BY Aisoon Srikum
9 Mar 20 4:42 pm

สรุปเนื้อเรื่องโดยละเอียดของ The Division 2 : Warlords of New York

51 Views

อัปเดตให้เล่นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ The Division 2 : Warlords of New York ที่คราวนี้ตัวเกมส่งเรากลับมายังนิวยอร์กซิตี้อีกครั้ง และภารกิจในคราวนี้คือการตามล่าแอรอน คีนเนอร์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยดิวิชั่นที่ผันตัวกลายไปเป็นผู้ก่อการร้าย และได้ทำลาย Base Operation ในนิวยอร์กซิตี้ไปเรียบร้อยแล้ว แถมคราวนี้แอรอนยังมาพร้อมกับสมุนทั้ง 4 ที่มีทักษะและความสามารถที่แตกต่างกันไปอีกด้วยและเจ้า 4 คนนี้ก็ไปผูกมิตรกับเหล่าศัตรูของเราได้ในตัวเกมภาคแรกอีกต่างหาก และเรื่องราวทั้งหมดของ Warlords of New York นี้จะเป็นอย่างไร เราสรุปมาให้ชมกันแล้วในวันนี้

**หมายเหตุ : เนื้อเรื่องที่สรุปมานี้ ได้มาจากสคริปท์ของเกมระหว่างเล่นเท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เป็น Side Story ในเทปเสียงของเกมอีกเป็นจำนวนมาก แต่เราสรุปมาให้เป็นเนื้อเรื่องหลักเพียว ๆ เท่านั้น**

ความเดิมของเหตุการณ์ก่อนหน้า

เนื่องจากจุดเริ่มต้นในตัวเกมภาค 2 ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยดิวิชั่นทั้งหลาย ทั้งที่ประจำอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้ และวอชิงตันดี.ซี ถูกเรียกตัวกลับไปยังวอชิงตันทั้งหมด ทำให้นิวยอร์กซิตี้ตกอยู่ในสภาวะบ้านป่าเมืองเถื่อนจากการรุกรานของเหล่า Factions ทั้งหลาย รวมไปถึงแอรอน คีนเนอร์และลูกน้องทั้ง 4 ทำให้ประชาชนหมดศรัทธาในตัวของเหล่าดิวิชั่น แม้ว่าเฟย์ เลา หนึ่งในเจ้าหน้าที่ดิวิชั่นจะคอยรักษาการอยู่ที่นี่แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

ในขณะเดียวกันพอล โรดส์ หนึ่งในตัวละครหลักจากภาคแรกก็ได้รวบรวมประชาชนผู้รอดชีวิตออกมาตั้งฐานทัพใหม่ในชื่อ Haven และถึงแม้เราจะกลับมาเยือนนิวยอร์กซิตี้อีกครั้ง แต่พอลก็ไม่ได้ดีใจนัก เพราะหมดศรัทธากับหน่วยงานดิวิชั่นไปแล้ว เขาได้ตั้งกองกำลังกลุ่มใหม่ขึ้นมาในชื่อ Peacekeeper เพื่อปกป้องเหล่าประชาชนจากกลุ่มของแอรอน คีนเนอร์

กลับสู่นิวยอร์กซิตี้

เมื่อเริ่มต้นเกมมา ผู้เล่นจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อกลับไปที่นิวยอร์กซิตี้ ระหว่างทางเจ้าหน้าที่เคลโซ่เล่าให้ฟังว่าดาวเทียม ISAC ได้ตรวจพบสารชีวภาพบางอย่างที่เป็นอันตรายอย่างมาก นิวยอร์กซิตี้ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ทั่วชายฝั่งตะวันออก จึงเป็นหน้าที่ของเราและเจ้าหน้าที่เคลโซ่ที่ต้องกลับมาที่นี่ และคนที่เราต้องมาติดต่อด้วยก็คือเฟย์ เลา เจ้าหน้าที่ประจำนิวยอร์กซิตี้ และเป็นผู้นำปฏิบัติการเด็ดหัวแอรอน คีนเนอร์

แต่เมื่อมาถึงเราก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เฟย์ เลา ขาดการติดต่อจากเรา และเราต้องนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอด แต่เครื่องยังไม่ทันถึงพื้นเราก็โดนกองกำลังปริศนาชิงโจมตี เมื่อเราลงถึงพื้นดินได้ เฟย์ เลา ก็ติดต่อมาว่าต้องการกำลังเสริมอย่างเร่งด่วนที่ซิตี้ฮอลล์ เราและเจ้าหน้าที่เคลโซ่ฝ่าไปถึง ก็พบว่ากองกำลังที่ชื่อ Rikers กำลังจับคนบางส่วนไว้เป็นตัวประกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดิวิชั่นยอมจำนน และโชคดีที่เรามาถึงทันเวลา

