BY Nattapit Arsirawatvanit
24 Jun 18 5:48 pm

5 สัญญาณอันตราย บ่งบอกว่าคุณเข้าข่ายเป็น “โรคติดเกม”

17 Views

เช็คตัวเองดูก่อนที่จะสายเกินไป

หลังจากที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยื่นเรื่องให้การติดเกมกลายเป็นโรค ผู้คนส่วนใหญ่ก็เริ่มตื่นตัวกับโรคนี้ หลายคนมองว่ามันเป็นภัยคุกคามทางเทคโนโลยีระลอกใหม่ ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะเรื่องนี้เป็นคลื่นใต้น้ำมานานแล้ว หลายคนทั่วทุกมุมโลกมีอาการติดเกมอย่างหนักจนเสียการเสียงาน ไม่ยอมทำกิจกรรมที่ควรทำในชีวิตประจำวัน จนสุดท้ายโรคอื่น ๆ ก็ตามมา กลายเป็นว่าชีวิตพังเพราะสื่อบรรเทิงที่ดูไร้พิษสงที่ชื่อว่าเกม

หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า GamingDose ก็เป็นสื่อเกี่ยวกับเกม ทำไมถึงเลือกจะกล่าวหาเกมว่าเป็นผู้ร้ายในเหตุการณ์นี้ พูดตรง ๆ ว่าทุกอย่างในโลกมีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง สิ่งที่เราคิดว่าดีนักหนาในชีวิตประจำวัน หากได้รับมากไปมันก็เป็นโทษได้ กินอาหารมากโรคก็จะถามหา กินน้ำในปริมาณมากอาการเจ็บป่วยก็จะมาหาคุณเหมือนกัน เกมก็เหมือนสองอย่างนี้ มันดีถ้าคุณเล่นพอประมาณ และมันอันตรายได้หากคุณเล่นจนเกินพอดี และนี่คือ “5 สัญญาณอันตราย บ่งบอกว่าคุณเข้าข่ายเป็นโรคติดเกม” ที่เราอยากให้คุณลองพิจารณาดูว่าคุณเข้าข่ายไหม หากเข้าข่าย 5 ข้อนี้ ก็รีบจัดการตัวเองโดยด่วน

 

1.คุณสนใจแค่เกม

อาการเบื้องต้นของคนเป็นโรคติดเกมคือเล่นเกมจนกระทบชีวิตประจำวัน อาการเบื้องต้นของคุณคือเกิดอาการไม่อยากทำนั่นทำนี่ที่สำคัญต่อชีวิต เช่นการไปทำงาน ไปเรียน หลังจากนั้นนาน ๆ เข้าคุณจะเริ่มรู้สึกไม่อยากทำสิ่งที่ต้องทำแล้ว เช่นการรับประทานอาหาร การเข้าห้องน้ำ ส่งผลให้ชีวิตประจำวันของคุณถูกรบกวนจนแย่ นาฬิกาชีวิตของคุณจะพัง ซึ่งนั่นหมายความว่าโรคอีกหลายโรคที่เกี่ยวกับประสาทและสมองจะตามหาคุณเจอในอีกไม่ช้า

gaming disorder

 

2.คุณมีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม

ปกติคุณอาจจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย เป็นพลเมืองดีของบ้านเมือง แต่ถ้าคุณเล่นเกมอย่างหนัก แล้ววันหนึ่งคุณเกิดความคิดเลวร้ายเช่นการลักขโมย อยากทำร้ายเพื่อนร่วมทีมในเกม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ดูจะบ้าบิ่นเกินมนุษย์ นั่นหมายความว่าคุณเข้าข่ายไปเรียบร้อยแล้ว อาการที่ว่านี่จะเกิดขึ้นหลังจากอาการแรก คุณอาจจะสนใจเกมมากจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต กำแพงอารมณ์ของคุณก็จะเริ่มถูกทำลายไปทีละเล็กละน้อย จนสุดท้ายคุณก็เริ่มทำพฤติกรรมที่ไม่เคยทำออกมา

gaming disorder

 

