BY Aisoon Srikum
25 May 21 5:49 pm

Souls-Like คืออะไร ยากแค่ไหนถึงถูกจัดเป็นเกมประเภทนี้

1,658 Views

หากพูดถึง “ความยาก” ในการเล่นเกม เราอาจจะนึกถึงเกมอันหลากหลายที่มาพร้อมกับความยากที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าหากเราเปิดหัวข้อคุยกันว่า คิดว่าเกมไหนเล่นยากบ้าง เชื่อว่าคำตอบแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวของเหล่าเกมเมอร์คือเกมซีรีส์ Souls หรือ Dark Souls นั่นเอง และด้วยเหตุนี้มันจึงกลายเป็นที่มาของหมวดเกมประเภทใหม่ที่เรามักจะเห็นกันเป็นประจำ นั่นคือ Souls-Like แต่เคยสงสัยหรือไม่ ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง ทำไม Souls-Like ถึงกลายเป็น Genre เกมที่ถูกแยกออกมาโดยเฉพาะในยุคนี้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเกมประเภท Souls-Like ให้มากขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

จุดกำเนิดของเกมแนว Souls-Like

เห็นแค่ชื่อประเภทเกม หลายคนก็อาจจะเดากันได้แล้ว Souls-Like เป็นประเภทเกมที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานมานี้ โดยจุดเริ่มต้นนั้น เนื่องความความนิยมของเกมซีรีส์ Demon Souls. Dark Souls ทั้งหลาย องค์ประกอบทั่วไปของเกมแนวนี้จะเป็นความยากที่สูงมากในการต่อสู้ ศัตรูทุกตัว หรือกับดักทุกอย่างภายในฉาก สามารถฆ่าคุณได้อย่างง่ายดาย และทุกครั้งที่ตาย ของแทบจะทุกอย่างในตัวผู้เล่นจะหายไปด้วย แต่ผู้เล่นจะมีโอกาส 1 ครั้งในการกลับไปเก็บของที่ทำหล่นไว้ หากพลาดท่าตายก่อนกลับไปเก็บได้ ของเหล่านั้นจะหายไปถาวร ถือว่าเป็นความโหดหินแบบสุด ๆ และเพราะมันยากมาก ๆ กว่าเกมประเภทอื่น โดยมี Dark Souls เป็นผู้ริเริ่ม เกมหลัง ๆ ที่ทำออกมาโดยใช้เมคคานิคเกมแบบนี้ จึงมักจะใช้คำว่า Souls-Like บ่งบอกถึงเกมของตัวเอง

ต้นกำเนิดเกมประเภทนี้มาจากญี่ปุ่น และคนคิดค้นเมคคานิคความยากระดับนี้คือ Hidetaka Miyazaki แห่ง From Software และมาพร้อมกับเกม Dark Souls ซึ่งผลงานอย่าง Monster Hunter ของ Capcom เขาก็มีส่วนช่วยในการออกแบบเกมอยู่ด้วย และไม่เพียงเท่านั้น เกมประเภท Souls-Like นั้น ยังมีส่วนผสมของความเป็นเกม Action RPG, Metroidvania ที่มีความซับซ้อนของฉากในเกม มีความเป็น Survival Horror จากการออกแบบศัตรู รวมไปถึงมีความเป็น Hack & Slash ผสมอยู่ในเกมเดียวกัน และที่สำคัญคือมันได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนชื่อดังอย่าง BERSERK นักรบวิปลาส ที่ผู้แต่งอย่าง อ.เคนทาโร่ มิอุระ เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้

ที่น่าสนใจคือ นอกจากคนจะเรียกมันว่า Souls-Like แล้ว ในวิดีโอช่อง Game Maker’s Toolkit นั้น มักจะเรียกเกมที่ทำระบบคล้ายกันแบบนี้ว่าเกมประเภท Clone หรือการโคลนนิ่ง ซึ่งเป็นคำที่นิยมใช้กันในสมัยก่อน เช่นเกมไหนที่ทำออกมาคล้ายกับเกม DOOM ก็จะถูกเรียกว่า DOOM Clone หรือเกมไหนทำเป็นแบบโลกเปิด เน้นอาชญากรรม และอิสระ ก็จะถูกเรียกว่า GTA Clone เป็นต้น  แต่ภายหลังเกมแนวนี้ถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่าประเภท Souls-Like หรือ Soulsborne แทน

 ยากแค่ไหนถึงเรียก Souls-Like กับ 4 ฟีเจอร์หลักที่เกมประเภทนี้ต้องมี

คำถามคือ แล้วยากแค่ไหนมันถึงจะเรียกเกมนั้น ๆ ว่าประเภท Souls-Like ? นี่อาจเป็นคำถามที่ใครหลายคนคิดว่าแล้วเราจะแยกเกมพวกนี้ยังไง ทางเว็บไซต์ Metro ชี้ว่า เกมใดก็ตามที่มี 6 ฟีเจอร์นี้อยู่ในเกม นั่นอาจจะนับเป็น Souls-Like ก็ได้ โดย 6 ฟีเจอร์หลักทั้งหมด มีดังนี้

