BY Aisoon Srikum
19 Apr 22 5:54 pm

Overwatch บุกเบิกแนว Hero Shooter และการประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล

4 Views

นับตั้งแต่วิดีโอเกมเข้าสู่ยุคที่อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล เทรนด์ของความเป็นเกมออนไลน์ หรือ Multiplayer ก็เริ่มมาแรงนับตั้งแต่นั้น นับเวลาถอยหลังจากปีปัจจุบันนี้ไปสัก 6 ปีก่อน มีอยู่เกมหนึ่งที่เปิดตัวและได้รับความสนใจจากแฟนเกมทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย ที่เรียกได้ว่ากลายเป็นกระแสสุดฮอตฮิต เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยระบบเกมที่สนุก เข้าถึงง่าย และการออกแบบตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงการนำเสนอเรื่องราวและเนื้อหาของเกมในระดับที่แฟน ๆ เชียร์ให้เป็นหนังหรือแอนิเมชั่นสักที วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนวันวานสู่เกม Overwatch

บุกเบิกเกมแนว Hero Shooter

2022 04 19 122744

หากพูดถึงแนวเกม Hero Shooter ในช่วงก่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะงงว่ามันเป็นเกมแนวอะไรกันแน่ เพราะในตอนนั้น เกมแนวนี้ยังมีไม่มาก หรือต่อให้มีก็ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าที่ควรนัก การมาถึงของ Overwatch ช่วยนิยามเกมแนวนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนนั้น เกมแนว FPS หรือเกม Shooting ต่าง ๆ ตัวละครแต่ละตัว จะไม่ได้มีผลกับเกมการเล่น ส่วนมากจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก เน้นสวย เน้นหล่อ ความแตกต่างของเกมการเล่นจะเน้นไปที่อาวุธ และฝีมือการยิงของผู้เล่นแต่ละคน

ในปี 2014 มีสองเกมที่เปิดตัว และช่วยนิยามคำว่า Hero Shooter ให้ชัดเจนขึ้น นั่นคือ Battleborn และอีกเกมก็คือ Overwatch เกมนี้ ด้วยการสร้างตัวละครในเกมให้มีหลากหลายแบบ เมื่อมีความหลากหลาย ย่อมเข้าถึงผู้เล่นได้ทุกเพศทุกวัย และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกมยิงก็ตาม แต่กลับไม่ค่อยมีความรุนแรงมากเท่าเกมยิงเกมอื่น ตัวละครใน Overwatch ก็จะแบ่งออกเป็นหลากหลายตำแหน่ง เน้นโจมตี ป้องกัน สนับสนุน และมีความสวย หล่อ เท่ น่ารัก เรียกได้ว่าครบทุกแนว

Ss 3c87f609fbe5beea7a2cfd8122d58460139ef7e6.1920x1080

ภาพจากเกม Battleborn

การมาถึงของ Overwatch ทำให้หลายคนเข้าใจคำว่า Hero Shooter มากขึ้น กล่าวคือจากปกติแล้ว เกมยิงจะเน้นไปที่การยิงสังหารฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสะสมคะแนนจนชนะ หรือทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง แต่ในเกมนี้ตัวละครแต่ละตัวจะมีสกิลความสามารถที่กดใช้ได้ และมันจะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นเกมพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น Genji ตัวละครขวัญใจแฟนเกมที่ชักดาบมาปัดป้องกระสุนได้, Tracer ที่สามารถวาร์ปได้ในระยะเวลาสั้น ๆ, Bastion ที่เปลี่ยนตัวเองเป็นป้อมปืนสุดอันตรายได้ ความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ตัวเกมเพลย์การเล่นมีความพลิกแพลง และเกิดสถานการณ์ที่หลากหลาย แล้วแต่ทีม และรูปเกมของตานั้น ๆ ส่งผลให้เกิดความสนุกที่ไม่ซ้ำกันในการเล่นแต่ละรอบ

นับตั้งแต่ Overwatch เปิดตัว ทำให้หลากหลายเกมต่อจากนั้น เริ่มทำเกมแนว Hero Shooter ของตัวเองขึ้นมา เช่น Lawbreakers และ Gigantic ในปี 2017, Paladins ในปี 2018 และที่โด่งดังมาก ๆ ก็คือ Apex Legends ในปี 2019 หรือแม้แต่ Battlefield 2042 ก็ใช้ระบบ Hero Shooter นี้ด้วย