3.อารมณ์ของคุณไม่คงที่

อารมณ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเรื่องหนึ่งของมนุษย์ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่สิ้นสุด และมันมีความหลากหลายในตัวมันเอง แต่ถ้าหากคุณได้รับเพียงความโกรธเกรี้ยวในขณะเล่นเกม นั่นหมายความว่า…. คุณยังไม่ติดเกมหรอก อย่าเพิ่งด่าผม (ฮา) คุณแค่โกรธ แต่ถ้าคุณอดทนกับความโกรธนั้นไม่ได้เหมือนเคย แปลว่าคุณเริ่มออกอาการแล้ว ขีดจำกัดความโกรธของคนเราไม่เท่ากัน แต่พลเมืองที่ดีของโลกย่อมรู้วิธีระงับความโกรธนั้นก่อนที่จะไปลงกับชาวบ้าน แต่ถ้าหากช่วงนี้คุณเอาแต่ด่าทอเพื่อนร่วมทีม เอาแต่ทำลายข้าวของหลังจากพ่ายแพ้ทั้งที่คุณยังไม่เคยทำ รู้สึกอยากด่าว่าหรือทำร้ายคนที่บอกให้คุณหยุดเล่นเกมซักพัก นั่นหมายความว่าคุณอาจกำลังเข้าข่ายอาการติดเกมอยู่ก็เป็นได้

gaming disorder

 

4.คุณไม่สื่อสารกับคนอื่น

ก่อนอื่นขอให้แยกกันก่อนระหว่าง “สื่อสารกับคนอื่นไม่เป็น” กับ “ไม่สื่อสารกับคนอื่น” สำหรับเกมเมอร์ขี้อาย ผู้เขียนเข้าใจว่าการพูดคุยกับคนอื่นในสังคมอาจจะยาก แต่บอกเลยว่าคุณทำได้ เพราะฉะนั้นถ้าแค่มีอาการกลัวสังคม เขินอายขณะสื่อสาร นั่นไม่ใช่อาการติดเกม แต่ถ้าคุณสื่อสารกับคนอื่นได้อยู่แล้ว แต่เลือกที่จะไม่สื่อสาร คุณอาจจะเข้าข่ายโรคนี้ก็เป็นได้ ผลกระทบของการไม่สื่อสารกับผู้อื่นค่อนข้างร้ายแรงมาก อย่างแรกคือคุณจะสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างผู้อื่นไป และนั่นรวมถึงครอบครัวด้วย มันจะส่งผลให้คุณเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล และอื่น ๆ อีกมากมาย

gaming disorder

 

5.คุณจ่ายเงินอย่างมากไปกับการเล่นเกม

ไม่ได้หมายความว่าการจ่ายเงินมากเท่าไหร่หมายถึงคุณติดเกมมากเท่านั้น แต่ผู้เขียนหมายถึงคนที่จ่ายเงินให้กับเกมมากกว่าจำนวนเงินที่ตนเองสามารถหาได้ต่างหาก หลายคนที่ผู้เขียนรู้จักใช้ 70-90% ของรายได้ จ่ายไปให้สิ่งที่เรียกว่าเกม ซึ่งในกรณีนี้อาจจะไม่รุนแรงเท่าข้อแรก ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นหนึ่งในผลกระทบเหมือนกัน ในการใช้ชีวิต ค่าใช้จ่ายในงานอดิเรกของคนเราไม่ควรเกิน 30% แล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละคน ซึ่งจำนวนที่ยกมานี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตหากถูกใช้ไป แต่ถ้าคุณใช้เงินกว่า 70-90% อย่างที่ยกตัวอย่างมา ชีวิตคุณจะได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลแน่นอน ซึ่งถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ เราแนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์โดยด่วน ก่อนที่ชีวิตคุณจะล้มเหลวจนแก้ไขอะไรไม่ได้เลย

gaming disorder

สุดท้ายนี้คุณอาจจะต้องยอมรับในเรื่องที่คุณไม่อยากยอมรับ ว่าของแบบนี้มันมีอยู่จริง และมันสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงได้ด้วยตัวมันเอง สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลตัวเองให้ดี ทุกอย่างบนโลกมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่เรานี่แหละว่าจะเลือกใช้ด้านไหนของมัน

SHARE

Nattapit Arsirawatvanit

มาร์ค - Senior Content Writer

Back to top