดฉากชีวิตของ Arkham ลงหลังจากที่รอมานานถึงหนึ่งปีเต็ม แก้แค้นให้กับแม่ของเธอได้สำเร็จ

ขณะเดียวกัน สองพี่น้องผู้มีสายเลือดของ Sparda ต้องกลับมาต่อสู้กันอีกครั้ง เพื่อแสดงจุดยืนของตนเอง ซึ่ง Vergil ยังคงต้องการพลังอันมหาศาลเพื่อใช้มันพิชิตทุกคนที่ขวางทาง แน่นอนว่า Dante ไม่ยอม และคราวนี้ทั้งสองต่างทุ่มพลังอย่างเต็มที่ ต่อสู้กันอย่างสุดกำลังในโลกปีศาจแห่งนี้

และในท้ายที่สุด Dante ก็สามารถเอาชนะ Vergil ไปได้ และคว้าดาบ Force Edge กลับมา Vergil ที่ยังคงทระนงในศักดิ์ศรีของตน ไม่ยอมถอดใจที่จะครอบครองพลัง และเลือกที่จะอยู่ในโลกปีศาจที่เป็นบ้านของพ่อ Vergil ได้กระโดดลงเหวลงไปด้านล่าง และปฏิเสธการช่วยเหลือจาก Dante หายไปต่อหน้าเขา

Dante กลับมาหา Lady ที่โลกมนุษย์ เพื่อคืนอาวุธให้เธอ ซึ่งเธอก็เห็นว่า Dante ร้องไห้ให้กับพี่ชายของเขา เธอจึงบอกกับเขาว่า “แม้ปีศาจจะไม่หลั่งน้ำตา แต่ต้องมีสักแห่งในโลกที่มีปีศาจสักตนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่อย่างแน่นอน” และนั่นก็ทำให้ Dante ได้ไอเดียในการตั้งชื่อร้านรับจ้างปราบปีศาจของตน โดยใช้ชื่อว่า

“Devil May Cry”

Vergil ที่ยังคงอยู่ในโลกปีศาจ ได้เผชิญหน้ากับจอมมาร Mundus ที่ถูกผนึกเอาไว้ในโลกปีศาจ ด้วยความผยองทำให้ Vergil เข้าไปท้าสู้ และสุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ และไม่มีใครเห็นเขาอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น

จอมมารหวนคืน

หลายปีผ่านไป Dante ยังคงเป็นนักปราบปีศาจระดับท็อปที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว แต่แล้ววันหนึ่ง หญิงสาวผมบลอนด์ลึกลับก็มาปรากฏกายต่อหน้าเขาเพื่อให้ทำงานชิ้นหนึ่ง และหลังจากที่มีการลองของไปแบบหอมปากหอมคอ เธอก็ยอมรับในตัวของ Dante และแนะนำตัวว่าชื่อ Trish ซึ่งทำให้ Dante นึกถึงแม่ของเขาเพราะใบหน้าของเธอเหมือนกับแม่ของเขามากราวกับเป็นคนเดียวกัน ซึ่งก็ทำให้เขาตอบตกลงช่วยเธอทันที

Trish เล่าให้เขาฟังว่าในเวลานี้ จอมมาร Mundus ที่พ่อของ Dante Sparda เคยผนึกเอาไว้ในโลกปีศาจ กำลังรวบรวมกำลังกลับมายึดครองโลกอีกครั้งหนึ่ง โดยเธอได้พาเขาไปยังเกาะ Mallet ที่ซึ่งเหล่าปีศาจแอบซ่อนอยู่

แม้จะไม่ใช่งานที่ยากลำบาก แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่ Dante ได้ปะทะกับอัศวินดำนามว่า Nero Angelo และเขาก็เกือบพลาดท่าเสียที แต่ในขณะที่กำลังจะถูกเผด็จศึก Nero Angelo ก็สังเกตเห็นสร้อยคอของ Dante และนั่นทำให้เขาเกิดอาการปวดหัวเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก ก่อนที่จะหลบหนีไป

