ชะตากรรม: Artoon ก่อตั้งในปี 1999 โดยดาวดังจากค่าย SEGA หลายคนและพนักงานในช่วงแรกก็เป็นการดึงตัวพนักงานของ SEGA มาร่วมทีม โดยเฉพาะทีมพัฒนาผู้สร้าง Sonic the Hedgehog และ Panzer Dragoon ผลงานส่วนใหญ่ของ Artoon เป็นเกมแนวนำเสนอไอเดียที่โด่งดังก็เป็นผลงานในเครื่อง Xbox และ Xbox 360 ซึ่งร่วมพัฒนากับทีมอื่น ๆ อย่างทีม Mistwalker
ก่อนที่ในปี 2010 Artoon จะถูกยุบทีมไปรวมกับ AQ Interactive ก่อนที่ทีม AQ Interactive เองก็ได้ถูกยุบรวมกับบริษัท Marvelous ในเวลาต่อมา ซึ่งทุกวันนี้ Marvelous ก็ยังมีผลงานออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ผลงาน: Blue Dragon, Vampire Rain, The Last Story
Cavia
ชะตากรรม: ก่อตั้งในปี 2000 และสร้างชื่อโดยการปั้นซีรีส์ Nier ต้นฉบับและซีรีส์ Drakengard ไปจนถึงเป็นผู้พัฒนา Resident Evil: Dead Aim ก่อนที่ตัวทีมจะถูกยุบไปรวมกับ AQ Interactive เช่นเดียวกับทีม Artoon โดยผลงานชิ้นสุกท้ายที่ Cavia ได้พัฒนาออกสู่มือเกมเมอร์ก็คือเกม Nier ตัวต้นฉบับนั่นเอง
แม้ค่ายจะปิดตัวไปแต่หัวหอกในการสร้างทีม Nier อย่าง Yoko Taro ก็ได้เดินหน้าสร้างเกมอื่น ๆ ต่อไม่ว่าจะเป็น Drakengard 3 ใต้ทีมพัฒนาใหม่อย่าง Access Games โดยมี Square Enix จัดจำหน่ายให้ซึ่งปัจจุบันซีรีส์ Nier ก็สร้างชื่อได้สำเร็จจากสุดยอดผลงานในภาค Automata
ผลงานเด่น: Drakengard , Nier , Resident Evil: The Umbrella Chronicles , Resident Evil: The Darkside Chronicles
Core Design
ชะตากรรม : ผู้ให้กำเนิด Tomb Raider ฉบับดั้งเดิม หลังพัฒนายาวนานต่อเนื่องหลายภาคจนเป็นตำนานของวงการเกม ตัวเกมในภาค Tomb Raider: The Angel of Darkness ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจน Eidos บริษัทแม่ตัดสินใจโยกย้ายซีรีส์นี้ไปให้ทีม Crystal Dynamics พัฒนาต่อ
การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ทีมงานดั้งเดิมหลายคนของ Core Design ตัดสินใจออกจากทีมไปตั้งทีมใหม่ในชื่อ Circle Studio โดยมีผลงานเป็นเกมยิงในชื่อ Without Warning ลงให้เครื่อง PlayStation 2 และจัดจำหน่ายโดย Capcom ซึ่งตัวเกมก็ล้มเหลวในแง่ยอดขายและคะแนนรีวิวทำให้สุดท้ายในปี 2007 ทีม Circle Studio ก็สลายตัว ส่วนทีม Core Design ขายทีมให้กับทีม Rebellion Developments และปิดตัวลงในปี 2010 เป็นการปิดตำนานผู้ให้กำเนิด Tomb Raider ในที่สุด
ผลงานเด่น: The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring, The Suffering
ทีมที่ปิดตัวในปี 2011
Bizarre Creations
ชะตากรรม: จัดเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและสร้างชื่อจาเกมแข่งรถชื่อดัง ที่โด่งดังที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Project Gotham Racing ที่เป็นเกม Racing อันดับต้น ๆ ของตลาดในยุคเครื่อง Xbox ตัวแรก
สุดท้ายแล้วทีมก็ถูกซื้อไปโดย Activision ในราคา 100 ล้านเหรียญก่อนถูกปิดตัว ทิ้งผลงานชิ้นสุดท้ายไว้ก็คือ James Bond 007: Blood Stone
ผลงานเด่น: Project Gotham Racing, The Club , James Bond 007: Blood Stone , Blur
Black Rock Studio