ความสนุกของการเล่นเป็นทีมเวิร์คและดัน Payload

2022 04 19 123603

แม้จะเป็น Multiplayer Shooter แต่ตัวเกมเน้นให้เราเล่นกันแบบทีมเวิร์คมากกว่า สำหรับเกมการเล่นหลัก ๆ ในช่วงแรกนั้น นอกจากการยึดจุดที่เป็นมาตรฐานของเกมแนว Team Shooter แล้ว อีกหนึ่งความสนุกของเกมนี้เลยคือภารกิจ Escort หรือการคุ้มกัน เอาให้เข้าใจง่ายขึ้นมันคือการที่ทีมจะแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกจะต้องทำการดัน Payload หรือรถให้ไปถึงจุดมุ่งหมาย ส่วนอีกฝั่งจะต้องคอยขัดขวางไม่ให้ทำสำเร็จ โดยมีเวลามาเป็นตัวบีบ

หากทีมบุก ดัน Payload ไปจนถึงจุด Checkpoint ก็จะได้โบนัสเวลาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ฝ่ายป้องกันตึงมือมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งช่วงท้าย ที่มีการขับเคี่ยว ยื้อเวลา ต่อสู้กันเป็นพิเศษ จึงเป็นบรรยากาศที่มีแต่ Overwatch เท่านั้น ที่สามารถทำได้ ซึ่งการเล่นแบบ 6v6 ทำให้ทีมเวิร์คมีความสำคัญสูงมาก ในการดีไซน์แผนที่ และการหาจุดกลยุทธ์ในการเล่นให้เหมาะสม เกมนี้จึงเป็นอีกเกมที่ในช่วงเปิดตัวนั้น สามารถติดหนึบ นั่งเล่นกันได้แทบจะทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว

Ovr Pr Switch Gameplayshots Xa 036 A

ช่วงแรกอาจจะยังสนุก แต่ก็ถือว่าการเล่นแบบทีมเวิร์คก็จะมีปัญหาตามมา กับชาวไทยหัวใจ DPS ที่มักจะเลือกกันแต่ตัวละครทำดาเมจ จนขาดแคลนแทงค์และซัพพอร์ท ก็ถือว่าเป็นปัญหาทั่วไปของเกมแนวมัลติเพลเยอร์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความสนุกของ Overwatch ในตอนนั้นถือว่า ยากจะหาเกมใด ๆ มาเทียบได้

ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย

Maxresdefault

สำหรับ Overwatch นั้น เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในแง่การตลาดนับตั้งแต่ก่อนเกมจะวางจำหน่ายเสียอีก ชื่อของ Overwatch แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และดึงดูดความสนใจจากแฟนเกม และคนที่ไม่ใช่แฟนเกมได้เป็นจำนวนมาก ด้วยการออกแบบตัวละคร Short Animation หรือเนื้อเรื่องเสริมต่าง ๆ ที่คนไม่เล่นเกมก็สนุกและอินไปกับมันได้ (จนสุดท้ายก็ยอมซื้อเกมมาเล่น) ทำให้มันแทบจะกลายเป็นไวรัล ทั้งที่เกมยังไม่ได้วางจำหน่าย เกิดชุมชน ฐานแฟนจำนวนมากเกี่ยวกับตัวเกมนี้

และเมื่อเกมเปิดตัว มันก็กวาดคำชม และคำวิจารณ์จากสื่อหลากหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบเกม การออกแบบดีไซน์ตัวเกม แผนที่ และตัวละคร ถึงขั้นที่ทาง IGN ชื่นชมว่า Overwatch นั้น รีดทุกหยด ใช้ทุกโอกาสในการทำเกมให้สนุก และมันทำออกมาได้ดีจริง ๆ ดึงดูดได้ทั้งคนเล่นเกมประจำและแฟนเกมหน้าใหม่ให้มาชอบเกมนี้ได้อย่างง่ายดาย และความเป็น Hero Shooter ทำให้เกมมีปูมหลัง เนื้อหาของแต่ละตัวละครที่น่าสนใจมาก และเมื่อตัวเกมมันขายได้ การออกแบบตัวละครที่หลากหลาย ส่งผลให้สังคมและชุมชนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านของแฟนอาร์ท และการคอสเพลย์ แฟน ๆ ชาวไทยที่อยู่ในวงการคอสเพลย์ช่วงนั้นจะรู้ว่า เหล่านักคอสเพลย์ในไทยจำนวนมาก หันมาคอสเพลย์ Overwatch กันอย่างมากมายมหาศาล แทบจะทุกงานที่มีการคอสเพลย์