ยิ่งการต่อสู้ผ่านไป Dante ก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้น Mundus มากขึ้น เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนที่นำทัพมาฆ่าแม่ของเขาแล้ว เขายังฆ่าลูกน้องของตนที่ไม่สามารถปราบ Dante ได้อีกด้วย และในที่สุด เขาก็ได้เจอกับ Nero Angelo เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งก่อนที่จะสู้กัน เขาได้ถอดหน้ากากออกให้เห็นถึงใบหน้าที่เหมือนกับ Dante ไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Vergil นั่นเอง ซึ่งชัยชนะก็เป็นของ Dante ในที่สุด ทำให้เขาได้รับสร้อยคออีกชิ้นหนึ่งที่เป็นของ Vergil มารวมร่างกับดาบ Force Edge และสร้อยของเขา ทำให้มันเผยโฉมกลายเป็นดาบ Sparda ที่มีพลังมหาศาล และแน่นอนว่า Dante ก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วรวมกับได้รับการสืบทอดกวิชามาจากพ่อของเขาโดยตรง

การทรยศ

หลังจากที่ลุยมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Trish ก็เผยจุดประสงค์ของเธอที่พา Dante มาที่เกาะ Mallet แห่งนี้ เธอคือตัวแทนของ Mundus ที่ล่อลวงให้มาที่เกาะนี้เพื่อฆ่าทิ้งเสีย ซึ่งเธอก็ได้ล่อลวงให้เขามาติดกับเจอกับปีศาจ Nightmare และลอบโจมตีเขาจากด้านหลัง แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่ได้รับมาจากดาบของ Sparda ทำให้เขาสามารถเอาชนะ Nightmare ได้สำเร็จ

หลังจากเอาชนะ Nightmare ได้ พื้นก็ได้ถล่มลงมาใส่ Trish แต่ Dante ได้ตัดสินใจช่วยเธอเอาไว้ ซึ่งเขาได้บอกกับเธอว่า เธอมีหน้าตาเหมือนกับแม่ของเขา แต่หลังจากนี้ เขาจะไม่ขอเจอเธออีกต่อไป

แน่นอนว่า Mundus ไม่ให้อภัยกับคนที่ทำงานพลาด แต่ก็ยังใช้ประโยชน์จาก Trish ได้ ซึ่งหลังจากที่ Dante ได้ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายมาจนสุดทาง ในที่สุดเขาก็ได้เจอกับ Mundus ตัวจริง และเอา Trish มาเป็นเหยื่อล่อเขาอีกเช่นเคย  ซึ่ง Mundus ก็ฉวยโอกาสโจมตี Dante ในขณะที่กำลังเสียสมาธิจนบาดเจ็บสาหัส และในขณะที่ Mundus จะปิดฉากนั้น Trish ก็ได้สติเอาตัวเข้ามาปกป้อง Dante จนแน่นิ่งไป ทำให้เขาโมโหและเศร้าเสียใจมาก เป็นการกระตุ้นพลังโกรธระเบิดออกมาพร้อมเปิดศึกเพื่อพิชิต Mundus ศัตรูผู้ฆ่าแม่ของเขาและ Trish

Devil Never Cry

เมื่อเอาชนะ Mundus ได้ Dante ก็กลับไปหาร่างของ Trish และมอบสร้อยของแม่พร้อมกับดาบ Sparda ไว้ข้าง ๆ ร่างของเธอ ก่อนที่จะจากมา แต่ Mundus ก็ยังไม่หมดฤทธิ์ง่าย ๆ รวมพลังเฮือกสุดท้ายพร้อมกับเผยร่างที่แท้จริงที่น่าสะอิดสะเอียนออกมา

Dante รวมพลังสู้สุดความสามารถ แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังของ Mundus ได้ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงของแม่ และ Trish ก็ปรากฏตัวออกมามอบพลังของเธอให้กับ Dante เพื่อปราบ Mundus และแน่นอนว่าเขาไม่พลาดโอกาสนี้

Mundus ถูกส่งกลับไปยังโลกปีศาจ พร้อมกับส่งความเคียดแค้นมาหา Dante อย่างเต็มที่ แต่เขาก็พร้อมรับมือและบอกว่าจะให้ลูกชายของเขาเตรียมกลับมาต้อนรับอย่างอบอุ่นแน่นอน

Trish และ Dante พุ่งเข้ามากอดกันอย่างคิดถึง ใบหน้าของเธอมีน้ำตาอาบแก้ม Dante บอกเธอว่า ปีศาจไม่เคยร้องไห้ และน้ำตาของเธอคือของขวัญที่พิสูจน์ว่าเธอคือมนุษย์อย่างแท้จริง ทั้งสองหลบหนีออกจากเกาะที่กำลังจะระเบิดได้สำเร็จจากเครื่องบินที่ตกลงมาชั้นล่างพอดี