ชะตากรรม: Disney Interactive Studios สั่งปิดตัวพร้อมทีมพัฒนาชื่อดังอื่น ๆ ในสังกัดหลายทีม ส่งผลให้พนักงานกว่า 300 ชีวิตของ Black Rock แยกย้ายกันไปสังกัดและตั้งทีมใหม่ประกอบไปด้วย Studio Gobo, Roundcube Entertainment, ShortRound Games, Boss Alien และ Hangar 13 Brighton
ผลงานเด่น: The Italian Job, Split/Second
Blue Fang Games
ชะตากรรม: ปิดตัวหลังหมดสัญญากับ Microsoft และยอดขาย World of Zoo บนเครื่อง Wii ไม่ถึงเป้าหมาย
ผลงานเด่น: Zoo Tycoon , World of Zoo
Darkworks
ชะตากรรม: ทีมพัฒนาเกมสยองขวัญที่มีผลงานน่าสนใจหลายชิ้นสร้างเกมที่หลายคนน่าจะยังจดจำกันได้ดีอย่าง Cold Fear โดยผลงานชิ้นสุดท้ายคือ I Am Alive ซึ่งทีม Darkworks เป็นผู้คิดริเริ่มพัฒนาตัวเกมฉบับตั้งต้นก่อนที่ Ubisoft Shanghai จะนำไปพัฒนาต่อจะเสร็จออกมาเป็นเกมตัวเต็ม สุดท้าย Darkworks ก็ปิดตัวและยกเลิกการพัฒนาโครงการเกม Black Death เกมยิง FPS สยองขวัญที่มีไอเดียน่าสนใจ
ผลงานเด่น: Alone in the Dark: The New Nightmare , Cold Fear , I Am Alive
EA Bright Light (ชื่อเดิม EA UK)
ชะตากรรม: หลัง EA ออกมายืนยันว่า Bright Light จะเป็นทีมที่ชุบชีวิตให้เกมค่าย Bullfrog แต่ก็ไม่มีผลงานไหนถูกพัฒนาเสียที สุดท้ายทีมถูกสั่งปิดในปี 2011 โดยรู้กันว่าตอนนั้นทีมงานกำลังพัฒนาเกมจากค่าย Maxis อยู่ (Sims City, The Sims, Spore)
ผลงานเด่น: Burnout Dominator , ซีรีส์ Harry Potter
ชะตากรรม: แม้จะไม่มีการประกาศปิดทีมอย่างเป็นทางการโดย Sony แต่ลูกทีมส่วนใหญ่ก็ย้ายไปทำงานให้ทีม genDESIGN ซึ่งพัฒนา The Last Guardian จนสำเร็จ
ผลงานเด่น: Ico , Shadow of the Colossus , The Last Guardian
ทีมที่ปิดตัวในปี 2012
38 Studios
ชะตากรรม: ล้มละลายท่ามกลางดราม่ามหาศาลหลังตัวเกมทำยอดขายและคะแนนรีวิวได้ดี นำไปสู่การสืบสวนของรัฐและ FBI พัวพันโยงโยกับเงินกู้สนับสนุนจากรัฐ Rhode Island และผู้บริหารระดับสูงและบริษัทที่เกี่ยวข้อง
คดีสิ้นสุดตรงที่หลักฐานอาญาไม่เพียงพอแต่มีการจ่ายค่าปรับหลายสิบล้านเหรียญ ก่อน THQ Nordic จะเข้ามาซื้อลิขสิทธิและเนื้อหาทุกอย่างในชื่อ Kingdoms of Amalur ไปเมื่อปี 2018
ผลงานเด่น: Kingdoms of Amalur: Reckoning
nStigate Games
ชะตากรรม: ปิดตัวหลังยอดขายและกระแสเกม Black Ops: Declassified ย่ำแย่
ผลงานเด่น: Vampire: The Masquerade – Redemption, Call of Duty: Black Ops: Declassified
Rockstar Vancouver
ชะตากรรม: ก่อตั้งในชื่อ Barking Dog Studios และร่วมพัฒนาเกม Counter Strike ตัวต้นฉบับในตอน Beta 5 ก่อนที่ทาง Take Two จะเข้ามาซื้อทีมและเปลี่ยนชื่อเป็น Rockstar Vancouver ภายหลังมาตัวทีมพัฒนาเกมดังระดับตำนานสองทีมไม่ว่าจะเป็น Bully และ Max Payne 3
โดยหลังจบการพัฒนา May Payne 3 ทีมก็ถูกยุบไปรวมกับ Rockstar Toronto โดยมีการขยายขนาด Office และพนักงานเก่าของทีม Rockstar Vancouver ก็ได้สิทธิเลือกว่าจะไปร่วมงานกับทีม Toronto หรือทีม Rockstar อื่น ๆ
ผลงานเด่น: Bully, Max Payne 3
Spellbound Entertainment
ชะตากรรม: กลายเป็นทีม Black Forest Games อยู่ใต้ THQ ใหม่และกำลังพัฒนา Destroy All Humans!
