BY Aisoon Srikum
17 Feb 22 5:51 pm

7 ข้อควรรู้ ก่อนออกผจญภัยไปในดินแดนปริศนาของ Elden Ring

23 Views

อีกไม่กี่วัน แฟนเกมสายฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย กำลังจะได้สัมผัสกับผลงานใหม่จาก FromSoftware อย่าง Elden Ring กันแล้ว หลังจากรอคอยกันมาอย่างยาวนาน และวันนี้เราจะมาดูกันว่า มีอะไรกันบ้างที่เราควรรู้ก่อนออกผจญภัยไปในดินแดนอันลึกลับของ Elden Ring เกมนี้

1. โลกของเกมที่เปลี่ยนเป็นแบบ Open World

1

ที่ผ่านมา ผลงานของ FromSoftware จะเป็นแบบการเดินทางเป็นเส้นตรง แม้จะมีเส้นทางอันซับซ้อน แต่ก็ไม่ถึงขั้นกว้างใหญ่และเป็นโลกเปิดมาก Elden Ring จะเป็นเกมแรกที่มีความเป็น Open World เข้ามา ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะไปสำรวจส่วนไหนของแผนที่ก่อนก็ได้ อาจจะไปเจอไอเทมลับ เจอศัตรูระดับสูงตั้งแต่ช่วงแรก หรือเจอเส้นทางใหม่ ๆ NPC ใหม่ ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งหมดในโลกของ Elden Ring ถือเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ของเกม FromSoftware เลยก็ว่าได้

2. เส้นทางอันซับซ้อนที่อาจทำให้เราหลบเลี่ยงความยากลำบากได้

2

อย่างที่ได้กล่าวไปในส่วนของโลก Open World แม้จะเป็นโลกเปิดกว้างขนาดใหญ่ แต่เกมยังคงมีเส้นทางลับซุกซ่อนอยู่ในแผนที่ ซึ่งหากผู้เล่นสืบจนเจอเส้นทางแล้ว มันอาจจะใช้เป็นเส้นทางลัด ที่ทำให้เราหลีกเลี่ยงอุปสรรคและบอสบางตัวไปได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่ใช่ว่าจะหามันเจอได้ง่าย ๆ เพราะยังคงต้องอาศัยการสำรวจและใช้เวลากับมันไปไม่น้อย แต่ด้วยระบบนี้ ก็จะเชิญชวนให้ผู้เล่น เล่นแบบออกสำรวจและอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เพื่อให้สะดวกต่อการเล่นระยะยาวนั่นเอง

3. ระบบบอสและมินิดันเจี้ยน

3

ทาง FromSoftware ยังคงยืนยันว่า การออกแบบเกมนี้ยังคงไว้ซึ่งความยากและความท้าทายที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย แต่ในภาคนี้ผู้เล่นจะเข้าถึงมันได้ง่ายขึ้น เพราะบอสจำนวนมากของเกมนี้ จะไปพบได้ในดันเจี้ยนขนาดเล็ก หรือ Mini Dungeon แทน ทำให้การต่อสู้ค่อนข้างสะดวกสบายขึ้น ส่วนมากทางเข้าดันเจี้ยนจะไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก ทำให้สะดวกต่อการกลับไปสู้ใหม่ซ้ำ ๆ ได้ดีขึ้น หรือจะเลี่ยงก็ได้เช่นกัน เพราะมีการยืนยันแล้วว่า บอสบางตัวจะเป็นเพียงบอสทางเลือกที่คุณจะสู้หรือไม่สู้ก็ได้

4. ม้าวิญญาณ Torrent

4

ด้วยความที่เป็นเกมโลกเปิดกว้างขนาดใหญ่ จะให้เดินเท้าสำรวจอย่างเดียวคงไม่ไหว เราได้เห็นกันมาแล้วว่า เกมนี้จะมีพาหนะให้เราได้ขี่กัน นั่นคือม้าวิญญาณที่ชื่อว่า Torrent ม้าจะเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปพอสมควร ทั้งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและสามารถใช้หนีศัตรูได้ด้วย รวมไปถึงการต่อสู้บนหลังม้าก็สามารถทำได้เช่นกัน การมีม้าจะทำให้เราสามารถผ่านบางพื้นที่ที่ศัตรูชุกชุมไปได้อย่างเรียบง่าย และสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกต่างหาก การมาถึงของระบบม้า ทำให้เกมนี้มีรูปแบบการเล่นที่ต่างไปจากเกม Souls เกมอื่น ๆ พอสมควร

5. Roundtable Hold ศูนย์รวม NPC

5

เราจะยังคงได้พบกับ NPC มากหน้าหลายตาเหมือนเดิม โดยเกมนี้พวก NPC มักจะรวมตัวกันอยู่ที่ Roundtable Hold หรือโต๊ะกลมที่เป็นศูนย์รวม จะมีระบบการทำงานคล้าย ๆ กับ Bonfire ในเกมอื่น ๆ แต่เกมนี้จะมี NPC คอยอยู่ประจำจุดเพื่อทำหน้าที่ในการซื้อขายไอเทมช่วยเหลือ รวมไปถึงบางจุดก็มีพวกช่างตีเหล็ก ที่ใช้ในการอัปเกรดอาวุธ หรือความสามารถอื่น ๆ ได้ เช่นบัฟ หรือภารกิจเสริม นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจจากเกมตระกูลโซลเกมอื่น ๆ

6. ไม่มี Hollow Form อีกต่อไป

6

เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมาก ตามปกติแล้วเกม Souls จะมีสองโหมด โหมดร่างมนุษย์ที่ทำให้มีพลังชีวิตอยู่ในระดับปกติ แต่อาจจะถูกผู้เล่นคนอื่น Invade หรือบุกเข้ามารุกรานได้ หรืออีกโหมดคือ Hollow Form ที่เหมือนกับการเปิดโหมดออฟไลน์ ไม่มีผู้เล่นคนอื่นบุกมา แต่ก็มีข้อเสียตรงพลังชีวิตลดลง และเรียกคนอื่นมาช่วยเล่นไม่ได้ แต่ใน Elden Ring นี้ จะไม่มี Hollow Form อีกต่อไป คุณอาจจะโดนบุกโจมตีได้ทุกเมื่อ ทั้งตอนเล่นคนเดียวและเล่น Co-op และการตายของเกมนี้จะสูญเสียเพียงรูนเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นระบบที่เข้าถึงใครหลายคนได้เป็นอย่างดี

7. ระบบอาวุธที่สามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบ

7

ในเกมนี้เราจะเลือกคลาสของตัวเองได้ตั้งแต่ตอนสร้างตัวละคร ส่วนอาวุธจะไม่ได้จำกัดการใช้งานอยู่แค่ที่คลาสของตัวละครเท่านั้น เพราะเราสามารถใส่อะไรก็ได้ที่มือทั้งสองข้าง จะเป็นดาบหรือโล่ หรือดาบกับธนู หรือจะเป็นอาวุธที่เหมือนกันก็ได้ และที่สำคัญคือ เกมนี้จะมีสายร่ายเวทมนตร์ให้ผู้เล่นได้ลองใช้กันบ้างแล้ว ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในการเล่นบางสถานการณ์ และแน่นอนว่ามันคือความแปลกใหม่ที่เกม Souls อื่น ๆ ไม่มีด้วย และการมีอาวุธที่หลากหลาย + โลกเปิดกว้าง ทำให้เรามีสไตล์การเล่นที่เยอะขึ้น และเล่นลอบเร้นได้ด้วย

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top