เมื่อกลับไปถึงที่ร้าน Dante ก็ได้เปลี่ยนชื่อร้านอีกครั้งพร้อมกับรับ Trish เป็นหุ้นส่วนคนใหม่ ซึ่งชื่อร้านใหม่ก็คือ Devil Never Cry นั่นเอง

ปีศาจร่ำไห้อีกครั้ง

ผ่านไปอีกหลายปี Dante ได้รับการติดต่อจาก Lucia สมาชิกของกลุ่ม Protectorate กลุ่มผู้พิทักษ์ความสงบที่มีสายเลือดของปีศาจไหลเวียนอยู่ในตัว ให้มายังเกาะ Dumary เพื่อต่อกรกับ Arius มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลในเกาะแห่งนี้ ผู้ที่ซึ่งต้องการเปิดประตูมิติเพื่อนำ Argosax จอมปีศาจจากต่างมิติมาสู่โลกและครอบครองพลังนั้นเป็นของตนเอง โดยการรวบรวมเครื่องรางในการเรียกจอมปีศาจ Argosax ไปเป็นสิ่งล่อใจ Arius

ในที่สุดทั้ง Dante และ Lucia ก็เข้าถึงตัว Arius พร้อมกับใช้แผนหลอกส่งเครื่องรางปลอมไป ทำให้พิธีเรียก Argosax ไม่สำเร็จ และปราบ Arius ลงได้ แต่ถึงแม้พิธีกรรมจะไม่สมบรูณ์ ประตูที่เชื่อมไปยังโลกปีศาจก็ยังเปิดอยู่ดี Dante จึงตัดสินใจเข้าไปในโลกปีศาจอีกครั้งเพื่อปราบ Argosax แม้ Lucia จะคัดค้านก็ตาม ซึ่ง Dante ก็ติดสินด้วยการโยนหัวก้อย และผลก็คือเป็นเขาที่เข้าไปราบจอมปีศาจในโลกต่างมิติ

ด้วยความสามารถของ Dante ทำให้เขาสามารถปราบ Argosax และร่างที่แท้จริงของมันลงได้ ส่วน Lucia ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับ Arius ที่ถูกพลังของ Arogosax ครอบงำจำกลายร่าง ซึ่งเธอก็สามารถปราบมันลงได้เช่นกัน

ท้ายที่สุด Lucia ก็ไปรอ Dante อยู่ที่ร้าน Devil May Cry ของเขา และหวังว่าเขาจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ ว่าจะเจอกันใหม่อีกครั้ง

เวลาของคนรุ่นใหม่

ผ่านไปอีกหลายปี ที่เมือง Fortuna City มีองค์กรศาสนจักรนามว่า Order of The Sword ที่บูชา Sparda เพราะเขาคือผู้ที่ช่วยกอบกู้โลกให้พ้นภัยจากเหล่าปีศาจจากต่างมิติ ซึ่งองค์กรนี้ก็มีอัศวินที่ทำหน้าที่คอยปกป้องความสงบในเมืองและเหล่าผู้นับถือ Nero คือหนึ่งในอัศวินของกลุ่มศาสนจักรที่มีชาติกำเนิดไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งเขาเก็บซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้และมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ โดยเขารีบมาที่โบสถ์เพื่อฟังบทสวดของ Kyrie เพื่อสมัยเด็กของเขาที่ทำงานอยู่ หลังจากที่เธอร้องเพลงจบ ผู้นำของศาสนจักร หลวงพ่อ Sanctus ก็ได้ขึ้นเทศนาสอนสาวกในโบสถ์ ซึ่งขณะที่ Kyrie กำลังจะมอบของบางอย่างให้ Nero นั้น Dante นักล่าปีศาจในตำนานก็พังกระจกเข้ามาและยิงปืนสังหาร Sanctus ลง สร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าสาวกอย่างมาก Nero เห็นดังนั้นจึงเข้าไปปะทะกับ Dante ทันที

