ไม่ว่าจะเป็นเกมอะไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เราสนุกไปกับเกมได้ หนึ่งในนั้นคือระบบการต่อสู้หรือระบบ Combat นั่นเอง เพียงได้นั่งดูลีลาแอ็คชั่นของตัวละคร บางคนก็เพลิดเพลินแล้ว แต่การที่เกมใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ในการต่อสู้นั้น ยิ่งทำให้เกมนั้นดึงดูดให้เราเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ มากกว่า บางคนอาจจะเล่นเกมจนจบเพราะระบบ Combat มันสนุกจริง ๆ และเกมเหล่านี้ คือเกมที่ระบบการต่อสู้ยอดเยี่ยมจนต้องยกนิ้วให้ และเป็นจุดเด่นของเกมเลยทีเดียว จะมีเกมอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกัน
1. Control
Control นั้น ไม่ได้ยอดเยี่ยมแค่เรื่องของการใช้เทคโนโลยี Ray-Tracing ได้อย่างคุ้มค่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เรื่องของระบบการต่อสู้นั้นก็สุดยอดไม่แพ้กัน ด้วยการดึงเอาระบบฟิสิกส์มาผสมผสานด้วย ทำให้เกมนี้มีระบบการต่อสู้ที่ทรงพลังมาก ๆ หากผู้เล่นเคยดูหนังมาร์เวลและรู้จักตัวละคร Scarlet Witch แล้วล่ะก็ เกมนี้นี่แหละที่จะให้อารมณ์ความรู้สึกเราเหมือนกับแม่มดจอมพลังคนนั้น แถมยังใช้ปืนยิงได้อีกต่างหาก ซึ่งตัวปืนก็ออกแบบมาได้ดี มีความล้ำสมัยไซไฟ เมื่อทั้งหมดนี้ผสมผสานกันแล้ว Control ไม่เพียงแค่เป็นเกมเนื้อเรื่องเข้มข้น แต่ระบบการต่อสู้ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
2. Ghost of Tsushima
หัวใจหลักของ Ghost of Tsushima คือระบบการต่อสู้ที่ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติของยอดซามูไรและมือสังหารไปพร้อม ๆ กัน แม้ว่าการลอบเร้นอาจไม่ใช่หัวใจหลักของเกมนี้แต่มันก็ทำออกมาได้ดีจนแฟน ๆ Assassin’s Creed ยังโหยหา แต่ในขณะเดียวกัน ระบบการต่อสู้ประชิดของเกมนี้นั้น ท้าทาย และดุเดือดมาก ๆ ด้วยการออกแบบให้ศัตรูแต่ละประเภท แพ้ทางกระบวนท่าที่ต่างกัน ผู้เล่นจึงต้องมีสติ ปรับกระบวนท่าด้วยมือที่ควบคุมจอยคอนโทรลเลอร์และพิชิตศัตรูทีละคน ๆ จนหมด กลายเป็นเกมซามูไรเท่ ๆ ของจริง ยิ่งเราจัดการศัตรูด้วยกระบวนท่าต่าง ๆ แบบไม่เจ็บเลยสักแผล เกมนี้จะทำให้เรารู้สึกเท่และภูมิใจในตัวเองมาก คนที่เคยเล่นมาแล้วน่าจะรู้ว่าระบบการต่อสู้ของเกมนี้นั้น ยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่ใช่แค่ราคาคุย
3. SEKIRO: Shadows Die Twice
ในจำนวนเกมทั้งหลายของ FromSoftware นั้น หลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อ Bloodborne, Dark Souls และอื่น ๆ แต่ในแง่ของความดุเดือดของระบบการต่อสู้นั้น SEKIRO อาจจะเป็นเกมที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่า Bloodborne จะเปลี่ยนให้เกมเน้นเชิงรุกมากขึ้นด้วยการใส่ปืนมาแทน แต่ SEKIRO นั้น ก้าวไปอีกขั้นด้วยการตัดระบบ Stamina ออกไปเลย ทำให้เราไม่ถูกจำกัดการต่อสู้ด้วย Stamina อีกต่อไป เราสามารถโจมตี หลบหลีกได้อย่างไร้ขีดจำกัด แล้วไปวัดฝีมือการต่อสู้แบบเน้น ๆ แทนได้ด้วยระบบ Posture ด้วยอิสระในการต่อสู้ ฝีมือผู้เล่นจะเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งอย่าง หลายคนอาจยกให้ Bloodborne สนุกกว่า แต่ส่วนตัวผู้เขียนนั้นชื่นชอบ SEKIRO มากกว่า ในด้านของการต่อสู้
