เปิดมาให้สนุกกันถึงหนึ่งสัปดาห์แล้วสำหรับ Call of Duty: Warzone โหมด Battle Royale เล่นฟรีจากภาค Modern Warfare ซึ่งก็มีผู้เล่นเข้าไปสนุกกันอย่างมากมาย แต่ด้วยระบบการเล่นที่ต่างไปจากเกมอื่นทำให้หลายคนสับสนว่าจะต้องจัดการตัวเองอย่างไร วันนี้ GamingDose จะมาขอแนะนำ Perk น่าใช้ที่ช่วยทำให้ชีวิตของคุณในสมรภูมิรบสะดวกสบายยิ่งขึ้น

Perk คืออะไร? สำหรับผู้เล่น Call of Duty น่าจะคุ้นชินกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว มันคือความสามารถพิเศษที่ช่วยเสริมการเล่นในสไตล์ของแต่ละคนมากขึ้น เช่นการเก็บ Kill Streak ได้เร็วขึ้น วิ่งไวกว่าเดิม และอีกมากมาย แต่เราจะสามารถหยิบ Perk รวมกันทั้งหมดได้แค่ 3 แบบเท่านั้น ซึ่งแบ่งออกเป็นสามสี แต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติต่างกันออกไป ซึ่งในโหมด Warzone นี้ก็เช่นกัน แต่ Perk หลายตัวจะทำงานต่างจากโหมดการเล่นปกติด้วย

สิ่งสำคัญในการเลือก Perk นั้นขึ้นกับว่าคุณเป็นผู้เล่นสายไหน ถ้าสายโถม ชอบบุกยิงระยะประชิด Perk ที่ช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้นจะจำเป็นมากกว่า หรือสายสนับสนุน ก็อาจใช้ Spotter ช่วยดูว่าในอาคารมีกับระเบิดหรืออะไรแอบซ่อนอยู่ได้ สายซุ่มอาจจะมี High Alert คอยดูว่ามีใครดักยิงอยู่หรือไม่ได้ด้วย

การจัด Perk นั้นจะอยู่ในหน้า Loadout แยกออกมาจากการแต่งปืน แต่ก่อนที่เราจะมาดูว่า Perk ไหนควรใช้ เรามาดูคุณสมบัติของมันก่อน ซึ่ง Perk ทั้งหมดในแต่ละสีนั้นมีดังนี้

สีฟ้า

Double Time: เพิ่มระยะเวลาในการวิ่งเต็มสปีดอีกเท่าตัว รวมไปถึงลดเวลาในการก้มหรือหมอบลงอีก 30%

E.O.D.: รับความเสียหายจากระเบิดและไฟที่ไม่ได้มาจาก Killstreak ลง และเมื่อเก็บระเบิดปาใส่ศัตรู สลักจะเริ่มนับเวลาถอยหลังใหม่ทั้งหมด

Scavenger: เมื่อฆ่าศัตรูได้ ศัตรูจะดรอปกระเป๋ากระสุนให้เก็บกระสุนได้มากขึ้น แถมให้มีด Throwing Knives มาด้วย

Cold-Blooded: ไม่สามารถถูกตรวจจับจากระบบเล็งเป้าด้วย AI ได้ ซึ่งแปลว่ากล้องมองกลางคืนและจับความร้อนจะหาตัวเราได้ยากขึ้น แถมยังรอดพ้นสายตาของคนที่ติด Perk สีแดง High Alert ได้ด้วย

Kill Chain: เพิ่มโอกาสได้รับ Killstreak ในกล่อง Supply Box มากขึ้น

Quick Fix: หากฆ่าศัตรูได้ เลือดที่ลดอยู่จะเริ่มฟื้นคืนมาทันที

สีแดง

Restock: อุปกรณ์ติดตัวจะ Rechargeใหม่ ในเวลา 50 วินาที Throwing Knives จะ Recharge เพิ่มได้อีก 1 เล่ม และระเบิด Decoy Grenade กับ Stim จะชาร์จใหม่ได้เร็วกว่าเดิมสองเท่า

Hardline: ราคาของ Killstreak, Field Upgrade และ Armour Plate ใน Buy-on Station จะถูกลง 25%

Overkill: สามารถจัดปืนหลักใน Loadout ได้สองกระบอกพร้อมกัน

High Alert: เมื่อศัตรูอยู่ใกล้ จอภาพจะกระพริบเตือนเพื่อให้รู้ว่ามีอันตรายอยู่รอบตัว รวมไปถึงมองเห็นว่าสไนเปอร์ถูกส่องมาจากทิศไหนได้ชัดมากขึ้นด้วย

Ghost: ไม่สามารถถูกตรวจจับด้วย UAV, Radar Drone หรือ Heartbeat Sensor ได้ แต่จะยังขึ้นเป็นจุดในเรดาห์หากยิงปืนตามปกติ ต้องใช้ Advance UAV เท่านั้นจึงตรวจเจอได้