Nero รู้ว่าผู้บุกรุกคนนี้มีฝีมือมาก เพราะสามารถต้านทางกระบวนท่าของเขาได้แทบทุกอย่าง จนในที่สุดเขาก็ต้องใช้แขนขวาของตนที่แอบพันผ้าเอาไว้ ซึ่งความสามารถของแขนขวาของเขานั้นทำให้ Dante รู้สึกทึ่งมาก เพราะมันมีพลังมหาศาล สามารถยกดาบขนาดยักษ์ขว้างได้อย่างง่ายดาย แต่แม้ Nero จะสู้สุดกำลังก็ยังต้านทานพลังของ Dante ไม่ได้อยู่ดี ซึ่งหลังจากที่เล่นสนุกจนพอใจ Dante ก็จากไป

ขณะเดียวกันนั้นเองก็มีกองทัพปีศาจบุกเข้ามาในตัวเมือง Fortuna ซึ่งเหล่าอัศวินของศาสนจักรก็กำลังรวมตัวกันเพื่อปกป้องชาวเมืองจากอันตราย และหน้าที่ของ Nero ก็ตามหา Dante ให้เจอว่าสาเหตุในการลอบสังหาร Sanctus นั้นคืออะไรกันแน่

ระหว่างการออกปราบเหล่าปีศาจ พลังของ Nero ก็กล้าแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แขนของเขาสามารถใช้ในการดึงวัตถุและใช้เคลื่อนที่ในระยะไกลได้อย่างง่ายดาย และด้วยพลังบางอย่าง ทำให้ Nero ต้องออกไปยังพื้นที่ ๆ เขาไม่เคยไปมาก่อน อันเนื่องมาจากพลังของประตูที่พาเขาไปสู่อีกที่หนึ่งนั่นเอง

ระหว่างทาง Nero ได้พบกับ Gloria สมาชิกใหม่ของศาสนจักรที่มีฝีไม้ลายมือไม่เบา ซึ่งเธอก็ได้แนะนำตัวเองพร้อมกับเตือนเขาเรื่องภัยอันตรายที่กำลังจะมาถึง เพราะพวกปีศาจจะมาเรื่อย ๆ ไม่มีหยุด แม้จะฆ่าไปมากแค่ไหนก็ตาม

ในขณะเดียวกัน Credo ที่อยู่กับร่างของ Sanctus นั้น ได้พบว่า Sanctus ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้วจากพลังที่อยู่ในตัว ซึ่งสร้างพอใจให้กับ Agnus หัวหน้าทีมวิจัยของศาสนจักรอย่างมาก แต่ Credo เองก็ไม่ไว้ใจ Agnus ที่แอบดำเนินการอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังโดยที่เขาไม่ทราบ

ไม่นานหลังจากนั้น Nero ก็ได้เดินทางมาถึงห้องทดลองของ Agnus ซึ่งตัว Agnus เองก็ให้ความสนใจในแขนขวาของ Nero อย่างมาก และเขาเปิดเผยว่า ทางศาสนจักรได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับพลังของปีศาจมานานมากแล้ว และนำมาปรับใช้กับเหล่าอัศวิน และตัว Agnus เองก็คือคนที่เปิดประตูนรกให้เหล่าปีศาจออกอาละวาดในเมือง Fortuna อีกด้วย แต่แม้ Nero จะรู้เรื่องมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากในตอนนี้ เพราะเขาได้ถูกเหล่าทหารดัดแปลงของศาสนจักรจับตัวเอาไว้ และพร้อมที่จะสังหารเขา

แต่ด้วยแรงกระตุ้นของเขาที่มีเพิ่มขึ้นสูงมาก จากความต้องการที่จะปกป้อง Kyrie ทำให้พลังปีศาจที่อยู่ในตัวเขาตื่นขึ้นมา ผลักพวกอัศวินเทียมออกไปจนหมด และได้คว้าดาบ Yamato ที่หักครึ่งให้กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งดาบเล่มนี้คือดาบประจำตัวของ Vergil ที่ทางศาสนจักรเก็บเอาไว้ และมันมีพลังในการตัดผ่ามิติให้แยกออกจากกันได้นั่นเอง ความรุนแรงของพลังทำให้เหล่าหุ่นอัศวินเทียมต้านไม่อยู่ รวมไปถึงตัว Agnus เองที่ต้องรีบแปลงร่างหนีตายออกไปจากพื้นที่