2022 04 19 123830

ในเรื่องยอดขายก็ต้องบอกว่าหายห่วง ในเมื่อกระแสมันมาแรงขนาดนี้ มีรายงานว่าเพียงสัปดาห์แรกที่เกมเปิดตัว เกมก็มีคนเล่นกว่า 7 ล้านคน นั่นหมายถึงยอดขายที่เท่ากัน แถมตัวเลขยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด ทำให้ตัวเกมมียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 3 ส่งผลให้ทาง Blizzard โกยเงินเข้าบริษัทได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ จากเกมเพียงเกมเดียวเท่านั้น และช่วงเปิดตัว Overwatch ยังเป็นเกมที่ได้รับความนิยมแซงหน้าเกมรุ่นพี่อย่าง League of Legends ในบางประเทศอีกด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นเกมก็เกิดปะเด็นวิพากษ์วิจารณ์มากมาย อย่างเช่นในช่วงแรกที่มีการออกแบบตัวละครหญิงที่เน้นสรีระและความสวยงามเท่านั้น จนทาง Blizzard ต้องออกแบบตัวละครให้หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น Zarya หรือแม้กระทั่งท่าโพสตอนชนะเกมของ Tracer และยังมีวิบากกรรมเรื่อง Loot Box อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน Overwatch เหลือแฟนคลับเดนตายอยู่จำนวนหนึ่ง โดยที่กระแสความนิยมของเกมนั้นลดลง เพราะแนวทางการบริหารที่เปลี่ยนไปของ Activision Blizzard แถมคอนเทนต์อัปเดตก็เริ่มดรอปลงไปเรื่อย ๆ รวมไปถึงการปรับปรุงบาลานซ์แต่ละอย่างของตัวเกม ก็ฟังเสียงนักแข่งเป็นส่วนใหญ่ จนผู้เล่นธรรมดาเริ่มไม่สนุกกับเมต้าของตัวเกม และในปี 2019 ทาง Activision Blizzard ก็ประกาศเปิดตัวสิ่งที่แฟน ๆ ไม่ได้ร้องขอ

ภาค 2 ที่แฟน ๆ ไม่ได้ร้องขอ

Overwatch 2 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ซึ่งในตอนเปิดตัวนั้น แน่นอนว่าแฟน ๆ เสียงแตกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน เพราะแฟนเกมที่ยังชื่นชอบและรักภาคแรกอยู่นั้น ก็ต้องการให้มีการอัปเดตภาคแรกมากกว่าจะโยกย้ายไปทำภาคใหม่ แถมหลังจากการเปิดตัว สิ่งที่สังเกตได้เลยคือ มันแทบไม่มีความแตกต่างจากตัวเกมภาคแรกเลย ทั้งในด้านเกมเพลย์การเล่นและกราฟิกกับเอนจิ้นของตัวเกม

ในช่วงเดือนกันยายน 2021 มีการปล่อยคลิปเกมเพลย์แบบ Full Match ที่ได้เหล่า Pro Player ไปทดสอบมา หลังจากแฟนเกมได้เห็นแล้ว ก็เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า มันดูจะไม่แตกต่างจากภาคแรกเลย แต่อย่างไรก็ตาม ทีมงานเปิดเผยว่าคนที่มีตัวเกมภาคแรกอยู๋แล้ว จะได้อัปเกรดเป็นภาค 2 และได้เล่นโหมด PvP กันแบบฟรี ๆ เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ต้องซื้อแยกก็คือโหมดเนื้อเรื่องของตัวเกม ให้นึกภาพ Halo Infinite เอาไว้ ที่ขายโหมดเนื้อเรื่องแยก แต่ PvP เล่นได้ฟรี

แม้จะไม่มีใครตอบได้ว่า การมาถึงของ Overwatch 2 จะช่วยให้เกมนี้สามารถรีเทิร์นกลับมาได้อย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ แต่สำหรับแฟน ๆ แล้วก็ถือว่าน่าสนใจ และน่าติดตามอยู่มาก จะรุ่งหรือจะร่วง รอหาคำตอบกันได้ในอนาคตก็ยังไม่สาย สำหรับเกมที่เคยโลดแล่นในหน้าประวัติศาสต์วิดีโอเกมอย่าง Overwatch

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top