เราฝ่าเข้าไปในซิตี้ฮอลล์และช่วยคนที่บาดเจ็บไว้ได้ เมื่อลงไปยังชั้นล่าง เคลโซ่จะลำเลียงคนเจ็บออกไป และให้เราจัดการศัตรูที่เหลือทั้งหมดแทน จากนั้นเฟย์ เลา จะบอกว่ามีระบบป้องกันภัยอยู่ที่ห้องใต้ดิน ให้เราไปตรวจดูทีเพื่อหาว่าใครที่เป็นผู้นำการบุกโจมตีครั้งนี้ เมื่อเราลงมาถึงและตรวจดูระบบรักษาความปลอดภัยจึงได้เห็นโฉมหน้าของผู้บุกโจมตีทั้ง 5 คน นั่นคือแอรอน คีนเนอร์ และลูกน้องทั้ง 4 ของเขา ประกอบไปด้วยวิเวียน คอนลีย์, ฮาเวียร์ คาจิก้า, เจมส์ ดราคอฟ, ธีโอ พาร์เนล

เฟย์ เลา จึงเล่าให้ฟังว่าหลังเกิดเหตุการณ์บนเกาะคอนีย์ (Episode 3) พวกเรารู้แล้วว่าคีนเนอร์กำลังปฏิบัติการด้วยไวรัสและอาวุธลึกลับบางชนิด แต่ไม่คิดว่าพวกคีนเนอร์จะลงมือเร็วขนาดนี้ จากนั้น เฟย์ เลาจึงส่งพิกัดของที่หลบภัย Haven มาให้ ซึ่งอยู่ที่เมืองแมนฮัตตันตอนล่าง  พร้อมบอกให้เราและเคลโซ่ตามไปเจอกันที่นั่น

เมื่อเรามาถึง Haven ก็มีปากเสียงกับเหล่าประชาชนนิดหน่อย เพราะอย่างที่บอกว่าพวกเขาหมดศรัทธากับเจ้าหน้าที่ดิวิชั่นไปแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ได้เข้าไป เพราะพอล โรดส์ต้องการคุยกับพวกเรา ระหว่างนี้ เฟย์ เลา จะเล่าให้ฟังว่า Haven เป็นที่หลบภัยในเมืองแมนฮัตตันตอนล่าง ได้รับการคุ้มกันเป็นอย่างดี มีน้ำ อาหาร รองรับ เพื่อช่วยเหล่าประชาชนผู้รอดชีวิต และตอนนี้เราต้องพึ่งพาคนเหล่านี้ให้ช่วยตามล่าคีนเนอร์

และเมื่อเรามาถึง เฟย์ เลา กับพอล โรดส์ กำลังมีปากเสียงกันพอดี เพราะพอลไม่พอใจที่เฟย์ เลา มาใช้ที่หลบภัยของเขาในการรวมตัวของเจ้าหน้าที่ดิวิชั่น แถมยังทำให้พวกเขาต้องเสี่ยงอันตรายจากพวกคีนเนอร์ โดยมีรอย เบนิเทซ คอยเป็นตัวกลางเกลี้ยกล่อม แต่โรดส์ก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อเพราะคิดว่าพวกเขาและประชาชนปลอดภัยดีแล้ว ก่อนที่เฟย์ เลาจะตอกกลับเขาด้วยประโยคเจ็บ ๆ ว่า

ใช่ สถานการณ์ตอนนี้มันดีแล้วก็จริง แต่รู้สึกปลอดภัย ไม่ได้แปลว่ามันปลอดภัยจริง ๆ นะ

เบนิเทซเองก็เห็นด้วย แต่เขาก็ยังเคารพการตัดสินใจของโรดส์ ทำให้โรดส์ต้องตัดบทอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะให้พวกเรารีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะให้หมด และจากนี้ไปเราจะรับรู้ข้อมูลของ 4 ขุนพลของคีนเนอร์ ซึ่งแต่ละคนก็จะยึดพื้นที่แต่ละส่วนของแมนฮัตตันเอาไว้ โดยวิเวียน คอนลีย์ และฮาเวียร์ คาจิก้า ร่วมมือกับพวกกลุ่มคลีนเนอร์ (อย่าสับสนกับแอรอน คีนเนอร์นะ) ส่วนดราคอฟและพาร์เนลนั้น ร่วมมือกับกลุ่มไรเกอร์ที่เป็นเหล่าอดีตนักโทษที่หลงใหลในการสร้างความโกลาหลและปฏิบัติการล่าเด็ดหัวแอรอน คีนเนอร์และพรรคพวกก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนี้

**ในเกมเราจะเลือกไปล่าหัวใครก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียงตามสรุปนี้**

ปฏิบัติการเด็ดหัวฮาเวียร์ คาจิก้า

เริ่มกันที่คนแรก ฮาเวียร์ คาจิก้า อดีตมือสังหารของหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐอเมริกา เขาซ่อนตัวอยู่ในที่ไหนสักแห่งของแบตเตอรี่ พาร์ก ซึ่งบางส่วนของเมืองนี้ถูกครอบคลุมไปด้วยบึงน้ำ แถมมีภูมิประเทศทุรกันดารมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอำพรางตัวของมือสังหารอย่างคาจิก้า

