BY KKMTC
7 Sep 21 6:18 pm

สันติคือทางออก 8 เกมสามารถจบเนื้อเรื่องได้โดยไม่ต้องฆ่าใคร

13 Views

ในโลกวิดีโอเกม เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้กำลังแก้ไขปัญหาต่าง ๆ นั้นสร้างความจุใจให้กับใครหลายคน แต่แน่นอนว่าเกมบางเกม เปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุยทำความเข้าใจ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา หรือไม่ต้องลงมือไม้ลงมือจนถึงขั้นเอาชีวิต ก็สามารถดำเนินเล่นเนื้อเรื่องจนจบได้ และนี่คือ 8 เกมสามารถจบเนื้อเรื่องได้โดยไม่ต้องฆ่าใคร แล้วจะมีอะไรบ้างก็พบกับบทความนี้ได้เลย

เกมตระกูล Fallout

การเอาตัวรอดในโลกหลังสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน คนแข็งแกร่งเท่านั้นจะมีชีวิตรอดในโลกแสนโหดร้าย จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บางครั้ง ผู้เล่นต้องใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา

แต่เคสดังกล่าวใช้ไม่ได้สำหรับเพลเยอร์ เพราะในเกม Fallout ผู้เล่นสามารถเล่นเนื้อเรื่องจนจบได้ด้วยการใช้ทักษะ Speech และต่อรอง NPC ด้วยสกิล Barter ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถโน้มน้าว NPC เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายไปจนถึงขั้นต้องเกิดเหตุการณ์นองเลือด แต่แน่นอนว่าหากเจอพวก Raider ไร้มนุษยธรรมที่โจมตีใส่ผู้เล่นโดยไร้เหตุผล ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ Companion ที่ต้องปกป้องคุณ ด้วยการสังหารเหล่าโจรแทนน้ำมือของเพลเยอร์เอง

Undertale

Undertale

Undertale มีเส้นทางการดำเนินเนื้อเรื่องระหว่าง Pacifist Run และ Genocide Run โดย Pacifist Run เป็นการเล่นเกมโดยไม่สังหารมอนสเตอร์และ NPC (หรือสังหารให้น้อยที่สุด) ซึ่งการเล่นแนวทางดังกล่าวจะเป็นการปลดล็อกฉากจบ True End ที่มีเนื้อหาสดใส แฮปปี้ อบอุ่นหัวใจ แต่ Genocide Run จะเป็นการเล่นโดยสังหาร NPC กับมอนสเตอร์ทุกคนที่ขวางหน้า ซึ่งการเล่นแนวทาง Genocide จะเป็นปลดล็อกฉากจบที่เลวร้ายกับน่าสยดสยองสุด ๆ

Dishonored 1 และ 2

Dishonored

ในเกม Dishonred ทั้งภาคแรกและภาคสอง มีฟีเจอร์อย่างหนึ่งที่เรียกว่า Chaos ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นระบบ Karma หรือบาปบุญคุณโทษ ที่การดำเนินเนื้อเรื่องกับฉากจบจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับว่าเราสังหาร NPC ไปมากน้อยแค่ไหน

และแน่นอนว่าในเกมนี้ เพลเยอร์สามารถเล่นเกมแบบแนวทาง Pacifist ไม่ต้องสังหาร NPC แม้แต่คนเดียวก็สามารถจบเนื้อเรื่องได้ โดยอ้างอิงจากคนเล่น Dishonored หลายคน หากผู้เล่นไม่ฆ่า NPC ตัวเกมจะมีการรักษาบาลานซ์ความยากของเกมไว้ด้วยการ Spawn NPC ให้น้อยลง ช่วยเกมเมอร์หลุดพ้นสายตาจากข้าศึกง่ายขึ้น

เกมตระกูล Watch_Dogs

Watch_Dogs คือเกมแอ็กชัน Open-World ที่ไม่เหมือนเกมอื่น เพราะเพลเยอร์สามารถใช้ทักษะการแฮ็กล่อให้ NPC ไปทิศทางอื่น, ใช้วิธีช็อตไฟฟ้ามือถือ เพื่อให้ตัวละคร NPC มืดสลบลง และมีวิธีการแฮ็กอื่น ๆ อีกมากมายที่เปิดกว้างให้คุณสามารถ Stealth ไม่ต้องฆ่าใครในทุกภารกิจตั้งแต่ต้นจนจบเนื้อเรื่อง

ซึ่งแน่นอนว่าตัวเกมไม่บังคับว่าต้องเล่นแบบ Stealth เพียงอย่างเดียว ผู้เล่นยังสามารถบู๊แหลกโดยใช้อาวุธปืนกับ Melee กำจัด NPC ทุกคนที่ขวางหน้าสมกับเป็นเกมแอ็กชัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินเนื้อเรื่องแต่อย่างใด

