BY StolenHeart
1 Jan 20 7:25 pm

10 ปีผ่านไป กับโลกของกราฟฟิกในวิดีโอเกมที่ไม่หยุดนิ่ง

6 Views

ย้อนไปเมื่อสักสิบปีก่อน เหล่าเกมเมอร์อย่างเราที่กำลังสนุกอยู่กับเกมในเครื่อง PC หรือคอนโซลยุคก่อนคงคิดว่า “ภาพในเกมสมัยนั้นนี่มันสวยจริง ๆ มันจะล้ำหน้าไปได้มากกว่านี้หรือเปล่านะ?” และพอสิบปีต่อมา เราก็ได้เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทำให้ขีดจำกัดของกราฟฟิกสูงขึ้นไปอีก จนยุคนี้เราแทบแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนเกมอันไหนของจริง

และไม่ว่าจะด้วยการผลักดันในเรื่องของเงินทุนหรือเทคโนโลยี หากเราสังเกตดูกันอย่างใกล้ชิด เราจะพบว่ากราฟฟิกของเกมในปี 2010 กับ 2019 นั้นแตกต่างกันอย่างมากเหลือเกิน

การเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกราฟฟิกเกมแบบเห็นได้ชัดนั้น ต้องย้อนกลับไปในปี 2010 ในขณะที่ผู้พัฒนาเกมพยายามใส่ใจและเพิ่มรายละเอียดของตัวละครในเกมให้มากขึ้นจนกลายเป็นสิ่งที่น่าอดสูไป เพราะการแต่งแต้มรายละเอียดเหล่านี้มักจะทำให้ตัวละครดูมีโทนสีแบบเดียวกันมากเกินไป เช่นการเน้นสีน้ำตาลและเทาในโมเดลตัวละครจนดูเหมือนเปื้อนโคลน ในเกมสไตล์สงครามหรือโลกหลังหายนะอย่าง Gears of War หรือ Fallout นั้น เราก็มักจะเห็นตัวละครที่มีโทนสีในสไตล์เดียวกันนี้ออกมาจนชินตาไปหมด

จนกระทั่งเราได้เห็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Photogrammetry ที่เป็นการสแกนโมเดลและรูปลักษณ์ของบุคคลที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงให้มาอยู่ในวิดีโอเกม ซึ่งมันให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก เพราะตัวละครอย่างลุง Jack Baker หรือทั้ง Leon และ Claire ใน Resident Evil ฉบับใหม่ก็ออกมาดูเหมือนกับคนจริง ๆ และล่าสุดนี้ก็เป็น Call of Duty: Modern Warfare ที่เราได้เห็นผู้กอง Price หนวดงามที่ดูดีและเหมือนคนจริง ๆ ขึ้นไปอีก

Resident Evil 2แต่หากเราจะลงลึกไปอีกสักหน่อย สิ่งที่ทำให้กราฟฟิกของเกมในยุคนี้โดดเด่นขึ้นมาได้ก็คือเทคโนโลยีทางด้านแสงเงานั่นเอง ซึ่งเกมที่มีกราฟฟิกที่ไม่ได้ลังการมากอย่าง Darksider เองก็ได้รับผลประโยชน์ตรงส่วนนี้ไปด้วย หรือเกมที่มีภาพกราฟฟิกสไตล์อนิเมะอย่าง Guilty Gear หรือ Code Vein ที่แม่จะเป็นกราฟฟิก Cell Shade ที่ไม่ได้ละเอียดมากนัก แต่มันก็ช่วยเสริมงานภาพมีความใกล้เคียงกับการชมการ์ตูนอนิเมะของญี่ปุ่นมากขึ้นตามไปด้วยเหมือนกัน

หรือกระทั่งเกมแบบพกพาบนมือถือเองก็มีกราฟฟิกที่ดูดีมากกว่าในสมัยก่อนหลายเท่า ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าจากภาพกราฟฟิกการ์ตูนสองมิติบนเกมทั่วไปที่เล่นจนติดอย่าง Game Dev Story หรือ Bejeweled จะกลายร่างมาเป็นเกมสามมิติเต็มรูปแบบที่เล่นกันทั้งบ้านทั้งเมืองอย่าง RoV หรือ Call of Duty Mobile นั่นเป็นอีกโลกหนึ่งไปเลย 

และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงแค่สิบปี หรือหนึ่งทศวรรษ แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง จนบางคนถึงกับแยกไม่ออกเลยว่า กราฟฟิกในเกมกับโลกแห่งความเป็นจริงนั้นแทบจะถูกหลอมรวมกันจนแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว

หรือถ้าจะเอาให้ชัดก็ดูที่เกมภาคต่อกันได้ Red Dead Redemption ภาคแรกนั้นก็ถือเป็นเกมที่มีกราฟฟิกสวยงามตามยุคสมัยปี 2010 และในปี 2019 มันก็ยังคงเป็นเกมที่สวยงามตามยุคสมัยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยทั้งรายละเอียดของฉาก ตัวละคร และอื่น ๆ จัดเป็นเกมที่ผู้พัฒนาอย่าง Rockstar จัดเต็มในรายละเอียดยิ่งกว่าที่เคยทำมา และยิ่งเข้าใกล้กับคำว่า “สมจริง” ขึ้นไปอีก

ส่วนในด้านของความละเอียด เราก็เริ่มเห็นเครื่องคอนโซลและ PC พยายามผลักดันความละเอียดใหม่จาก Full HD 1080 มาเป็น 4K ที่สวยงามเต็มไปด้วยรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งด้วยประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ในเวลานี้และในคอนโซลในยุคหน้า เราน่าจะได้เห็นความคมชัดระดับ 4K 60 เฟรมกันจริง ๆ เสียที เหมือนกับที่ความละเอียด Full HD 60 เฟรมที่เครื่องคอนโซลในยุคนี้ทำมาก่อนแล้ว แม้ในเวลานี้เกมส่วนใหญ่จะทำได้ที่ 30 เฟรมเท่านั้นก็ตาม แต่เชื่อว่าอีกไม่นานนี้เราจะได้เห็นกันแน่นอน

แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงสิบปี แต่วิดีโอเกมก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายไม่ใช่เพียงแค่กราฟฟิก แม้จะไม่ได้เด่นชัดขึ้นมาแบบก้าวกระโดดมากเหมือนในยุคที่กราฟิกแบบ Pixel Art สองมิติถูกเปลี่ยนเป็นโพลิก้อนสามมิติ หรือรูปแบบการควบคุมของเกมต่าง ๆ ที่มีความละเอียดอ่อนมากขึ้น รวมไปถึงการมาของเทคโนโลยี VR และ Augment Reality ที่พาวงการเกมไปสู่โลกใหม่อีกด้วย

และหลังจากนี้ไปอีกสิบปี เราจะได้เห็นสิ่งใหม่ที่เป็นปรากฏการณ์ให้กับวงการเกมออกมาอีกมากมาย เหมือนอย่างที่ได้เราได้เห็นในทศวรรษนี้อย่างแน่นอนครับ

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top