เมื่อเราเข้าสู่พื้นที่แบตเตอรี่พาร์ก เฟย์ เลา จะบอกว่ามีร่องรอยของคาจิก้าปรากฎตัวอยู่ ให้เรามุ่งไปที่โบสถ์ทรินิตี้ที่เป็นศูนย์รวมผู้รอดชีวิตและเป็นที่หลบภัยที่คอยสอดแนมพื้นที่ เราอาจจะได้ข้อมูลบางอย่างจากที่นั่น ผู้นำของโบสถ์ทรินิตี้ก็คือแอนา มาร์นิเนซ ซึ่งเธอบอกว่าทีมสอดแนมของเธอตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้แถวอุโมงค์ฮิวจ์แครี่ และทีมสอดแนมยังไม่กลับมาหลังจากมุ่งหน้าไปที่นั่น เจ้าหน้าที่เคลโซ่เลยแนะนำว่าให้เราไปตรวจสอบซะหน่อย เผื่อไดข้อมูลอะไรบางอย่างจากทีมสอดแนมนั้น ซึ่งทางเบนิเทซเองก็แทรกเข้ามาว่า ก่อนหน้านี้หน่วย JTF ที่ไปลาดตระเวนแถวนั้นก็หายตัวไปเหมือนกัน

เมื่อเราไปถึงและกำจัดศัตรูที่ขวางทางหมดแล้ว เบาะแสจาก ECHO ก็เผยให้เห็นว่าหน่วย JTF และประชาชนบางส่วนถูกพวกคลีนเนอร์เผาสดตายอย่างทรมาน แต่จอห์น บรอนสัน ที่เป็นหัวหน้าทีมลาดตระเวนถูกจับตัวไปหาคาจิก้า และจากเบาะแสเสียง ทำให้เรารู้ว่าคาจิก้าต้องการ “ชื่อ” ของใครบางคนจากคีนเนอร์ ซึ่งทำให้เขาต้องทำงานให้คีนเนอร์ และถึงเวลาที่เราจะต้องจัดการกับฮาเวียร์ คาจิก้าเป็นรายแรก

เราจะมุ่งหน้าไปที่ Pathway Park เพื่อเด็ดหัวมัน ซึ่งเบนิเทซได้ย้ำให้เราสืบหาข้อมูลของจอห์น บรอนสันด้วย แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว จอห์น บรอนสันถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเรา โดยเรามาถึงช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ยิ่งเป็นตัวจุดไฟแค้นให้เราไล่ล่าคาจิก้ามากยิ่งขึ้น หลังจากเราฝ่าพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกองกำลังของคาจิก้า เราก็ตามสังหารและส่งมันไปลงนรกได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่เคลโซ่ได้ขอให้เราหาข้อมูลจากนาฬิกาข้อมือของมัน

แต่สุดท้ายก็ได้ข้อมูลมาไม่ครบ เพราะคาจิก้าเลือกที่ไม่ใส่ข้อมูลเก็บข้อมูลไว้กับตัวทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามเราก็ปลิดชีพมันลงจนได้ ประชาชนจะได้สบายใจมากขึ้น และข้อมูลที่ได้มาก็เป็นประโยชน์อยู่บ้างเช่นกัน และเราก็ส่งไม้ต่อให้เฟย์ เลา และเคลโซ่เดินทางมาเก็บข้อมูลต่อไป เป็นอันเสร็จสิ้นการตามเชือดฮาเวียร์ คาจิก้า ส่วน “ชื่อ” ปริศนาที่คาจิก้าต้องการจากคีนเนอร์นั้น เราอาจต้องไปไล่เก็บไฟล์เสียงในเกมให้ละเอียดกันอีกที

ล่าสังหารเจมส์ ดราคอฟ

คนต่อมาที่เราจะตามไปล่ามันคือเจมส์ ดราคอฟ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เชี่ยวชาญอาวุธหนักและการป้องกัน เพื่อความยุติธรรมสุดขั้ว วีรกรรมของเขาถือเป็นตำนานในหมู่ตำรวจด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาก็เดินหน้าสู่ด้านมืด และปกครองเขตการเงินของแมนฮัตตันเอาไว้

เราจะบุกมายังเขตย่านการเงินเพื่อทำลายรังของดราคอฟ ภารกิจแรกของเราคือเข้าทำลายคลังสินค้า เพื่อตัดกำลังของดราคอฟ และจะส่งผลกระทบไปถึงคีนเนอร์ด้วย เมื่อเราเริ่มต้นบุกเข้าไปที่รังของดราคอฟ ศัตรูของกองกำลังนี้จะเต็มไปด้วยพวกเกราะหนา และพวกโล่ ทำให้สู้ยากมาก เมื่อฝ่าเข้ามาได้ถึงระดับนึงเราจะค้นพบไฟล์ ECHO เราจะพบว่าดราคอฟเองก็ไม่พอใจนักที่ต้องมาทำงานให้คีนเนอร์ และแผนการของดราคอฟคือการผสมอาวุธชีวภาพแบบผงละอองที่ท่าเรือหมายเลข 26 และคีนเนอร์ต้องการให้ใส่สารบางอย่างเพิ่มลงไป เราถึงต้องรีบไปขัดขวางการผสมอาวุธชีวภาพนี้โดยด่วน ก่อนมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ระหว่างทางบุกตะลุยเราได้ฆ่าดัชเชสที่เป็นเหมือนมือดีของดราคอฟไปด้วย ดราคอฟเลยสั่งเหล่ากองกำลังให้จับตายเราสถานเดียว แต่แน่นอน พระเอกเกมอย่างเรามีหรือจะตาย เราไล่ล่าบุกทะลวงเข้าไปเรื่อย ๆ ทำลายรังของดราคอฟจนเกลี้ยง และบุกมาถึงอาคารแล้ว เราก็จะได้เผชิญหน้ากับดราคอฟที่มาพร้อมสมุนโล่อีก 2 ตัว ยิงกันเมื่อยนิ้วกว่าจะตาย และเมื่อเราสังหารดราคอฟลงได้ เรื่องก็ยังไม่จบลง เพราะเราต้องออกตามหาที่ที่ดราคอฟขนวัตถุดิบอาวุธชีวภาพไปซุกซ่อนไว้ และนั่นก็คือท่าเรือหมายเลข 26