หลังจากที่ได้ครอบครองพลังของดาบ Yamato แล้ว Nero ก็คิดที่จะกลับไปสู่ฐานบัญชาการเพื่อไปสอบถามกับ Credo ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เอง ทาง Sanctus และอัศวินระดับสูงคนอื่น ๆ กำลังประชุมกันอยู่ โดย Agnus แสดงความกังวลเกี่ยวกับตัว Nero ว่าจะเป็นภัยต่อศาสนจักร เพราะพลังปีศาจของเขา รวมไปถึงยังคืนชีพดาบ Yamato ขึ้นมาอีกด้วย และ Sanctus ก็ได้ตัดสินใจ ให้ Credo ไปนำตัว Nero และดาบ Yamato กลับคืนมาให้ได้ ส่วน Gloria ได้รับมอบหมายให้ไปจับตัว Dante มา แม้ Credo จะไม่เชื่อถือเธอนักเพราะเธอเพิ่งเข้ามาใหม่ แต่เธอก็เป็นคนที่นำดาบ Sparda มาให้กับทางศาสนจักรด้วยตัวเอง

มิตรแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู

Nero ได้เจอกับ Credo อีกครั้งที่หน้าทางเข้าศูนย์บัญชาการใหญ่ หลังจากที่ผ่านเหล่าปีศาจในป่ามาได้สำเร็จ แต่การเจอหน้ากันในครั้งนี้ต่างไปจากเดิม เพราะ Credo ไม่ได้มาช่วย Nero แม้จะสนิทกันแค่ไหน แต่ Credo ก็ยังยึดถือคำสั่งของผู้นำคือ Sanctus เป็นหลัก นั่นก็คือการพาตัว Nero ไป  และเข้าโจมตี Nero ทันที

และที่น่าตกใจคือ Credo รับพลังปีศาจเข้าไปจนสามารถกลายร่างได้เหมือนกับ Agnus และ Nero ที่ไม่มีทางเลือกอื่นก็จำเป็นต้องปะทะกับ Credo อย่างช่วยไม่ได้ และด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นมาจากดาบ Yamato ทำให้ Nero สามารถพิชิต Credo ได้อย่างรวดเร็ว

แม้จะชนะ Credo ได้ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ Nero คิด เพราะ Kyrie ได้มาเห็นภาพตอนที่ Nero กำลังจะเผด็จศึก เปิดช่องว่างให้ Agnus เข้ามาพูดยั่วโมโห Nero และพาตัว Kyrie หนีไป ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้เธอเป็นเหยื่อล่อเท่านั้น แต่ยังเอาเธอไปเป็นตัวเชื่อมโยงกับโครงการ The Savior อีกด้วย เพราะตัวของ Sanctus ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า Credo จะแพ้อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งสองคนก็แยกกันไปตามหาตัว Kyrie

Nero เข้ามาถึงห้องทดลองอีกแห่งของ Agnus ที่ซึ่งเห็น Kyrie คุมขังอยู่ ซึ่งคราวนี้เขาต้องปะทะกับ Agnus ในร่างปีศาจ และแม้จะมีพลังเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังของแขน Devil Bringer และดาบ Yamato ได้ และในขณะที่ Nero กำลังจะเผด็จศึก Sanctus ก็ส่งกำลังอัศวินเทียมมาช่วย และพาตัว Kyrie ออกไปอีกครั้ง ซึ่งก่อนจากไป Sanctus ได้พูดกับ Nero ว่า ตัวของเขามีพลังที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก Sparda ไหลเวียนอยู่ในตัวด้วย ซึ่งก็แปลความได้ว่า Nero มีสายเลือดของปีศาจที่มาจาก Sparda และคนที่เป็นพ่อของเขาก็น่าจะเป็น Vergil นั่นเอง

หลังจากที่กองทัพอัศวินเทียมจากไป Nero ก็ได้แต่เศร้าเสียใจ ที่ไม่สามารถช่วย Kyrie ได้อีกครั้งหนึ่ง

รุ่นเก๋า vs รุ่นเล็ก

Nero ยังคงตามล่าตัว Sanctus อย่างไม่ลดละ แต่ในระหว่างทางนั้นเขาได้พบกับ Dante อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ Dante ได้ประกาศชัดเจนว่า สิ่งที่เขาต้องการก็คือดาบ Yamato ที่เป็นของพี่ชายของเขา และมันมีพลังในการตัดผ่านมิติเพื่อนำพาไปสู่โลกปีศาจได้ แต่ Nero ก็ยังต้องการพลังนี้ไปช่วยคนสำคัญของตนอยู่ ดังนั้นการต่อสู้ระหว่างพระเอกรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

