BY Aisoon Srikum
7 Dec 21 5:36 pm

รีวิว Propnight – เกมเอาตัวรอดผสมกับเล่นซ่อนแอบที่ยังบกพร่องในหลาย ๆ ด้าน

44 Views

นับตั้งแต่ Dead by Daylight ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ก็มีเกมอีกมากมายหลายเกมที่พยายามจะทำสูตรเกม Multiplayer แบบ 4vs1 ออกมา แต่ส่วนมากก็ไม่มีเกมไหนที่ประสบความสำเร็จมากนัก และสำหรับ Propnight เกมนี้ ก็เปิดตัวด้วยกระแสเล็ก ๆ แม้จะไม่ได้หวือหวายิ่งใหญ่ แต่ก็มีฐานคนเล่นพอสมควร และถือว่าเป็นเกมที่ดีพอสมควร และสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักเกมนี้ วันนี้มาทำความรู้จักและความน่าสนใจของมันได้ในบทความรีวิว Propnight

Story

Ss 61568b8af4253ea6f353a19edf2f4dcc5c8b9c44.1920x1080

เกมนี้ ไม่มีเนื้อเรื่อง ตามสเตปเกมอินดี้ แต่ก็พอจะมีเรื่องราวโดยย่อให้เราได้ติดตามอยู่บ้าง โดยเรื่องราวจะเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ ย่านชนบทแห่งหนึ่ง เหล่าวัยรุ่นในชุมชนหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่เหลืออีก 5 คน รวมตัวกันออกตามหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น และใครกันแน่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนี้

แม้ว่าตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องเป็นภาพรวมขนาดใหญ่แบบนี้ แต่ในเกมการเล่นจริงนั้น ไม่ได้มีโหมด Story ให้เราได้เล่นกัน ตัวเกมจะมีเพียงโหมด Multiplayer เท่านั้น และตัวละครแต่ละตัวเองก็ไม่ได้มีโปรไฟล์หรือประวัติใด ๆ ให้เราได้ติดตามกันเลย คาดว่าอาจจะมีการเพิ่มเข้ามาในอนาคต เพราะเกมเองก็เซ็ทโลกของเกมขึ้นมาไว้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้พยายามที่จะบอกเล่าเรื่องราวของโลกในเกมมากนัก เอาเป็นว่าใครเป็นสายเสพสตอรี่ หรือเนื้อเรื่องในเกมนี้ก็ข้ามผ่านไปได้เลย และไปดูสิ่งอื่นที่น่าสนใจภายในเกม

Presentation

Screenshot 5

รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะเป็นเกมแบบ Multiplayer 4vs1 ที่ผู้เล่นจะได้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกคือ Killer หรือฆาตกร 1 คน และอีกฝั่งคือ Survivor หรือผู้รอดชีวิตที่จะมี 4 คน เป้าหมายของฆาตกรคือจัดการฆ่าผู้รอดชีวิตให้หมด หรือถ่วงเวลาจนหมด ในขณะที่ฝั่งผู้รอดชีวิตจะต้องช่วยกันซ่อม Propmachine หรือก็เครื่องปั่นไฟให้ครบทั้ง 5 เครื่อง จากนั้นต้องไปเปิดประตูทางออกและหลบหนีจึงจะสำเร็จ

และทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ก็คือทั้งหมดของคอนเทนต์เกมในปัจจุบันนี้แล้ว ไม่มีอย่างอื่นใดเพิ่ม นั่นหมายความว่าถ้าคุณไม่ชอบเกมการเล่นสไตล์ 4vs1 หรือ Dead by Daylight คุณอาจจะเบื่อเกมนี้ตั้งแต่รอบแรกที่ได้เล่นเลยก็ได้ แต่ Propnight มีจุดเด่นที่เป็นของตัวเองอยู่ซึ่งเราจะว่ากันในส่วนของเกมเพลย์ แต่ภาพรวมคอนเทนต์ของ Propnight ตอนนี้ นอกจากโหมดเกมหลักก็แทบไม่มีอะไรให้เราได้เล่นอีกแล้ว และเกมยังไม่มีวิธีการปลดล็อคสกินทั้งที่ในเกมมีสกินอยู่มากมาย จะมีให้ก็เพียงแต่ Tagname และ Banner เท่านั้น กล่าวได้ว่าคอนเทนต์ของเกมนี้ น้อยแบบสุด ๆ และไม่น่าเชื่อว่าเกมจะลงขายแบบไม่ใช่ Early Access แต่ถึงอย่างนั้น ณ ปัจจุบันที่ผู้เขียนได้เขียนอยู่นี้ ตัวเกมก็ได้รับการอัปเดตและแพทช์กันวันต่อวันเลยทีเดียว แม้กระทั่งระบบ Anti-Cheat ก็ยังเพิ่งจะใส่เข้ามา ทำให้เกิดความสงสัยว่า เหตุใดทางผู้พัฒนาจึงมั่นใจที่จะลงขายแบบไม่ใช่ Early Access เพราะหลากหลายอย่างในเกม บ่งชี้ชัดเจนว่ามันคือเกมที่ยังไม่เสร็จ