และเพราะฝั่งเรามีกองกำลังไม่พอ จึงเป็นหน้าที่เราที่ต้องบุกเดี่ยวถล่มท่าเรือหมายเลข 26 อีกครั้ง เมื่อเรามาถึง แล้วจัดการฝ่าดงศัตรูนับสิบนับร้อยจนหมด เราก็เปิดวาล์วเชื้อเพลิง จากนั้นระเบิดวัตถุดิบของคีนเนอร์ทิ้งไม่เหลือฝุ่น และภารกิจส่งเจมส์ ดราคอฟไปลงนรกก็เป็นอันเสร็จสิ้นไปอีกหนึ่ง

ปลิดชีวิตธีโอ พาร์เนล

ธีโอ พาร์เนล เด็กหนุ่มสายไอทีประจำกลุ่มของคีนเนอร์ เขาเป็นวิศวกรอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน และยังเป็นแฮคเกอร์ผู้เชี่ยวชาญอีกต่างหาก ความพลิ้วไหวของเขาทำให้เขารอดการตรวจจับจากทีมสอดแนมหน่วยดิวิชั่นมาได้ตลอด และนอกจากสกิลด้านการแฮคและโดรนของเขาแล้ว เขาคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการหลอกล่อและการตบตา

ภารกิจแรกในการล่าพาร์เนลของเราคือการมาตรวจสอบซากโดรนที่กองกำลังของเรายิงร่วงลงมาได้ เพื่อสืบเบาะแสตามจับตัวพาร์เนล เมื่อมาถึงจุดที่โดรนตกอยู่ เราต้องหาทางขึ้นไปบนดาดฟ้าตึก เมื่อส่งข้อมูลกลับไปแล้ว เฟย์ เลา ได้บอกเราว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมที่จะนำไปสู่ตัวพาร์เนล และเจ้าหน้าที่เคลโซ่ก็จะให้เราไปติดต่อผู้นำกองกำลังต่อต้านในย่านนั้นนั่นคือคาเล็บ กอร์ดอน

เราจะสืบเบาะแสจนพบว่าโดรนของพาร์เนลถูกควบคุมจากในเรือนจำร้าง “เดอะ ทูมส์” ที่อยู่ในเขตซิวิคเซ็นเตอร์ คาดว่าพาร์เนลจะต้องอยู่ที่นั่น เราจึงต้องบุกไปยังเรือนจำร้างแห่งนั้น เมื่อเราบุกเข้ามาถึง พาร์เนลก็ติดต่อเรามาพร้อมบอกว่า

ให้ตายเถอะ ขอบคุณพระเจ้าที่คุณมา ฟังนะ ผมรู้ว่าคุณอาจไม่เชื่อผม แต่ผมอยู่ข้างคุณ ผมเป็นหนอนบ่อนไส้ที่เข้ามาทำลายพวกคีนเนอร์จากภายใน เข้ามาเป็นเดือนแล้ว ผมแฮคเข้าเครือข่ายของมัน ตอนนี้รีบมาเจอผมที่โรงอาหาร

ทันทีที่ได้ยินแบบนี้ เจ้าหน้าที่เคลโซ่ก็ออกโรงเตือนว่าเรื่องนี้มันน่าสงสัยแปลก ๆ พร้อมกับเตือนให้เราระวังตัว เมื่อเราไปถึงโรงอาหาร ระบบ ISAC ก็ตรวจพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในนั้น และระบบก็แจ้งเตือนว่านั่นคือธีโอ พาร์เนล แต่แน่นอนว่ามันเป็นตัวปลอม เราโดนกองกำลังไรเกอร์บุกเข้าโจมตีทันที แต่ถึงกระนั้นพาร์เนลก็ยังปั่นหัวเราต่อว่า เราไม่ควรเชื่อระบบ ISAC มากนัก มันไม่ยากหรอกที่จะหลอกระบบคอมพิวเตอร์

สาเหตุที่ ISAC ตรวจพบว่าศพนั้นคือพาร์เนล เพราะพาร์เนลแฮคเข้ามายังฐานข้อมูลของ SHD และเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบหน้า เฟย์ เลา จึงบอกให้เราไม่ควรเชื่ออะไรที่พาร์เนลพูดทั้งสิ้น มันแค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นเราต้องฝ่าเข้าไปในเรือนจำเรื่อย ๆ และต้องต่อสู้กับกองกำลังไรเกอร์และโดรนรบ เราจะพบว่าพาร์เนลได้สร้างภาพโฮโลแกรมขึ้นมาหลอกล่อเรา และปั่นเราเพิ่มว่าเขาขุดลึกลงไปถึงฐานข้อมูลลับของหน่วยดิวิชั่น และค้นพบหลักฐานทุจริตมากมาย แน่นอนว่ารอบนี้เราไม่หลงกลแล้ว