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Desperados , Arcania: Gothic 4 , Robin Hood: The Legend of Sherwood
Vatra Games
ชะตากรรม: ล้มละลาย
ผลงานเด่น: Silent Hill: Downpour
Zipper Interactive
ชะตากรรม: ถูกซื้อโดย Sony ก่อนจะถูกปิดตัวในภายหลัง
ผลงานเด่น: BioShock 2 , The Bureau: XCOM Declassified
EA Black Box
ชะตากรรม: ปิดตัวหลัง EA โอนย้ายความรับผิดชอบในซีรีส์ Need for Speed ไปให้ทีม Ghost Games พนักงานของทีมหลายคนออกไปพัฒนา The Crew ให้ Ubisoft
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Skate , Need for Speed: Underground , Need for Speed: Most Wanted , Need for Speed: Undercover , Need for Speed: World , Need for Speed: The Run
EA Phenomic หรือ Phenomic Game Development
ชะตากรรม: ถูกสั่งปิดโดย EA หลังถูกตั้งทีมมาเพื่อพัฒนาเกมแนว RTS โดยเฉพาะ ผลงานชิ้นสุดท้ายของทีมคือ Command & Conquer: Tiberium Alliances เกม Free to Play เล่นบนเว็บ
ผลงานเด่น: Dark Void , Quantum Conundrum , Murdered: Soul Suspect
Crytek UK ชื่อเดิม Free Radical Design
ชะตากรรม: ปิดตัวและย้ายไปเป็นทีมใหม่ในชื่อ Dambuster Studios แบบยกชุด (เรียกได้ว่าวันปิดทีม Crytek UK ก็เป็นวันเปิดตัว Dambuster กันเลยแถมพนักงานก็ย้ายกันไปทั้งทีม) ใต้สังกัดทีมจัดจำหน่าย Deep Silver และกำลังพัฒนา Dead Island 2 ส่วนผลงานชิ้นล่าสุดของทีมนี้ก็คือ Homefront: The Revolution
ปัจจุบันมีทีมงานในสังกัด 140 ชีวิตใครคิดถึงผลงานทีมนี้ก็รอสนับสนุนกันใน Dead Island 2 อีกหนึ่งเกมที่พัฒนากันยาวนานจนหลายคนลืมไปแล้ว
ซึ่งการพัฒนา Dead Island 2 นั้น Dambuster ไม่ได้พัฒนาตั้งแต่แรกแต่เป็นการมาสานต่อผลงานของทีม Sumo Digital ที่เป็นทีมพัฒนาในตอนเกมเปิดตัว
ชะตากรรม: Sony สั่งปิดทีมหลังพัฒนา Driveclub มายาวนาน ทีมงานส่วนใหญ่ไปเข้าร่วมกับ Codemasters กลายเป็นทีม Codemasters EVO แต่หลังเกมของทีมอย่าง OnRush ไม่ประสบความสำเร็จลูกทีมหลายคนถูกปลดและตัวทีมถูกลดระดับความสำคัญให้กลายเป็นทีมสนับสนุนทีมอื่นแทน
ผลงานเด่น: MotorStorm , Driveclub
Lionhead Studios
ชะตากรรม: Microsoft ปิดทีมในปี 2016 หลังยกเลิกการพัฒนาเกม Fable ภาคใหม่ ทีมงานออกไปก่อตั้งทีมใหม่ในชื่อ Two Point Studios ซึ่งมีผลงานแรกคือ Two Point Hospital
ผลงานเด่น: Black & White, The Movies, และเกมตระกูล Fable
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Delta Force และ ซีรีส์ Joint Operations
Spicy Horse
ชะตากรรม: ทีมพัฒนาเกมจากจีนที่ตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้และถูกก่อตั้งโดย American McGee ตัวทีมปิดทำการในปี 2016 หลังเข็นภาคต่อของ American McGee’s Alice ออกมาสำเร็จเป็นผลงานใหญ่ หลังจากนั้นก็ปั้นเกมมือถือและเกมเล่นบนเว็บและปิดตัวไปในที่สุด
ผลงานเด่น: Alice: Madness Returns
United Front Games
ชะตากรรม: หลังปล่อยเกมฮิตขวัญใจเกมเมอร์อย่าง Sleeping Dogs ทีมนี้ยังจับมือกับค่ายดังพัฒนาตัวเกม Version พิเศษให้อีกหลายค่ายทั้ง Tomb Raider: Definitive Edition หรือ Halo: The Master Chief Collection แต่สุดท้ายหลังปล่อยเกม Smash+Grab ผ่าน Steam Early Access ไม่ถึงเดือนทางค่ายก็ประกาศปิดตัวไปแบบลึกลับ