Pointman: สมาชิกในทีมจะได้รับเงินเพิ่มมากขั้นเมื่อทำภารกิจสำเร็จ

สีเหลือง

Tune Up: ชุบชีวิตเพื่อนได้เร็วขึ้น 25%

Amped: สลับอาวุธได้เร็วขึ้น รวมไปถึงใส่กระสุนของอาวุธประเภท Rocket Launcher ได้ไวขึ้น แต่ไม่มีผลกับอาวุธประเภทปืนพกกับมีด รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ จะใช้งานได้เร็วขึ้นด้วย

Shrapnel: ผู้เล่นจะเกิดมาพร้อมกับระเบิดหลักเพิ่มอีกหนึ่งลูก รวมไปถึงระเบิดจะทำให้เลือดของศัตรูฟื้นช้าลงอีก 3 วินาทีด้วย

Battle Hardened: ลดระยะเวลาของระเบิดแสง, Stun, EMP และระเบิดแก็สพิษลงครึ่งหนึ่ง และทนต่อผลของระเบิด Snapshot(เอฟเฟกต์ไม่มีผลต่อแก็สนอกวง Playzone ผู้เล่นจะได้รับความเสียหายตามปกติ)

Spotter: มองเห็นอุปกรณ์ของศัตรูที่ถูกติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านกำแพง เช่นระเบิดหรือ Field Upgrade แบบต่างๆ และสามารถเล็งปืนเพื่อบอกเพื่อนร่วมทีมได้ว่ามีระเบิดอยู่ตรงนั้น

Tracker: สามารถเห็นรอยเท้าของศัตรูที่เพิ่งเดินผ่านในบริเวณนั้นได้ชั่วขณะ ทำให้ตามรอยล่าได้ง่ายขึ้น

Perk แนะนำที่ควรใช้

Overkill: แทบจะเป็น Perk บังคับสำหรับโหมดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจะทำให้เราสามารถถือปืนหลักได้พร้อมกันสองกระบอก เพราะปืนอย่าง Assault Rifle, SMG หรือ Sniper Rifle ล้วนเป็นปืนสำคัญที่ต้องถือพร้อมกันอยู่แล้ว การใช้ Perk Overkill จะช่วยประหยัดเวลาหลังจากหยิบของใน Loadout Drop ลงอย่างมหาศาล

Ghost: เป็นอีก Perk ที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับสายเนียน เพราะคุณจะรอดจากการตรวจจับของ UAV ที่ปกติฝ่ายศัตรูจะเปิดแค่อันเดียวเท่านั้น(มีน้อยมากที่จะเปิดพร้อมกันสามคนจนกลายเป็น Advance UAV) โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่หลายคนจะค้นหาว่าแต่ละคนอยู่ตรงไหน เป็นโอกาสให้เราลอบโจมตีได้ง่ายขึ้น

High Alert: แม้จะตรวจจับผู้เล่นทีใช้ Clod-Blooded ได้ยากเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ติด Perk ฯมากับตัว High Alert จะทำให้เรารู้ได้ง่ายขึ้นว่าศัตรูแอบอยู่ตรงจุดไหน ยิ่งใช้คู่กับ Tracker จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

E.O.D.: ระเบิดมักเป็นปัญหาสำคัญของผู้เล่น Battle Royale และมันจะช่วยคุณได้มหาศาลในยามที่ไม่มี Trophy System ช่วยป้องกัน อย่างน้อยก็การันตีว่าโอกาสตายในดอกเดียวจากระเบิดนั้นจะลดลงมากแน่นอน

Cold-Blooded: อีกหนึ่ง Perk สำคัญที่เอาไว้ดัดหลังพวกชอบใช้ Thermal Scope ตรวจจับความร้อนได้ เพราะเมื่อศัตรูเล็งกล้องหาเราจะเห็นเพียงเงาจาง ๆ เท่านั้น แถมคนติด Perk High Alert จะจับเราได้ยากขึ้นด้วย เหมาะมากสำหรับผู้เล่นสายเนียนที่ไม่อยากเจอคนซุ่มยิงดัดหลัง

Tune Up: แม้ประโยชน์อาจจะไม่ได้ชัดมากนักเมื่อเทียบกับ Perk อื่น แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ที่อาจจะยิงไม่แม่นและไม่รู้ว่าจะทำประโยชน์อะไรให้เพื่อนร่วมทีม การติด Tune Up เอาไว้ช่วยดึงคนอื่นก็จะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์มากขึ้นได้เหมือนกัน

Tracker: ของดีที่สายล่าค่าหัวต้องใช้ บางครั้งในการยิงต่อสู้ก็มีบ้างที่เราจะปล่อยศัตรูที่ยังไม่ตายหนีไป Tracker จะช่วยให้เราตามรอยพวกมันได้ง่ายขึ้น