เราบุกฝ่าดงศัตรูขึ้นไปยังฐานเซิร์ฟเวอร์ด้านบนและดึงไฟล์ข้อมูลออกมาได้ แต่ก็สูญเปล่าเพราะเป็นข้อมูลปลอมที่พาร์เนลใส่เอาไว้ ภารกิจไล่ล่ายังคงดำเนินต่อไป ระหว่างไล่ล่า เราดักฟังวิทยุของพาร์เนลที่กำลังติดต่อกับจัดจ์  ท่าทางเขาร้อนรนและหวาดกลัวมากที่โดนเราไล่ล่า แต่ก็ยังไม่วายวิทยุมาก่อกวนหาว่าเราเป็นพวกบ้ากำลัง เป็นพวกมือเปื้อนเลือดในขณะที่เขาเป็นผู้เปิดโปงความจริง เฟย์ เลา ยังคงเตือนสติเราเรื่อย ๆ ว่าไอ้หมอนี่มันพูดจาไปเรื่อยเพื่อเอาตัวให้รอด เราอย่าเสียสมาธิ และจัดการเชือดมันให้ได้ฃ

ในที่สุดเราก็ต้อนพาร์เนลจนไม่มีทางหนีอีกแล้ว พาร์เนลติดต่อไปหาคีนเนอร์เพื่อขอความช่วยเหลือในการหลบหนี แต่คีนเนอร์กลับปฏิเสธพร้อมบอกว่า

โทษที ธีโอ ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันไม่มาคอยตามเช็ดก้นให้นายหรอก

พาร์เนลสิ้นหนทางหลบหนีและเตรียมสู้ตายกับเรา ด้วยการใช้กลยุทธ์ภาพโฮโลแกรมตามที่เขาถนัด แน่นอนว่าสุดท้ายเราก็จัดการสังหารเขาลงได้สำเร็จ แต่ภารกิจยังไม่จบเพราะพาร์เนลแบคอัพข้อมูลสำคัญที่เราอาจจะสาวไปถึงตัวคีนเนอร์เอาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ขอ งกองบัญชาการตำรวจ

เมื่อเรามาถึงกองบัญชาการตำรวจ สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดการแหล่งจ่ายไฟคืนเพื่อแกะรอยเซิร์ฟเวอร์ที่พาร์เนลนำข้อมูลไปเก็บไว้ เราต้องฝ่ากองกำลังศัตรูอีกรอบเพื่อไปยังตู้จ่ายไฟและแหล่งเก็บพลังงาน เราต้องลุยทั้งศัตรูและจัดการแหล่งจ่ายไฟ รวมไปถึงเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับเซิร์ฟเวอร์โดยมีพอล โรดส์คอยสั่งการอยู่เป็นะระยะ และเมื่อฝ่ามาถึงดาดฟ้า เราต้องทำการเปิดตัวรับสัญญาณดาวเทียม ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเหล่าศัตรูบุกออกมาอีกมากมาย และเราต้องคอยคุ้มกันดาวเทียมจนกว่าโรดส์จะแกะข้อมูลสำเร็จ

เมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็พบว่าข้อมูลนี้ก็ยังติดการเข้ารหัสอยู่ และวิธีการเข้าถึงข้อมูลนี้ก็คือนำเอานาฬิกาข้อมือของพาร์เนลที่เราเก็บมาได้กลับไปยังศูนย์บัญชาการของเรา เมื่อจัดการเรียบร้อย ก็ได้รับการยืนยันว่า แอรอน คีนเนอร์ยังคงแฝงตัวอยู่ในนิวยอร์ก เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจปลิดชีพธีโอ พาร์เนลไปอีกราย

ขุนพลคนสุดท้าย วิเวียน คอนลีย์

ขุนพลสาวเพียงหนึ่งเดียวในกองกำลังของคีนเนอร์ เธอเป็ฯอดีตเอเยนต์หน่วยข่าวกรองต่อต้านผู้ก่อการร้ายและเป็นวิศวกรเคมี เธอหนีไปกบดานและซ่องสุมกองกำลังอยู่ที่เขตสะพานคู่ ซึ่งเป็นโซนที่พายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มไปเมื่อเดือนก่อน จึงเต็มไปด้วญซากปรักหักพังและห่างไกลความเจริญ

อย่างแรกที่เราต้องทำคือไปยังที่หลบภัยเพื่อสืบหาข้อมูลจากหน่วยสอดแนมของเรา ทำให้เรารู้ว่าคอนลีย์คอยสั่งการกองทัพของเธออยู่ที่ซากเรือบรรทุกน้ำมันเก่า ที่อยู่ตรงสะพานเชื่อมแมนฮัตตัน พวกคลีนเนอร์ได้กลั่นน้ำมันเอามาใช้เป็นเชื้อเพลิงที่นั่น โดยมีคอนลีย์คอยดูแลอยู่ เราได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าหากจะบุกไปยังสถานที่นั้นให้ไปยังประตูตะวันตกที่การป้องกันหละหลวมที่สุด