4. Star Wars Jedi: Fallen Order
หากพูดถึงเกม Star Wars ในยุคหลัง ๆ นี้ เรื่องของระบบการต่อสู้ ไม่น่ามีใครเกินภาค Star Wars Jedi: Fallen Order แล้ว ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมให้มีความเป็น Action และใส่กลิ่นอาย Souls-Like ลงไปนิด ๆ ทำให้การต่อสู้มีชั้นเชิงและความน่าสนใจมากขึ้น ในช่วงแรกที่ผู้เล่นควงไลท์เซเบอร์ปัดกระสุนออก ไปจนถึงช่วงหลัง ๆ ที่มีลีลา ท่วงท่าต่าง ๆ เข้ามาผสมผสาน นับเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่แฟน ๆ Star Wars จะต้องประทับใจ อาจจะมีจุดน่าขัดใจหลายอย่าง แต่ภาพรวมของ Star Wars Jedi: Fallen Order คืออีกสุดยอดเกมที่มีระบบการต่อสู้ที่น่าจดจำอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนเกม Star Wars
5. Final Fantasy 7 Remake
ด้วยความที่อยู่มานานหลายภาค ซีรีส์ Final Fantasy เอง พยายามมองหาจุดลงตัวของการออกแบบระบบการต่อสู้แบบอิสระและการต่อสู้แบบ Turn-Based ดั้งเดิม และจุดลงตัวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบก็คือภาค 7 Remake ที่เจอจุดลงตัว ทั้งการแอ็คชั่นที่อัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ไปจนถึงการวางแผนแบบกลยุทธ์ด้วยเกจ ATB ในเวลาที่เหมาะสม ทำให้ Final Fantasy 7 Remake นี้ ถือเป็นภาคที่ผสมผสานความเป็นเกมกลยุทธ์และเกมแอ็คชั่นได้อย่างลงตัว และน่าจะเป็ฯระบบการต่อสู้ของ Final Fantasy ที่ดีที่สุดเช่นกัน ตอนนี้แฟน ๆ PC ก็รอเล่นกันไปก่อน ว่าจะลงให้กับเครื่อง PC ตอนไหน
6. Sleeping Dogs
เกมดีที่ไร้เงาภาคต่ออย่าง Sleeping Dogs ที่หากพูดถึงเกมนี้ หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึงเกม Open World ของฮ่องกงที่สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองสูงมากเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่มันทำออกมาได้ดีมาก ๆ คือระบบการต่อสู้ที่เน้นหนักไปที่การต่อสู้ระยะประชิด และศิลปะการต่อสู้แบบมาร์เชี่ยลอาร์ทที่ทำให้เกมนี้ยังคงความสนุกเอาไว้ได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว ทั้งการเตะต่อยที่ดุเดือดและทรงพลัง ท่า Finish Move ที่เล่นกับวัตถุสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทำให้ Sleeping Dogs นั้น โดดเด่นเรื่องระบบการต่อสู้ ผสมผสานเข้ากับเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น สไตล์ 2 คน 2 คม เกมนี้ถือเป็นหนึ่งตำนานที่น่าเสียดายอย่างยิ่งในก้าวที่ผิดพลาดของ United Front จนตัวเกมไม่มีภาคต่อออกมาเลย