Far Cry 4 และ Far Cry 5

อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี Far Cry เป็นเกมแอ็กชัน FPS บู๊แหลก (หรือจะ Stealth Kill ก็ได้) ที่มาพร้อมกับตัวร้ายน่าจดจำกว่าตัวละครเอก แต่ถึงแม้ Far Cry ไม่มีตัวเลือกการปราบศัตรูและบอสแบบ Non-Lethal แต่ผู้เล่นสามารถจบเกมได้โดยไม่ต้องฆ่าใคร ด้วยการปลดล็อกฉากจบลับซึ่งเป็นฉาก Ending แบบ Non-Canon

ในเกม Far Cry 4 สามารถปลดล็อกฉากจบลับได้จากการนั่งอยู่เฉย ๆ ในห้องรับประทานอาหารของ Pagan Min เป็นเวลา 15 นาที โดยหลังรอเสร็จแล้ว Pagan Min จะพาเรานำเถ้ากระดูกของ Ishwari Ghale มาวางไว้ที่หน้าโลงศพของ Lakshmana Min สำเร็จ แล้วตัดจบขึ้นหน้า Credit ทันที

ส่วน Far Cry 5 สามารถปลดล็อกฉากจบลับได้จากการไม่ยอมใส่กุญแจมือ Joseph Seed เป็นเวลา 15 นาที ซึ่งหลังจากนั้น นายอำเภอจะเปลี่ยนใจไม่จับกุม Seed เพราะเขามั่นใจว่าหากจับตัวไป พวกเราทุกคนจะไม่มีทางรอดกลับไปอย่างแน่นอน

เกมตระกูล Metal Gear Solid

ใน Metal Gear Solid ผู้เล่นสามารถปราบบอส และโจมตีข้าศึกได้ 2 วิธี คือหนึ่ง วิธีทำให้ศัตรูสลบชั่วคราว หรือค่าพลัง Stamina หมดที่เรียกว่า Non-Lethal ซึ่งสามารถทำได้จากการใช้อาวุธปืนยาสลบหรือใช้ท่าต่อสู้ CQC และวิธีที่สอง คือการสังหารศัตรูโดยใช้อาวุธมีดกับปืนทั่วไป โดยเกมนี้ เพลเยอร์สามารถดำเนินเล่นเนื้อเรื่องจนจบได้ด้วยวิธีปราบศัตรูแบบ Non-Lethal เท่านั้น

แม้เกมตระกูล Metal Gear Solid ไม่มีการลงโทษเพลเยอร์จากการสังหารศัตรูฝ่ายตรงข้าม แต่หากต้องการให้ผลลัพธ์ Rank หลังเล่นเนื้อเรื่องจบอยู่ในเกณฑ์ระดับที่ดีมาก ผู้เล่นจำเป็นต้องปราบศัตรูกับบอสแบบ Non-Lethal และโดนข้าศึกพบตัวระหว่างการลอบเร้นให้ได้น้อยที่สุด

Deus Ex: Mankind Divided

Deus Ex: Mankind Divided

Deus Ex: Mankind Divided

Deus Ex: Mankind Divided เป็นอีกหนึ่งเกมแนวแอ็กชันลอบเร้น ที่เพลเยอร์เล่นจนจบเกมได้โดยไม่ต้องสังหารใคร โดยสามารถทำได้จากการใช้ทักษะ Speech เพื่อโน้มน้าวข้าศึก รวมถึงใช้อาวุธ อุปกรณ์ หรือพลังพิเศษในการปราบศัตรูแบบ Non-Lethal

ถ้าหากเกมเมอร์สามารถเล่นเนื้อเรื่อง Deus Ex: Mankind Divided จนจบโดยไม่ได้สังหาร NPC แม้แต่คนเดียว ตัวเกมจะปลดล็อก Achievement “Pacifist” ซึ่งเป็นหนึ่งในถ้วยรางวัลที่ปลดล็อกยากที่สุดของเกม

Postal 2

Postal 2 เป็นหนึ่งในเกม FPS ที่มีเนื้อหารุนแรงยิ่งกว่าตระกูล GTA หลายเท่า โดยเกมนี้ ผู้เล่นสามารถไล่สังหาร NPC ทุกคน ด้วยอาวุธปืนกับ Melee มากมาย ตั้งแต่ปืนไรเฟิลจู่โจม มีดสับเนื้อ พลั่วขุดดิน และอาวุธเพี้ยน ๆ มากมายที่ไม่สามารถสรรหาคำพูดมาอธิบายได้

เนื่องจาก Postal 2 มีการนำเสนอเนื้อหาที่รุนแรงอย่างมาก หลายคนจึงมองข้ามไปว่าเกมนี้ก็สามารถเล่นจนจบเนื้อเรื่องได้โดยไม่ต้องฆ่าใครให้ตาย หากผู้เล่นจบเกมได้โดยไม่ได้สังหารใครแม้แต่คนเดียว เพลเยอร์จะได้รับฉายาว่า “Thank you for playing, JESUS!”

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top