The Bonfire : บอนไฟร์ อาจถูกเรียกเป็นอย่างอื่นได้ในเกมอื่น ๆ เช่นเป็น Shrine ใน Ni-oh หรือ Lamps ใน Bloodborne เป็นต้น – แต่คุณสมบัติของมันจะทำงานคล้ายกัน นั่นคือมันจะเป็นเหมือนกับจุดพักผ่อนของผู้เล่น เมื่อผู้เล่นมานั่งพักตรงจุดนี้ สามารถเลือกที่จะฟื้นคืนพลังทั้งหมด สามารถเข้าเมนูเลเวลอัปตัวละครได้ แต่การทำแบบนี้จะทำให้ศัตรูทั้งหมดที่เราฆ่าไป ฟื้นกลับมาใหม่อีกครั้ง

The Souls : โซล หรือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการอัปเกรดตัวละคร ซึ่งต่างกันไปในแต่ละเกมเช่นกัน เหล่าวัตถุดิบนี้จะมีความจำเป็นอย่างมากที่ใช้อัปเลเวล หรืออัปเกรดสิ่งของภายในเกม หาได้จากการฆ่าศัตรู และถ้าตายขึ้นมา มันจะดรอปออกจากตัวทั้งหมด และคุณมีโอกาสเดียวเท่านั้นในการจะไปเก็บคืน แต่บางเกมก็อาจจะมีรูปแบบการลงโทษที่แตกต่างกันไป

Stamina Based-Combat : การต่อสู้ที่ใช้ค่า Stamina เป็นหลัก ถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมประเภทนี้ ในทุก ๆ ลีลาการต่อสู้หรือแม้แต่การป้องกัน จำเป็นต้องใช้ค่า Stamina ทั้งสิ้น หากหมดก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ต้องรอให้ค่าพลังฟื้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้เล่นที่จะต้องวางแผนการใช้ Stamina ให้ดีพอ ไม่เช่นนั้นก็อาจตายได้

Shortcut : ระบบเกมประเภทโซลมักจะออกแบบเส้นทางมาให้วกวน สับสน และยุ่งเหยิงมากในฉากเดียว แต่เมื่อผู้เล่นสามารถเอาชนะบอส หรือศัตรูระดับใหญ่ได้ ส่วนมากมักจะเป็นการปลดล็อคเส้นทางลับ เพื่อใช้วนกลับมาทางเดิมได้ และถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เกมประเภท Souls-Like ชอบใช้กัน

ส่วนมาก ขอแค่มีฟีเจอร์นี้ก็จะถูกนับเป็นเกม Souls-Like ได้ทั้งหมด แต่หัวใจหลักของมันคือความยากชนิดที่ต้องใช้ความอดทนในการเล่นค่อนข้างสูงมากถึงจะจบหรือผ่านเกมไปได้ แต่ในยุคหลัง ๆ มานี้ ก็เริ่มมีเกมจำพวก Souls-Like บางเกม ที่ปรับลดความยากลงมาบ้าง เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายแทนแล้ว

เพราะความโด่งดังของเกมตระกูล Souls ทำให้วงการเกมหันมาใช้คำว่า Souls-Like กันอย่างแพร่หลาย ในส่วนของความยาก อาจไม่มีขีดจำกัด หรือคำจำกัดความที่ชัดเจนนัก หลัก ๆ จะต้องมี 4 ฟีเจอร์ด้านบน ส่วนเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และเป็น Souls-Like ก็เช่น Salt of Santuary, Remnant: From the Ashes, The Surge, Mortal Shell เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นหลายคนก็เริ่มมองว่าเกมประเภทนี้ไม่อาจเรียกว่าเป็นเกมประเภท Souls ได้ เพราะของจริงมันต้องยากเข้าว่า โดนตบ 2-3 ทีก็ตายแล้ว ถ้าจะทำเกมที่คล้ายกันแบบนี้ ให้เรียกว่า Action RPG น่าจะดีกว่า เพียงแต่ตอนนี้ Souls-Like ได้กลายเป็นหมวดหมู่เกมประเภทใหม่ที่ทั้งผู้พัฒนาและผู้เล่นต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีไปแล้วนั่นเอง

อนาคตของเกม Souls-Like โดยผู้ให้กำเนิด ‘Elden Ring’

ในขณะที่ค่ายอื่น ๆ ส่งมอบเกมแนวนี้ออกมามากมาย แต่ค่ายผู้ให้กำเนิดอย่าง From Software ที่กำลังจะมีผลงานใหม่อย่าง Elden Ring ตอนนี้ ยังเป็นอะไรที่ต้องจับตามองกันต่อไป เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 เราก็ยังไม่ได้เห็นข่าวคราวของเกมนี้เพิ่มเติมอีกเลย

ที่น่าสนใจของ Elden Ring ก็คือการร่วมงานของ Miyazaki ผู้ออกแบบเกมตระกูลนี้ที่จะทำให้ผู้เล่นตายซ้ำตายซาก กับ George R.R. Martin ผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง Game of Thrones ที่ฆ่าตัวละครตายราวกับเป็นผักปลาเช่นกัน การร่วมงานของสองคนนี้ทำให้มันน่าสนใจมากกว่าทิศทางของ Elden Ring นั้น จะเป็นแบบไหน และมันจะยกระดับเกมแนว Souls-Like ขึ้นไปอีกได้อย่างไร แฟนเกมก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปในอนาคต และเราอาจจะได้สัมผัสเกม Souls-Like กันอีกมากมายในอนาคตต่อจากนี้ เพราะมันเริ่มเป็นแนวเกมที่ได้รับความนิยมมากพอสมควรแล้ว นับตั้งแต่ Demon Souls ได้จุดประกายไฟของเกมแนวนี้ขึ้นมา

 

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top