Screenshot 8

แผนที่ปัจจุบันมีเพียง 4 แผนที่ และตัวละครฝั่งผู้รอดชีวิต 5 ตัว ที่มีไอเทมติดตัวต่างกัน และฝั่งฆาตกรอีก 4 ตัว ที่มีสกิลแตกต่างกัน ก็ยังถือว่าน้อยมาก ๆ แต่คาดว่าจะมีการอัปเดตตามมาในภายหลัง เพราะตอนนี้ทางผู้พัฒนาเองก็เปิดเผยข้อมูลที่อาจจะเป็นฆาตกรคนใหม่เข้ามาแล้ว

แต่ทั้งหมดทั้งมวล คอนเทนต์หลักของ Propnight ก็มีเพียงแค่เกมการเล่นต่อรอบเท่านั้น ใครที่เบื่อง่าย เบื่อเร็ว ก็ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน หรือรอให้เกมมีการอัปเดตที่มากกว่านี้แทน

Gameplay

Screenshot 7

อย่างที่ได้บอกไปในหัวข้อที่แล้ว เกมในตอนนี้มีเพียงโหมดการเล่นเดียวเท่านั้น แต่จุดเด่นที่สุดของเกมนี้ก็คือเกมเพลย์ของตัวเอง แม้จะเป็นการหลบหนีเอาชีวิตรอด แต่ทีเด็ดของฝั่งผู้รอดชีวิตคือการเข้าไปสิงวัตถุรอบตัวเป็นพรอพได้ (Prop คืออุปกรณ์ประกอบฉาก) ในทุกแผนที่ สิ่งของต่าง ๆ เกือบจะทั้งหมด ผู้เล่นฝั่ง Survivor สามารถเข้าไปสิงเป็นพรอพได้ทั้งหมด จากนั้นก็อยู่นิ่ง ๆ เนียน ๆ หรือเอาตัวรอดจากฆาตกรและร่วมมือกันซ่อม Propmachine ให้ครบ เพื่อหลบหนีออกจากแผนที่

และการปลอมตัวเป็นพรอพ ไม่ใช่เพื่อความเนียนเท่านั้น ระหว่างที่เราเป็นพรอพ เราสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่จะช้าจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับว่าพรอพที่เราปลอมตัวนั้น เป็นของแบบไหน ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ก็จะเคลื่อนที่ได้ช้า ถ้าเป็นของชิ้นเล็กจะเคลื่อนที่ได้เร็ว และของชิ้นเล็ก-ชิ้นใหญ่ จะมีพลังชีวิตของมันด้วย หากเราถูกโจมตีจนพรอพพัง เราจะคืนสู่ร่างมนุษย์ และ Knock Down หรือล้มลงทันที แต่ก็ใช่ว่าการเป็นพรอพจะไม่มีประโยชน์ นอกจากความเนียนแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ การเอาคืนเหล่าฆาตกรที่ไล่ล่าเราด้วยการกระโดดเหยียบหัวเพื่อให้ฆาตกรติด Stun และดรอปเงินออกมา วิธีการ Stun ฆาตกรยังมีการปิดประตูใส่หน้าได้ด้วย

Screenshot 10

โดยเงินนั้น นอกจากดรอปจากฆาตกรแล้ว ยังสามารถหาเก็บได้ตามฉาก และได้จากการกด Quick Time Event ตอนซ่อมเครื่องปั่นไฟ และประโยชน์ของเงินคือการนำไปเปิดกล่องสุ่มไอเทมช่วยเหลือภายในฉาก โดยไอเทมจะมีทั้งน้ำอัดลมเพิ่ม Stamina / หนังสือล่องหนชั่วคราว / Tool Kit ที่ช่วยซ่อมเครื่องปั่นไฟได้เร็วขึ้น หรือแม้กระทั่ง Picklock ที่ใช้ช่วยตัวเองให้หลบหนีจากเก้าอี้จองจำได้ (เกมนี้เวลาโดนฆาตกรตีจนล้ม จะถูกจับไปนั่งเก้าอี้ เหมือนการนำไปแขวนของ Dead by Daylight) เห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วฝั่งฆาตกรจะเอาอะไรไปสู้ แต่ใครที่ได้เล่นจริง ๆ จะรู้ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ฝั่งผู้รอดชีวิตเก่งเกินเบอร์ขนาดนั้น เพราะท้ายที่สุด ฆาตกรเองก็ยังมีความสามารถในการโจมตีและจับไปนั่งเก้าอี้จนถึงตายได้ และหากผู้รอดชีวิตลดลง ก็เป็นเรื่องยากที่จะช่วยกันซ่อมเครื่องปั่นไฟจนครบและหลบหนีได้

