Game Over หรือความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นในเกม ไม่ว่าจะเกมไหนก็มีให้เราได้เห็นกันทั้งนั้น และถึงแม้มันจะไม่ใช่การ Over จริง ๆ เพราะเราสามารถเริ่มต้นใหม่ที่ Checkpoint ได้ แต่บางเกมเองก็ใช้วิธีสุดสร้างสรรค์ ในการสร้างฉาก Game Over ขึ้นมา ให้มันดูมีอะไรมากกว่าแค่แจ้งผู้เล่นว่าคุณพ่ายแพ้ และนี่คือฉาก Game Over ที่สร้างสรรค์ที่คุ้มค่ากับการตายเพื่อที่จะได้เห็นมัน
1. ผู้บริหารฆ่าตัวตาย – Theme Park
แม้จะดาร์คไปซะหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นฉาก Game Over ที่สร้างสรรค์มาก เพราะมันขัดกับธีมเกมที่แสนสดใสซะเหลือเกิน Theme Park คือเกมบริหารจัดการสวนสนุกที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 1994 เราจะได้บริหารจัดการสวนสนุก อัปเกรดสิ่งของต่าง ๆ และทำเงินหล่อเลี้ยงธุรกิจเอาไว้ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าจดจำอย่างมาก คือฉาก Game Over แทนที่จะบอกว่าผู้เล่นแพ้ หรือล้มเหลวแบบเกมอื่น ๆ แต่เกมนี้จะเป็นฉากคัทซีน ที่ตัวเราในฐานะผู้บริหาร ตัดสินใจกระโดดตึกตาย โดยเป็นมุมมองผ่านรูปภาพของครอบครัว เรียกได้ว่าใครเจอฉากนี้เข้าไปครั้งแรก มีช็อคกันแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นฉากที่ควรจะได้เห็นสักครั้ง อีกมุมหนึ่งก็กระตุ้นให้เราเล่นใหม่อย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
2. การยั่วยุจากเหล่าศัตรู – Batman Arkham Series
ซีรีส์ Batman Arkham ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ออกแบบฉาก Game Over มาได้สร้างสรรค์ไม่แพ้เกมอื่น ๆ เลย เพราะทุก ๆ ครั้งที่เราพ่ายแพ้ศัตรู ไม่ว่าจะเป็นจากใคร หรือตัวอะไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเกมโอเวอร์เพราะอะไรก็ตาม แต่ศัตรูที่ทำให้คุณพ่ายแพ้ จะสร้างความหายนะให้กับชีวิตในเกมของคุณ เช่น ถ้าแพ้ Killer Croc มันก็จะจับคุณฉีกเป็นชิ้น ๆ ถ้าช่วย GCPD ใน Arkham Knight ไม่ได้ Oracle จะโดนมือปืนบุกโจมตี หรือถ้าคุณไขปริศนาช่วย Catwoman ไม่ได้ ปลอกคอของเธอก็๗ะระเบิด หรือบางภาคก็จะมีศัตรูตัวนั้น ๆ มาพูดยั่วยุคุณ เรียกได้ว่าเกมนี้ ทำเอาซะคุณไม่อยากเกมโอเวอร์เลย แต่ถ้าได้เห็น มันก็เป็นฉากเกมโอเวอร์ที่สร้างสรรค์มาก
3. ตอกย้ำความพ่ายแพ้คุณอย่างเต็มที่ – Fallout
สำหรับความพ่ายแพ้หรือเกมโอเวอร์ของคุณใน Fallout ต้องบอกว่ามันใช้วิธีขยี้จนหยดสุดท้าย เมื่อคุณเกมโอเวอร์ หรือแพ้ ระบบเกมจะส่งข้อความต่าง ๆ มาตอกย้ำคุณอย่างเต็มที่ เช่น ความพ่ายแพ้ของคุณ ทำให้สหพันธ์วุ่นวาย ความขี้ขลาดของคุณเป็นที่รู้จักไปทั่วกาแล็คซี่ ศพที่เน่าเปื่อยของคุณจะถูกเยาะเย้ยถากถาง ความอัปยศจะติดตามครอบครัวคุณไปอีกนานหลายสิบปี อ่านแล้วมันจี๊ดใจใช่ย่อยเลยทีเดียว
4. ตัวเอกกดำลังจะโดนเลื่อยหั่นร่าง – Ninja Gaiden Arcade
ใครที่เคยเล่นตู้เกม Arcade สมัยก่อนจะรู้ดีว่า ทุกครั้งที่เรา Game Over หากเราจะเล่นต่อ ก็ต้องหยอดเหรียญลงไปเพิ่ม เพื่อทำการ Continue ตัวเกม และฉากระหว่างนั้นก็จะคอยกระตุ้นให้คนเล่น อยากที่จะหยอดเหรียญลงไปเพิ่มเพื่อเล่นเกมต่อ เหมือนดั่งเช่น Ninja Gaiden Arcade เมื่อเรา Game Over เวลาจะเริ่มนับถอยหลัง และตัวละครเอกของเราจะโดนจับมัดไว้ และเลื่อยไฟฟ้าด้านบนจะค่อย ๆ ลดลงระดับลงมา หากเราไม่หยอดเหรียญเล่นต่อ เลื่อยก็จะฟันตัวละครของเราจนตายในที่สุด และกับเกมที่ขายเด็ก ๆ แบบนั้่น ใครีบ้างจะอยากเห็นตัวเอกตาย และมันถือว่าเป็นการออกแบบสุดสร้างสรรค์ที่จะช่วยดึงเงินในกระเป๋าผู้เล่นได้เป็นอย่างดีทีเดียว
5. ทิ้งชะตากรรมโลกแล้วเดินไปตกปลา – NieR Automata
นี่เป็นเกมที่มีฉากจบมากถึง 26 แบบ แต่สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เล่นมากที่สุดก็คือฉากจบแบบ L โดยขณะที่การเล่าเรื่องใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์ใน Chapter 10_02 แทนที่เราจะได้เผชิญหน้ากับบอสใหญ่ของเกมด้วยความระทึก แต่อยู่ดี ๆ 2B ตัวเอกของเกม ก็เดินออกจากค่ายพัก แล้วก็ ไปตกปลา.. ใช่ ตกปลา ในขณะที่ชะตากรรมโลกกำลังถูกตัดสิน แต่เธอก็ทิ้งทุกอย่างไปตกปลาทั้งอย่างนั้น อีกหลายสิบปีต่อมา เธอจึงถูกตามล่าโดยจักรกลและมือสังหารแห่ง YoRHa เป็ฯอีกฉากจบที่บางคนอาจจะถึงกับกุมขมับกันเลยทีเดียว ถึงแม้มันจะไม่ใช่ตอนจบที่ดีนัก
แถม YOU DIED – ทุก ๆ เกมที่เป็น Soul
สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมที่มีความท้าทายสูงมากอย่าง Soul Series มีใครบ้างที่ไม่เคยเห็นคำว่า YOU DIED ปรากฎขึ้นมากลางหน้าจอเกม แม้จะเป็นเพียงคำโปรยสั้น ๆ ว่าคุณตายนะ แต่มันก็มีผลและอิมแพคท์ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อความยากของเกมนี้ เข้าขั้นชวนให้ทุกคนปาจอยทิ้งอย่างมาก แต่จะบอกว่านี่คือหน้าจอที่สร้างสรรค์มากก็คงไม่ใช่ เพราะมันเป็นหน้าจอที่ทุกคนต้องเจอ ถ้าจะเล่นเกม Souls มากกว่า