เมื่อเราบุกมาถึงซากเรือบรรทุกน้ำมันเก่า ปฏิบัติการปลิดชีพวิเวียน คอนลีย์ก็เริ่มต้นขึ้น เราบุกฝ่าดงกระสุนของพวกศัตรูเข้าไปตามเดิม เจ้าหน้าที่เคลโซ่บอกเราว่าพวกคลีนเนอร์ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังประตูตะวันตก ให้ถือโอกาสนี้บุกเข้าไป และเราจะได้รู้ว่าพวกกองกำลังพีซคีปเปอร์ของพอล โรดส์จำนวนมาก ตายไปเพราะน้ำมือของคอนลีย์ ให้เราจัดการสะสางความแค้นนี้แทนเขาด้วย

คอนลีย์ที่รู้ตัวแล้วว่าเราบุกเข้ามาจึงรีบสั่งกองกำลังของเธอให้มาสกัดเรา เพราะทรัพยากรน้ำมันมีค่าต่อเธอสูงมาก แต่แน่นอนว่าสกิลพระเอกเกมอย่างเรามีหรือจะตาย แม้คอนลีย์จะส่งกองกำลังมาสกัดเราแค่ไหน แต่เราก็ฆ่ายับ แล้วบุกทะลวงเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงชายฝั่งซากเรือ ที่มีลูกน้องคอนลีย์กำลังจัดการระบายความร้อนของท่อลำเลียงแก๊สกันอยู่ เราต้องจัดการทำลายตัวระบายความร้อนทิ้งซะ

คอนลีย์เริ่มหัวเสีย เธอสั่งกองกำลังให้ปกป้องฐานที่มั่นรวมถึงทรัพยากรน้ำมันด้วยชีวิต ใช่ และพวกมันต้องใช้ชีวิตมาเข้าแลกกับเรา ระหว่างทางเราจะเจอกับแอชฟอร์ด ที่เป็นเหมือนมินิบอส และเมื่อเราจัดการมันลงได้ คอนลีย์ก็เริ่มใกล้หมดหนทางหนีแล้ว ในระหว่างทางไล่ล่าเราจะพบข้อมูลจากระบบ ECHO ว่าคอนลีย์ติดต่อกับ กาย เวสเทอร์เบิร์กที่เป็นวิศวกรเทคนิคชั้นเซียน เพื่อหาวิธีรีไซเคิลน้ำมัน เวสเทอร์เบิร์กบอกว่าเขารู้ ทำให้คอนลีย์สั่งฆ่าลาร์ อัลบอร์กที่เป็นลูกมือของเวสเทอร์เบิร์กทิ้งอย่างโหดเหี้ยม

พวกดิวิชั่น ทำงานกันเหมือนตอนเกิดเหตุการณ์ Green Poison ทำงานแบบไม่มีความยืดหยุ่น ไม่สนผลกระทบใด ๆ มันช่างน่าสมเพชจริง ๆ แต่เรา เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไฟ และเราจะใช้มันทำลายพวกดิวิชั่นทิ้ง เหมือนที่เราทำลายไวรัส และสานต่องานของโจ เฟอร์โร่ให้จบ!

  • วิเวียน คอนลีย์

คอนลีย์ถอยหนีไปจนสุดทางแล้ว เธอเตรียมพร้อมจะสู้กับเราอยู่ที่บนซากเรือ เราต้องฝ่ากองกำลังศัตรูขึ้นไปบนตัวเรือสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อถึงห้องควบคุมเรือ ก็ถึงเวลาจัดการวิเวียน คอนลีย์

ระหว่างที่เราต่อสู้ เธอก็จะบ่นไปเรื่อยว่า ทำไมไม่มีใครสนผลงานของเธอเลย สิ่งที่เดียวที่พวกหน่วยดิวิชั่นเข้าใจ ก็คือส่งคนไปตายเรื่อย ๆ อย่างนั้นหรือ ? แต่ไม่ว่าเธอจะปั่นประสาทเราอย่างไร สุดท้ายเราก็สังหารเธอได้ในที่สุด เราเข้าไปตรวจสอบหลักฐานที่เหลืออยู่จากศพเธอ และเมื่อขุนพลทั้ง 4 สิ้นชีพหมดแล้ว เราก็เตรียมตัวเปิดศึกใหญ่กับแอรอน คีนเนอร์ผู้เป็นเป้าหมายรายใหญ่สุดในปฏิบัติการล่าครั้งนี้ได้เลย

เป้าหมายสุดท้าย แอรอน คีนเนอร์

หลังจากจัดการเหล่าขุนพลทั้งหมด เบาะแสทุกอย่างก็พร้อม และถึงเวลาที่เราจะจัดการหัวหน้าใหญ่สุด แอรอน คีนเนอร์ ซึ่งเจ้าตัวอยู่ห่างออกไปบนเกาะลิเบอร์ตี้ เราจำเป็นต้องใช้เรือข้ามฟาก แต่ตัวเรือกลับถูกพวกแบล็คทัสก์มายึดเอาไว้ก่อน พร้อมกับติดตั้งระเบิดเอาไว้ เมื่อเรามาถึงเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก ก็เริ่มบุกเข้าไปด้านในได้เลย

เราจะพบว่าเจ้าหน้าที่เคลโซ่ก็หลบอยู่บนเรือแล้ว แต่ลำพังเธอคนเดียวไม่สามารถจัดการพวกศัตรูทั้งหมดได้ ภารกิจของเราคือจัดการพวกแบล็คทัสก์ที่ขวางทางทั้งหมดให้ราบคาบ เท่านั้นยังไม่พอ พวกมันได้วางระเบิดเอาไว้บนเรือด้วย เราจึงต้องรีบไปปลดระเบิดเหล่านั้นก่อน จากนั้นเราต้องรีบขึ้นไปสมทบกับเจ้าหน้าที่เคลโซ่ด้านบนของเรือ เพราะเธอกำลังโดนรุมโจมตีอย่างหนัก หลังจัดการศัตรูบนเรือทั้งหมด เราก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังเกาะลิเบอร์ตี้

พอล โรดส์ติดต่อเรามาทางวิทยุเพื่อบอกว่า อาวุธชีวภาพของแอรอน คีนเนอร์นั้น ชื่อ Project Eclipse และพวกมันกำลังเตรียมการยิงอาวุธนี้อยู่บนเกาะลิเบอร์ตี้ แน่นอนว่าพวกเราต้องรีบไปขัดขวาง ไม่ว่าแผนการของคีนเนอร์จะเป็นอะไรก็ตาม

เอาล่ะ ถึงเวลาบุกไปยังเกาะลิเบอร์ตี้แล้ว ให้ตายเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้วที่จะได้เตะก้นไอ้เลวคีนเนอร์

บนเกาะลิเบอร์ตี้

แอรอน คีนเนอร์กำลังรอคอยการมาของเรา มีรายงานว่าเรือของเรากำลังเข้าใกล้ตัวเกาะที่ฝั่งตะวันออก คีนเนอร์สั่งอาวุธถล่มเรือข้ามฟากของเราจนยับเยิน เรือเกยตื้นที่ชายฝั่งเกาะลิเบอร์ตี้ และเจ้าหน้าที่เคลโซ่ได้รับบาดเจ็บจนไปต่อกับเราไม่ไหว และเราต้องกลับมาลุยเดี่ยวอีกครั้ง

ระบบตรวจสอบสัญญาณบางอย่างภายใต้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ และคาดว่านั่นน่าจะเป็นที่อยู่ของคีนเนอร์ เราจะฝ่าด่านกองกำลังของพวกแบล็คทัสก์และเหล่าจักรกลสุดถึกเข้าไปเรื่อย ๆ บาร์ดอน เชฟเฟอร์ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยแบล็คทัสก์ก็ระดมกำลังเข้ามาขัดขวางเรา แต่ขณะเดียวกันเขาเองก็ถูกคีนเนอร์ลอยแพ ทำให้เรารู้ว่าการที่พวกแบล็คทัสก์เดินทางมาบุกนิวยอร์ก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่พวกมันร่วมมือกับคีนเนอร์ และยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด

พวกแบล็คทัสก์เตรียมอาวุธสุดอันตรายอย่างเรเซอร์แบ็คเอาไว้ และเราต้องหยุดการทำงานของมันให้ได้ เชฟเฟอร์เห็นว่าแค่ไล่ล่าคีนเนอร์ เอาแค่พวกโดรนและลูกกระจ๊อกก็พอ จึงส่งกองกำลังเต็มพิกัดมาป้องกันเรเซอร์แบ็คเอาไว้

หลังจากจัดการเรเซอร์แบ็คเรียบร้อย เชฟเฟอร์ก็สั่งรวมพลกองกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อทำการโจมตีครั้งสุดท้าย และพวกมันได้ส่งโดรน Marauder ออกมา พร้อมกับเหล่าจักรกลสี่ขาที่โคตรถึก ซึ่งถ้าฟาร์มไอเทมมาไม่ด้ ตรงนี้จะกินเวลานานมาก เพราะมันถึก ทนกระสุนสุด ๆ ต้องยิงจุดอ่อนไปเรื่อย ๆ หลังจากการโดรน Marauder เสร็จ เชฟเฟอร์เห็นว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว พวกเขาจึงถอนกำลังออกไป และสุดท้ายก็เหลือเพียงแค่เราและคีนเนอร์

จากเบาะแสของ ECHO Project Eclipse คืออาวุธร้ายแรงที่สุด และคีนเนอร์บอกว่า ทั้งคอนลีย์ ดราคอฟ คาจิก้าและพาร์เนล ต่างก็เป็นเพียงตัวหมากที่ทำให้เกมนี้มันสนุกยิ่งขึ้น พวกคลีนเนอร์และไรเกอร์ก็ด้วย และเมื่อเราฝ่ามาถึงห้องโถงใหญ่ เกมปั่นประสาทก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ถ้านายไม่เคยได้ควบคุมมันจริง ๆ นายก็จะควบคุมอะไรไม่ได้ทั้งนั้น นี่คือความแตกต่างระหว่างนายกับฉัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนายถึงยังเป็นเจ้าหน้าที่ดิวิชั่น

ภารกิจของนายคืออะไร นายมาที่นี่ทำไมกันแน่ นายเชื่อใจคนที่นายทำงานด้วยงั้นรึ ? ทำไมนายไม่เชื่อตัวเอง ใครกันที่นายเชื่อใจ ?