ชะตากรรม: หลังการวางจำหน่าย Bioshock Infinite คุณ Ken Levine ประกาศปรับโครงสร้างทีมลดพนักงานจาก 90 เหลือ 15 คนและเปลี่ยนชือทีมเป็น Ghost Story Games โดยเน้นไปที่การพัฒนาเกมที่เน้นการเล่าเรื่องแต่ยังอยู่ใต้สังกัด Take Two เช่นเดิม
ผลงานเด่น: BioShock Infinite , Bioshock , Freedom Force , System Shock 2
Runic Games
ชะตากรรม: หลังประสบความสำเร็จใน Torchlight 2 ภาค Perfect World ได้เข้ามาซื้อทีม Runic Games เหล่าทีมพัฒนาคนสำคัญถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่มกลุ่มแรกออกไปตั้งทีมใหม่ในชื่อ Double Damage Games ผู้สร้าง Rebel Galaxy ส่วนหนึ่งอยู่กับ Perfect World ต่อภายใต้ชื่อทีม Echtra Games และพัฒนา Torchlight Frontiers สุดท้ายคือออกไปตั้งทีม Monster Squad Games และกำลังพัฒนาเกม Coop อยู่
ผลงานเด่น: Torchlight 1 – 2
Visceral Games ชื่อเดิมคือ EA Redwood Shores
ชะตากรรม: หลังการพัฒนาเกม Star Wars ภายใต้รหัว Project Rag Tag ไม่ประสบความสำเร็จ ทีมงาน Visceral จึงถูกยุบทีม การปิดตัว Visceral ก่อกระแสด้านลบอย่างรุนแรงให้กับ EA หลังถูกมองว่าทีมงานทอดทิ้งเกมแนว Singleplayer ไปแล้ว
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Dead Space , Battlefield Hardline , Dante’s Inferno
ทีมที่ปิดตัวในปี 2018
Boss Key Productions
ชะตากรรม: แม้จะนำทัพโดย Cliff Bleszinski ผู้ให้กำเนิด Gears of War แต่สุดท้ายทีม Boss Key ก็ไปไม่รอดหลังผลงานที่พัฒนามาอย่างยาวนานอย่าง Lawbreakers ไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี
ผลงานเด่น: Radical Heights , Lawbreakers
Capcom Vancouver
ชะตากรรม: ถูกยุบทีมระหว่างกำลังพัฒนา Dead Rising ภาคใหม่และโอนย้ายโครงการทั้งหมดกลับไปให้ Capcom หลักในญี่ปุ่น เชื่อกันว่า Capcom สั่งยุบทีมหลัง Dead Rising ภาคที่กำลังพัฒนาอยู่ไม่ได้มาตรฐานและพัฒนาไม่ได้ไปไกลเท่าที่บริษัทแม่คาดหวัง
ชะตากรรม: ผู้พัฒนาเกมดังมากมายบนเครื่อง Gameboy มาจนถึง Nintendo Switch ประกาศล้มละลายหลังระบุว่าการพัฒนาเกมใช้เงินทุนสูงเกินแบกรับและไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ทันเวลา
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Mario & Luigi
Defiant Development
ชะตากรรม: ทีมพัฒนาอิสระที่ก่อตั้งในปี 2010 หลังประเทศออสเตรเลียเกิดการปลดพนักงานในวงการเกมครั้งใหญ่ ทีมงานผ่านการพัฒนาเกมหลายแนวจนมาแจ้งเกิดในซีรีส์ Hand of Fate โดยผลงานล่าสุดที่ทีมกำลังพัฒนาอยู่คือ The World In My Attic แต่มีการประกาศปิดตัวหลังทีมงานเผยว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ทันกระแสของวงการ
ผลงานเด่น: Hand of Fate 1 – 2
Human Head Studios
ชะตากรรม: ทีมพัฒนาอิสระที่ก่อตั้งในปี 2010 หลังประเทศออสเตรเลียเกิดการปลดพนักงานในวงการเกมครั้งใหญ่ ทีมงานผ่านการพัฒนาเกมหลายแนวจนมาแจ้งเกิดในซีรีส์ Hand of Fate โดยผลงานล่าสุดที่ทีมกำลังพัฒนาอยู่คือ The World In My Attic แต่มีการประกาศปิดตัวหลังทีมงานเผยว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ทันกระแสของวงการ
ผลงานเด่น: ซีรีส์ Rune , The Quiet Man , Prey (2006)