แม้ว่าจะสามารถสู้กับ Dante ได้สูสีมากขึ้น แต่ Nero ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับนักล่าปีศาจรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่าอยู่ดี Dante อธิบายให้ Nero รู้อีกครั้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของดาบเล่มนั้น แต่ Nero ก็ยังคงต้องการพลังของดาบ Yamato อยู่ดี เมื่อเห็นดังนั้น Dante จึงให้ Nero เก็บดาบเล่มนั้นไว้ใช้งานต่อ ก่อนที่จะปล่อยให้ Nero จากไป

หลังจากนั้นไม่นาน Gloria ก็ปรากฏตัวออกมา แต่เรื่องกลายเป็นว่าเธอคือ Trish หุ้นส่วนของ Dante ที่มาช่วยงานในครั้งนี้ด้วยนั่นเอง และการไขปริศนาเกี่ยวกับศาสนจักรก็ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที

The Savior

ในที่สุด Nero ก็ได้พบกับ Sanctus ที่ซึ่งคราวนี้เขาได้เผชิญหน้ากับ The Savior หุ่นยักษ์ที่ Sanctus และ Agnus สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสวมบทบาทเป็นพระเจ้าผู้กอบกู้ในเมืองแห่งนี้ และการนำตัว Kyrie มาก็เพื่อมอบชีวิตให้กับมัน รวมไปถึงตัวของผู้ที่มีสายเลือดของ Sparda ก็เป็นการเพิ่มพลังให้กับ Savior อย่างมากอีกด้วย และเมื่อรับรู้ถึงแผนการชั่วของ Sanctus แล้ว Nero ก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปจัดการกับเขาทันที

หลังจากที่ Nero ทุ่มพลังสุดตัวและเตรียมจะเผด็จศึกนั้น Sanctus ก็ได้หลบเข้าไปในตัว Savior แล้วเอาตัว Kyrie มาบังก่อนที่ Nero จะลงดาบ เปิดช่องว่างให้ถูกจับตัวและชิงดาบ Yamato ไปได้ และเมื่อสายเลือดของ Sparda กับดาบ Yamato มารวมกัน แผนการของ Sanctus ก็จะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกัน Credo ที่เข้ามาช่วยเหลือ Nero ก็พลาดท่า ถูก Sanctus แทงเข้าที่ท้องอย่างโหดเหี้ยม

ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไปมากกว่านี้ Dante ก็ได้ปรากฏตัวมาพร้อมกับ Trish เพื่อช่วยเหลือ Nero และ Credo แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป Sanctus กำลังจะเริ่มแผนการในการอุปโลกน์ตัวเองเป็นพระเจ้าผู้ชำระล้างอย่างที่ต้องการทันที แต่ Dante ก็มีแผนสำรองเอาไว้แล้ว และจำเป็นต้องทำทันทีก่อนที่จะย้อนกลับมาช่วยเหลือ Nero ขณะเดียวกัน Credo ก็ได้เล่าแผนการทั้งหมดของ Sanctus ที่เขารู้รวมไปถึงขอร้องให้ช่วย Nero กับน้องสาวของเขาด้วย ก่อนที่ร่างกายจะสลายหายไปเพราะพลังปีศาจที่อยู่ในตัว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย Dante และ Trish ก็แยกกันไปจัดการสิ่งที่ได้รับสั่งเสียมาทันที

ในร่างกายของ Savior Nero ได้พบกับ Kyrie อีกครั้ง ซึ่ง Nero ก็พยายามอย่างที่สุดในการช่วยเหลือเธอ แต่ร่างของ Kyrie ก็สลายหายไป เหลือแต่ความสิ้นหวังที่ร่างกายกำลังถูก Savior ดูดกลืนพลังชีวิตไปอย่างไม่รู้จบแทน

Son of Sparda Returns

Agnus นำดาบ Yamato เข้าไปยังห้องพิธีที่เตรียมการเอาไว้ เพื่อเปิดประตูนรกให้เหล่าปีศาจหลั่งไหลเข้ามาในโลกมนุษย์ เพื่อเริ่มวันแห่งการชำระล้างตามแผนที่วางเอาไว้ โดยมี Savior และหุ่นอัศวินเทียม ของ Sanctus สวมบทบาทผู้พิทักษ์ชาวเมืองอย่างที่ต้องการ