7. NARAKA: Bladepoint
เกม Battle Royale นั้น ส่วนมากจะเป็นการโดดลงมาหาปืนไล่ยิงกันซะมากกว่า แต่ไม่ใช่กับ NARAKA: Bladepoint ที่ออกแบบระบบการต่อสู้แบบเน้นการโจมตี และคอมโบในระยะประชิดด้วยอาวุธของเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลาย เช่นดาบ กระบี่ หอก และอื่น ๆ และการโจมตีไม่ใช่แค่การกดรัว ๆ ฟันมั่ว ๆ แต่ผู้เล่นจะต้องจดจำ Moveset จดจำรูปแบบการโจมตีที่แพ้และชนะทางกัน การคอมโบได้ หรือสวนกลับได้ จนจัดการศัตรูอีกฝ่ายร่วงลงไปกองกับพื้น ถือเป็นความรู้สึกอันยอดเยี่ยมในเกม Battle Royale และยิ่งกับเกมนี้ที่เรามีโอกาสสู้แน่นอน เพราะเน้นวิ่งเข้าหากันแบบระยะประชิด (มีอาวุธยิงไกลบ้าง แต่ไม่ได้ปลิดชีพได้ไวเท่าอาวุธระยะประชิด) นี่เป็นหนึ่งในเกมแนว Battle Royale ที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในด้านระบบการต่อสู้
8. Batman Arkham Series
ซีรีส์ Batman Arkham Series จัดว่าเป็นเกมซูเปอร์ฮีโร่คุณภาพเยี่ยมที่ใครหลายคนยอมรับ โดยมีภาคหลักออกมาทั้งหมดถึง 4 ภาค นับตั้งแต่ปี 2009 จะมียกเว้นก็ภาค Arkham Origins ที่ได้ผู้พัฒนาคนละทีมกันกับภาคอื่น ๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งระบบที่คล้ายคลึงกัน – นอกจากเราจะได้รับบทเป็นอัศวิตรัตติกาล ที่มีพร้อมสรรพทั้งเครื่องไม้เครื่องมือสารพัด จุดเด่นของเกมนี้เลยคือระบบการต่อสู้ในระยะประชิดที่ทำออกมาได้ลื่นไหลมาก ผสมผสานกับการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของตัว Batman โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคสุดท้ายอย่าง Arkham Knight ทำให้ซีรีส์ Batman Arkham เป็นอีกเกมที่เจ๋งมากเรื่องระบบการต่อสู้ และหวังว่าการกลับมาสานต่อจักรวาลใน Suicide Squad: Kill the Justice League ปีหน้านั้น ทาง Rocksteady จะยังคงทำออกมาได้ดี
9. Mad Max
หากเอ่ยถึงระบบการต่อสู้ ก็ไม่ควรขาดเกมนี้ไป Mad Max คือเกมม้ามืดของปี 2015 เพราะการเลือกวันวางจำหน่ายที่ชนกับยักษ์ใหญ่ของมหาเทพอย่าง Metal Gear Solid V ทำให้เกมนี้ฉายแสงอยู่อย่างเงียบ ๆ ใน่ชวงที่มันวางจำหน่าย นี่คือเกมที่สร้างจากภาพยนตร์ชื่อดังของ George Miller และตอนที่เกมนี้สร้างก็อิงกับภาค Fury Road ด้วยนิดหน่อย ความสุดยอดของเกมนี้คือระบบการต่อสู้ ทั้งบนพื้นดิน และระหว่างการขับรถ โดยการต่อสู้บนพื้นดินนั้น ดุดันทั้งการเตะต่อยแบบหนักหน่วง การ Finish Move ที่โหดสะใจ ส่วนบนรถก็จำลองสถานการณ์แบบในหนังออกมาได้ดีมาก ทั้งการติดตั้งอาวุธบนรถ การขับชนกระแทก และการสู้กับขบวน Convoy ใครที่กำลังมองหาเกมแอ็คชั่นสุดเดือดเล่นแล้วล่ะก็ Mad Max เป็นอีกเกมที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง