Graphic ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง
ในปี 2007 ในขณะนั้น สเปคคอมพิวเตอร์ของคนปกติ คือ Dual Core processor 2.4 GHz Intel Pentium® ที่มีการ์ดจอ NVIDIA GeForce 6800 มี Ram การ์ดจอที่ 256 MB พร้อมกับ Ram อีก 2 GB ยังเป็นสเปคคอมที่พอเล่นเกมในยุคนั้น อย่าง BioShock,Call of Duty 4 และ Assassin’s Creed ได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งตอนนั้นถือว่าเกมเหล่านี้กราฟิกที่สวยมากอยู่แล้ว แต่การมาถึงของเกมอย่าง Crysis ที่มันได้ทำให้คอมพิวเตอร์ของคนในยุคนั้นตกรุ่นไปทันที ด้วยกราฟิกที่สวยงามของเกมมันจึงได้สร้าง Effect ไปทั่วทั้งวงการเกม ซึ่งในส่วนของผู้เล่นนั้นหลายคนต้องทุบกระปุกออมสินเพื่ออัพเกรดคอมพิวเตอร์ขนานใหญ่ แต่ในส่วนของวงการเกมนั้น “กราฟิก” ถูกยกขึ้นเป็นประเด็นหลักของเกมส่วนใหญ่ไปโดยทันที โดยผลของมันนั้นได้ส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
หลังยุค 2000-2007 นั้นเกมส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นด้านของกราฟิก มากนักแต่จะเน้นไปในด้านของการเล่าเรื่อง (Story) และเกมการเล่น (Gameplay) มากกว่าซึ่งบางเกมนั้นยังคงรักษาอัตลักษณ์ของเกมไว้ได้จนถึงปัจจุบัน แต่บางเกมนั้นได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง แต่โดยส่วนมากแล้วเรามักจะไปเสพในส่วนของเกมการเล่นมากกว่า ซึ่งในยุคนั้น ระบบ Internet ความเร็วสูงกำลังเป็นที่นิยม ดังนั้นในยุคนั้นการเล่นเกม Online จึงเป็นที่นิยมมากกว่า ซึ่งเกมออนไลน์ในสมัยนั้นมีให้เล่นมากมายและบางเกมที่ระบบการเล่นยอดเยี่ยมอย่าง Maple Story, Ragnarok, Cabal ยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันนี้ ทำให้ Developer เกมในยุคนั้นมีทางเลือกเดียวคือต้องหาวิธีในการสร้างเกมที่มีระบบการเล่นดีกว่าการเล่นเกมออนไลน์ เนื้อเรื่องจะต้องเข้มข้นพอที่จะดึงดูดคนไม่ให้ไปเล่นเกมออนไลน์และที่สำคัญจะต้องมีระบบอื่นเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ทำให้ในยุคนั้นเป็นจุดกำเนิดของหลาย ๆ แฟรนไชส์อย่างเช่น Call of Duty (2003) Monster Hunter(2004) God of War (2005) เป็นต้น
แต่หลังจากปี 2007 ที่ Crysis ได้ออกมามันได้สร้างมารตฐานใหม่ให้กับวงการเกม มันทำให้เกม FPS ในยุคนั้นต้องมีกราฟิกที่สวยงามถึงจะถือว่าเป็นเกม FPS ที่แท้จริง นอกจากเกม FPS เกมแนวอื่น ๆ ยังได้รับผลกระทบนี้ไปเช่นกันทำให้ ” กราฟิก ” กลายเป็นประเด็นหลักของเกม ๆ นั้นไปทันที โดยเฉพาะชาว PC ที่สามารถอัพเกรดการ์ดจอของตัวเองได้ง่ายกว่าฝั่ง Console จึงสามารถข่มคนอื่นได้อย่างสบายใจ (ฮา) โดยเกมที่ออกมาจากหลัง Crysis หากเป็นเกมภาคต่อ กราฟิกก็จะดีขึ้นหลายเท่าจากภาคก่อนเช่น Grand Theft Auto IV ,Call of Duty: World at War,Metal Gear Solid 4 ล้วนแต่มีกราฟิกที่ดีขี้นกว่าภาคก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด หรือเกมออกใหม่ในตอนนั้นอย่าง Batman: Arkham Asylum หรือ Bionic Commando ก็มีกราฟิกที่สวยงาม
ในยุค 2010 จนถึงปัจจุบันนั้น Console และ PC สามารถเล่นเกมโดยมีกราฟิก ไม่ต่างกันมากแล้ว เกมสมัยนี้ยังมีภาพที่สวยงามกว่าในปี 2007 มาก ซึ่ง Developer บางค่ายนั้นได้นำเอากราฟิก มาเป็นจุดขายเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจอย่างอื่นเลยเช่นเกมอย่าง Order 1896 หรือ Ryse son of Rome ที่กราฟิกนั้นสวยมาก แต่ Gameplay นั้นกลับทำได้ไม่ดี หรือแม้แต่ภาคต่อของหลาย ๆ เกมที่ดีอยู่แล้วแต่กลับเน้นกราฟิกจนลืมตัวตนของตัวเองไปอย่าง Resident Evil 6 หรือ Sim City ในปี 2013 ที่ทำให้เกมนั้นหมดความยิ่งใหญ่ของตัวเองในที่สุด หรือแม้แต่การโปรโมทเกมในสมัยนี้ที่เน้นขายกราฟิก กันอย่างเดียว ใน Trailer นั้นภาพสวยงามจนทำเอากด Pre-Order แทบไม่ทัน แต่ตัวเกมออกมาจริง ๆ นั้นกลับถูก Downgrade จนไม่น่าให้อภัย
กรณีนี้ยกตัวอย่างง่ายที่สุด คือ Ryse son of Rome ที่กราฟิกแทบจะเรียกได้ว่า ก้าวข้ามเกมในสมัยนั้นไปหลายขุม ทั้งความคมของภาพ ความสวยงามของฉาก ล้วนแต่ได้ส่งให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่น่าจับตามองในตอนนั้น แต่พอเกมได้ออกมาจริง ๆ นั้นแม้กราฟิกจะสวยงามอย่างที่ได้โฆษณาไว้ แต่ Gameplay กลับทำได้ไม่ดีนัก โดยตัวเกมนั้นเป็นแนว Hack’n slash ที่มีความเป็นเส้นตรงอย่างมากมีเพียงการต่อสู้กับศัตรูกลุ่มเล็ก ๆ และไปสู้กับบอสใหญ่ประจำด่าน นอกจากนี้ตัวเกมยังมีทางลัดให้ผู้เล่นเก่งขึ้นโดยไม่ต้องฝึกฝนนั่น คือการเติมเงินเข้าไปในเกมเลย ทำให้เราต้องมานั่งคิดว่า เสียเงินซื้อเกมมาแล้วยังต้องมาเสียเงินให้ตัวเองเก่งขึ้นอีก
สุดท้ายนี้ผู้เขียนไม่ได้ต้องการที่จะบอกว่าเกมที่กราฟิกไม่สวยไม่ใช่เกมที่ดี เพียงแต่อยากจะบอกว่าในยุคนี้นั้นเราเน้น กราฟิก มากจนเกินไปทำให้เราลืมส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญไปอย่าง เนื้อเรื่องที่ลุ่มลึกหรือระบบการเล่นที่สนุกสนาน ดังนั้นถึงเวลาที่ผู้พัฒนาเกมทั้งหลายควรจะหันมาใส่ใจพัฒนาด้านอื่นเสียบ้าง อย่างมุ่งแต่การพัฒนากราฟิกอย่างเดียว