Dante นึกย้อนไปถึงวันแรกที่รับงานนี้ โดยมี Lady เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งเธอสงสัยว่าองค์กรศาสนจักรนี้วางแผนอะไรที่น่าสงสัยเอาไว้หรือไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติวิสัยที่จะมีศาสนาที่นับถือบูชาปีศาจเกิดขึ้นมาในโลกนี้ และก็เป็นเหตุให้เขาและ Trish มาที่เมือง Fortuna แห่งนี้ โดยมี Trish ล่วงหน้าไปก่อน​ พรเอมกับนำดาบ​ Sparda ไปด้วย

Dante ยังคงใช้ความเก๋าเกม ปราบเหล่าปีศาจที่ Nero เคยพิชิตไปได้อย่างเหนือชั้น และได้รับอาวุธพิเศษอันแข็งแกร่งจากเหล่าปีศาจที่ปราบได้เช่นเดิม พร้อมกับใช่มันทำลายศิลาที่เหล่าปีศาจใช้ในการข้ามมิติมายังโลกมนุษย์ที่มีอยู่ในเมืองแห่งนี้ทั้งหมด จนในที่สุดเขาก็สามารถช่วงชิงดาบ Yamato และสังหาร Agnus ผู้ที่หมกมุ่นอยู่ในการวิจัยและทดลองจนเสียสติได้สำเร็จ

ดาบที่ตัดได้ทุกสิ่ง

Dante นำดาบ Yamato มาทำลายศิลาอันสุดท้ายที่อยู่ในเมือง Fortuna ลง พร้อมกับเข้าไปปะทะกับ Savior ที่คอยท่ารอเขาอยู่แล้วพร้อมกับกองทัพหุ่นอัศวินเทียม ซึ่งขุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาไม่ใช่การจัดการกับ Savior ที่มีพลังมหาศาล แต่เป็นการส่งมอบดาบ Yamato ให้กับ Nero ที่อยู่ด้านในร่างกายของ Savior เพื่อให้เขาตื่นขึ้นมา และด้วยฝีมืออันสุดยอดของ Dante ทำให้การส่งดาบเข้าไปสำเร็จเป็นอย่างดี Nero ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือคนสำคัญและช่วยโลกเอาไว้อย่างที่ Dante ต้องการ และ Dante จะคอยถ่วงเวลาให้ Nero ได้จัดการกับ Sanctus ที่อยู่ด้านใน

ในที่สุด Nero ก็พบกับ Sanctus ที่ร่างกายแปรเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของมนุษย์ โดยในตอนนี้เขาได้ครอบครองดาบ Sparda ที่ได้มาจาก Trish และเตรียมพร้อมที่จะจัดการกับ Nero โดยมี Kyrie เป็นตัวประกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนสำคัญของเขา ทำให้ Sanctus ที่ถึงแม้จะมีดาบ Sparda อยู่ในมือก็ไม่สามารถต้านทานเขาได้ ท้ายที่สุด Nero ก็สามารถจัดการ Sanctus และช่วยเหลือ Kyrie ได้สำเร็จ​ ​พร้อมกันนี้​ Dante ก็ยกดาบ​ Yamato ให้กับ​ Nero เพื่อให้เขาใช้มันปกป้องคนสำคัญต่อไป

ท้ายที่สุด ทั้ง Nero และ Dante ก็สามารถช่วยเหลือชาวเมือง Fortuna และโลกมนุษย์เอาไว้ได้อีกครั้ง Nero และ Kyrie กลับไปครองรักกันและคอยช่วยเหลือชาวเมือง Fortuna ในการฟื้นฟูเมืองต่อไป ส่วน Dante และ Trish ก็กลับไปรับค่าจ้างอันน้อยนิด(ที่ถูกหักไปจากค่าซ่อมแซมเมือง) และค้นหาความท้าทายใหม่ในงานปราบปีศาจต่อไป

ส่วนเรื่องราวของพวกเขาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร รอติดตามกันได้ใน Devil May Cry 5 วันที่ 8 มีนาคมนี้ครับ

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top