สุดท้ายเราก็ผ่านด่านทดสอบนี้มาได้ และเราก็มาถึงจุดกบดานของคีนเนอร์ที่เตรียมพร้อมจะยิงอาวุธ Project Eclipse ซึ่งตรงนี้เราต้องแฮคเซิร์ฟเวอร์ให้จุดอ่อนของ Eclipse เปิดออกและยิงทำลายไปเรื่อย ๆ จนมันพัง และเมื่ออาวุธสุดท้ายล้มไม่เป็นท่า แอรอน คีนเนอร์ก็โดดลงมาจัดการกับเราด้วยตัวเอง

เมื่อเรายิงปะทะกับมันจนชนะ แน่นอนว่าไม่เหลือทางให้หนีรอด แอรอน คีนเนอร์ตะเกียกตะกายไปอยู่ที่ซากท่าเรือด้านหลัง เจ้าหน้าที่เคลโซ่ตามมาสมทบกับเรา แต่ในลมหายใจเฮือกสุดท้าย มันได้ทำอะไรบางอย่างที่นาฬิกาข้อมือของมันเอง เจ้าหน้าที่เคลโซ่รีบห้ามบาดแผลของคีนเนอร์เพื่อถามว่ามันทำอะไรลงไปกันแน่

พวกแกไม่รู้หรอกว่ากำลังจะมีอะไรตามมา

คำพูดสุดท้ายของแอรอน คีนเนอร์ก่อนที่มันจะสิ้นลมหายใจลง เจ้าหน้าที่เคลโซ่บอกให้เรากลับไปตั้งหลักที่ Haven ปิดฉากภารกิจ ตามล่าคีนเนอร์ Warlords of New York

ปฐมบทเหตุการณ์ใหม่

“เชฟเฟอร์ นายได้ยินไหม?”
“ฟังอยู่”
“ถอนกำลัง คีนเนอร์ตายแล้ว แต่เขาก็เปิดระบบเครือข่ายได้สำเร็จ”
“สูญเสียไปเท่าไร?”
“นาฬิกาของพาร์เนลกำลังตรวจสอบข้อมูล ดูเหมือนจะสูญเสียไปทั้งหมด”
“ให้ตายเถอะ พวกเราได้พวกเพิ่มขึ้นอีกแล้ว สมใจจริง ๆ”
“ไม่หรอก แต่มันสมบูรณ์แบบเลยล่ะ นี่จะทำให้พวกดิวิชั่นศิโรราบ และเราจะได้จัดการพวกมันทีเดียว”

บุคคลที่คุยกับเชฟเฟอร์หัวหน้ากลุ่มแบล็คทัสก์อยู่ ก็คือเฟย์ เลา และใช่.. เธอหักหลังพวกเราและกลายเป็นคนทรยศไปเรียบร้อย

ในขณะเดียวกัน ที่วอชิงตัน ดี.ซี.ก็เกิดพวกเจ้าหน้าที่ทรยศกลุ่มใหม่เตรียมบุกโจมตีเมืองอีกครั้ง ผู้นำคือ มอลลี่ เฮนเดอร์สัน ฉายา จูปิเตอร์ ซึ่งจากการสืบข้อมูลพบว่าเธอติดต่อหาคีนเนอร์โดยตรง และมีแผนการอะไรบางอย่างที่น่าหวาดกลัวที่วอชิงตัน ดี.ซี. สมาชิกในกลุ่มของเธอประกอบไปด้วย

  • แชดวิค แบรนดอน ฉายา “เนปจูน” อดีตวิศวกรการบิน ที่ก่อการร้ายฆ่าสมาชิกหน่วย JTF ไปหลายคน
  • ลูซี่ แอนเดอร์ส ฉายา “วีนัส”  มือปืนซุ่มยิงระดับพระกาฬที่ออกขโมยของสำคัญมาหลายเดือนแล้ว
  • แมรี่ มาสเตอร์ ฉายา “แซทเทิร์น” เชื่อว่าเธอกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ แต่ยังไม่มีข้อมูลไม่มากนัก
  • ไรอัน ชาง ฉายา “เมอร์คิวรี่” ถูกหมายหัวว่าเป็นพวกชอบทรมานและทารุณเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม เป็นเดนมนุษย์ตัวจริง

เรากลับมายัง Haven กับเจ้าหน้าที่เคลโซ่ รอย เบนิเทซ เข้ามาบอกว่าเขาเสียใจ และขอโทษเรื่องเฟย์ เลา ในขณะที่เคลโซ่เองก็ไม่เชื่อว่าเฟย์ เลา จะหันไปร่วมมือกับพวกแบล็คทัสก์ พอล โรดส์ได้ออกมาสมทบว่าเขาไม่เชื่อใจเธอแต่แรกแล้ว ก่อนจะหันมาขอบคุณเรา และต่อจากนี้เราก็เตรียมรับมือศึกที่จะเกิดขึ้นทั้งสองด้าน ทั้งที่นิวยอร์ก และวอชิงตัน ดี.ซี.ต่อไป

จบเหตุการณ์ Warlords of New York

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top