BY StolenHeart
11 Mar 20 12:27 pm

First Impression ความรู้สึกต่อโหมดใหม่ Call of Duty: Warzone

5 Views

เปิดให้เล่นกันแล้วเมื่อคืนนี้กับโหมดใหม่เล่นฟรีของ Call of Duty: Modern Warfare กับโหมด Battle Royale ที่ลือกันมานาน Warzone ซึ่งมีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจให้เราได้เล่นกันเพียบ มาดูกันว่าความประทับใจแรกของโหมดนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง

สำหรับโหมด Warzone นี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองโหมดใหญ่คือ Battle Royale และ Plunder ซึ่งทั้งสองโหมดนี้มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ก็อิงรูปแบบการเล่นเหมือน Battle Royale อื่น ๆ โดยในบทความนี้จะแบ่งออกเป็นสองหัวข้อใหญ่ด้วยกันครับ

Battle Royale

โหมดหลักที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดี กติกานั้นก็เหมือนเดิม ทำยังไงก็ได้ให้รอดไปเป็นทีมสุดท้าย โดยในตอนนี้เลือกเล่นได้แค่แบบ Trio หรือทีมสามคนเท่านั้น และมีแผนที่ให้เล่นแห่งเดียวคือ Verdansk ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับแผนที่ในโหมด Ground War และไม่ต่างจากในโหมด Black Out ของ Black ops 4 นัก

ส่วนความละเอียดและซับซ้อนของแผนที่นั้นถือว่ามีรายละเอียดมากทีเดียว ตึกหลายตึกมีเหลี่ยมมุมกับของซ่อนอยู่มากมาย และยานพาหนะหลายชนิดให้ขับ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้เล่นจะยังหาจุดลงประจำของตัวเองไม่เจอ การลงก็เลยกระจัดไปกระจายไปสักนิด แต่บางครั้งก็เจอกันไว ยิงกันเร็วเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่เราจะรู้ว่าจะไปลงตรงไหนได้บ้าง

สำหรับของติดตัวนั้นผู้เล่นจะลงมาพร้อมกับปืนพกหนึ่งกระบอก ของในฉากที่มีให้เก็บนั้นจะมีทั้งอาวุธ(แบ่งเป็นเกรดตามความแรงและหายาก) กระสุน อุปกรณ์ Kill Streak, Field Upgrade ให้เปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และเงินให้เก็บตามทางมากมายเพื่อเอาไปซื้อของจำพวก Killstreak และเรียก Loadout ที่เราจัดเอาไว้ใช้ในโหมด Multiplayer ซึ่งร้านขายของนี้บางครั้งก็เป็นจุดล่อเป้าให้เราโดนศัตรูในฉากสอยได้เหมือนกัน จึงต้องระมัดระวังกันให้ดี

สิ่งที่แตกต่างจากเกม Battlr Royale อื่นคือระบบเกราะและพลังชีวิตของเกม ผู้เล่นจะมีเกราะติดตัวมาสองช่อง(ใส่ได้สูงสุดสามช่อง) หาเก็บได้ตามฉาก ส่วนพลังชีวิตหากลดลงจะใช้เวลาพักหนึ่งจะฟื้นขึ้นมาเต็ม(แต่ใช้ Stem ปั๊มขึ้นมาให้เต็มทันทีได้) เกราะหากโดนยิงจนหมดช่องจะหายไปเลย ต้องหามาสวมทับใหม่ การยิงต่อสู้จึงต้องใช้ความเด็ดขาดในระดับหนึ่งเพราะศัตรูไม่จำเป็นต้องปั๊มยามาสู้กับเราก็ได้หากรอดไป

อีกอย่างที่น่าสนใจคือตัวเกมใส่ระบบ Ping มาให้ด้วย ซึ่งตัดปัญหาเรื่องการสื่อสารในเกมได้ดีมากสำหรับคนที่อาจจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่รู้ว่าต้องไปตรงไหนยังไง และชี้ตำแหน่งศัตรูให้เพื่อนร่วมทีมได้ เพียงแค่กดปุ่ม Alt ซ้ายก็ใช้งานได้แล้ว หรือถ้าไม่ถนัดก็สามารถปรับได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นระบบพื้นฐานของเกมแนวนี้ไปแล้ว

นอกจากจะต้องมาไล่ฆ่ากันเองแล้ว ในเกมจะจุดรับภารกิจพิเศษให้เข้าไปเล่นด้วย โดยภารกิจเหล่านี้ก็มีตั้งแต่แบบง่าย ๆ อย่างคุ้มครองเพื่อนร่วมทีม หาข่าวสารด้วยการอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือไล่เก็บของและเป้าหมายในพื้นที่ โดยจะได้รับรางวัลเป็นอาวุธและเงิน นี่ก็ถือเป็นการนำเสนอที่น่าสนใจ ไม่ได้มีเพียงแค่การไล่ยิงกันเฉย ๆ เท่านั้น

และทีเด็ดของโหมด Battle Royale นี้ก็คือ หากเราพลาดท่าโดนยิงจนตาย เกมของเรายังไม่จบทันที แต่จะถูกลากตัวไปตัดสินในคุก Gulag ดวลกับผู้เล่นอื่นในแบบ Gun Fight ถ้าเราชนะจะได้รับโอกาสครั้งที่สองในการลงมาเล่นอีกครั้ง ซึ่งนี่ถือเป็นไอเดียการคืนชีพที่แหวกแนวกว่า Apex Legends หรือ Fortnite ไม่น้อยเลย เพราะถ้าคุณเก่งจริง คุณจะสามารถเข้ามาแก้ตัวได้ใหม่อีกครั้ง เป็นการนำเสนอที่น่าสนใจไม่เลวทีเดียว