Screenshot 9

ในขณะที่ฝั่งฆาตกรเองก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย แต่จะเป็นในเรื่องของการป้องกันและการป่วนเหล่าผู้รอดชีวิต เช่นลงคำสาปเครื่องปั่นไฟให้ซ่อมยากขึ้น หรือวางกับดักไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อตัดพลังชีวิตของผู้รอดชีวิต และถ้าฝั่งผู้รอดชีวิตต้องเนียน ฝั่งฆาตกรก็ต้องตาดี หรือจดจำจุดต่าง ๆ ในแผนที่ให้แม่น เช่นตรงนี้มีขวดเพิ่มมาไหม ? วัตถุแปลก ๆ วางผิดที่หรือเปล่า ? อาจจะเป็นผู้รอดชีวิต เนียนเป็นพรอพอยู่ก็ได้  และความบันเทิงจะอยู่ตรงนี้ เพราะนอกจากจะต้องเอาตัวรอดและไล่ล่ากันแล้ว ยังมีช่วงที่เราต้องเล่นแบบเกมซ่อนแอบกันด้วย ยิ่งเล่นกับเพื่อนยิ่งปั่นกันสนุกมาก แต่ถ้าเล่นกับคนนอกก็จะได้อีกรสชาตินึงที่หาจากเกมแนวอื่นไม่ได้

แต่ถึงอย่างนั้น ภาพรวมของเกมยังคงมีปัญหาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hitbox แปลก ๆ ของตัวละคร สตั๊นติดบ้างไม่ติดบ้าง ฟันโดนบ้างไม่โดนบ้าง บั๊กอีกมากมายที่เกิดขึ้น การ Matchmaking ที่ไม่เสถียร และยังขาดการปรับปรุงอีกมากมาย แต่อย่างที่บอกไป ทีมงานได้แพทช์กันแบบวันต่อวัน และในอนาคตจะมีการเพิ่มภาษาไทยเข้ามาในเกมด้วย เอาว่าอย่างน้อยตอนนี้ซื้อเกมมาก็สามารถเล่นได้แบบเต็มอิ่ม สำหรับคนที่ชอบ และในอนาคตจะมีการอัปเดตตามมาอีกมากมายแน่นอน ถ้าทีมงานไม่ทิ้งเกมนี้ไปซะก่อน เกมนี้ถือว่ามีอนาคตที่สดใสพอสมควร

Performance

Screenshot 11

Screenshot 11

สิ่งที่ทำให้ตัวเกมยิ่งน่ากังขาขึ้นไปอีกว่ามันควรจะเป็น Early Access มากกว่า คือประสิทธิภาพของตัวเกม ที่ยังมีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด เช่นในบางแผนที่ อยู่ดี ๆ เฟรมเรทก็ตกโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเกมแบบนี้ เฟรมเรทตกถือว่าเป็นปัญหาพอสมควร เพราะการปั่นไฟเราจะสะดุด หรือเหล่าฆาตกรอาจจะมองเห็นของบางอย่างในฉากได้ยากขึ้นนั่นเอง แต่หลังจากมีการแพทช์แก้หลายครั้งก็ถือว่าดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่หายขาด น่าจะต้องรอกันไปก่อน

นอกนั้นตัวเกมก็ถือว่าทำได้ดี รันได้อย่างลื่นไหล บั๊กมีบ้าง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเล่นหลักจนเล่นไม่ได้ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องรีบจัดการในตอนนี้คือเหล่าคนโกงที่เริ่มลามมาในเกมนี้แล้ว ทั้งวิ่งเร็ว ตีจากระยะไกลได้ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่การมาของ Anti-Cheat น่าจะช่วยให้มันเบาลงขึ้นบ้าง เพราะเกมแบบนี้ถ้าโกงอีกความสนุกก็แทบจะไม่เหลือแล้ว

อาจจะมีจุดที่ต้องแก้ไข และปรับปรุงกันอีกมากมาย Propnight ยังคงมีความสนุกในแบบของตัวเอง และเชื่อว่าหากได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นี่จะเป็นอีกเกมที่ควรจะได้รับความสนใจมากกว่านี้ในอนาคต

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top