น่าเสียดายที่ในตอนนี้เกมมักจะพาเราไปเจอกับห้องที่มี Ping ค่อนข้างสูงอยู่เสมอ น้อยมากที่ผู้เขียนจะเจอห้องที่ Ping ต่ำกว่า 40 ซึ่งโดยปกติจะเจอห้องที่ค่า Ping เฉลี่ย 150 ขึ้นไป อาจเพราะตัวเกมในโหมดนี้ต้องการผู้เล่นเข้าร่วมค่อนข้างมากทำให้ถูกลากไปยังเซิฟเวอร์ที่อยู่ไกลกว่าการเล่นแบบปกติ ซึ่งผู้เขียนก็หวังว่าจุดนี้จะถูกแก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต

แต่โดยรวมแล้วโหมด Battle Royale ของ Warzone ก็เล่นได้สนุกไม่แพ้ Blackout ในภาค Black Ops 4 เลย ทั้งการยิงสุดสะใจในรูปแบบที่คุ้นเคย กับระบบใหม่ที่ฉีกออกมาจากเกมอื่นได้อย่างน่าสนใจ ถ้ามีเพื่อนรู้ใจเล่นด้วยกันจะเป็นอะไรที่สนุกไม่รู้ลืมกันเลย

Plunder

อีกหนึ่งโหมดที่มีรูปแบบการเล่นน่าสนใจไม่แพ้กัน กติกาของมันจะคล้าย ๆ กับ Battle Royale แต่ในโหมดนี้จะไม่เน้นฆ่า ไปเน้นเก็บเงินที่หาได้จากในเกมรอบนั้นแทน ที่สำคัญคือโหมดนี้เราสามารถฟื้นกลับเข้ามาเล่นได้เรื่อย ๆ หากโดนยิงตาย แต่จะถูกหักเงินที่ได้มาไปส่วนหนึ่ง เกมจะมีเวลาให้เล่นรอบละ 30 นาที เกมจะจบลงเมื่อผู้เล่นทีมใดทีมหนึ่งเก็บเงินจนครบ 1 ล้านหรือเวลาหมดลง

โหมดนี้ไม่มีการใช้หมอกบีบพื้นที่ให้ผู้เล่นเข้ามาเจอกัน แต่จะใช้ระบบ High Value Target ที่แสดงตำแหน่งของผู้เล่นที่มีเงินเก็บสะสมสูงสุดในแผนที่แทน ทีมไหนเงินเยอะจะถูกเพ่งเล็งและตามล่าตัวได้ง่ายกว่าปกติ และในขณะที่เราต้องสร้างตัว ก็ต้องขัดขวางผู้เล่นอื่นไปด้วย

ของช่วยเหลือในโหมดนี้จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกสองสามอย่างคือบอลลูนส่งเงินที่ช่วยเป็นหลักประกันให้เราว่ารอบต่อไปที่โดนฆ่าเงินจะไม่หล่น หรือจะเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับเงินไปก็ได้เหมือนกัน(แต่เกมจะร้องเตือนทั้งแผนที่ว่ามีการส่งเงินเกิดขึ้น) และยิ่งช่วงท้ายเกมก็จะเปลี่ยนจากการไล่หาภารกิจทำมาเป็นการไล่ยิงกันเองเพื่อขัดแข้งขัดขาไม่ให้อันดับหนึ่งได้ตำแหน่งไปโดยง่าย เป็นความสนุกที่จัดว่าแหวกแนวใช้ได้เลย

น่าเสียดายที่เวลาเล่นต่อรอบและเงื่อนไขการเอาชนะนั้นค่อนข้างจะยาวไปหน่อย เพราะบางช่วงของเกมที่ไม่ได้ปะทะกันนั้นออกจะยาวเกินไปจนแอบหาวนิด ๆ ถ้าแก้ไขให้จบไวกว่านี้โหมดนี้จะเล่นได้สนุกขึ้นมาก หรือไม่ก็ลดเงื่อนไขการจบเกมของอันกับหนึ่งให้ไวกว่าเดิมเช่นเก็บเงินให้ครบ 800,000 ก็พออะไรแบบนี้ เพราะ Plunder เป็นโหมดที่มีการนำเสนอน่าสนใจ ถ้าหากปรับแก้เวลาในการเล่นลงอีกนิดจะสมบูรณ์แบบมากครับ

โดยรวม

สรุปแล้ว Call of Duty: Warzone ถือเป็นโหมดการเล่นแบบ Battle Royale ที่สนุกและนำเสนอได้น่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนประทับใจมากกับวิธีการเกิดใหม่ที่ไปสู้กันแบบ Gun Fight ใน Gulag และที่สำคัญคือเล่นได้ฟรีอีกด้วย ซึ่งถ้ามีการปรับแก้จุดที่น่ารำคาญบางอย่างได้ก็จะน่าสนใจกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วเป็นโหมดที่คอเกมแนว Battle Royale ควรลองครับ

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top