BY Nuttawut Apiratwarakul
19 Jun 25 5:01 pm

รีวิว: RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army

793 Views

อีกหนึ่งผลงานเกม RPG ในซีรีส์ Devil Summoner หรือ Shin Megami Tensei ที่หวนคืนถูกฟื้นชีวิตกลับมาให้เกมเมอร์ยุคใหม่ได้สัมผัส แต่การปรับปรุงที่สวยงามและน่าสนใจจะเพียงพอให้เกมนี้เข้าไปยืนอยู่ในใจแฟนเกม RPG และแฟน SMT ยุคใหม่ได้หรือเปล่า ตามไปดูรายละเอียดและสิ่งที่เราคิดกันได้ใน บทความรีวิว RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army ไอ้หนุ่มนักสืบไรโดกับคดีกองทัพภูติไร้วิญญาณ

RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army เป็นผลงานการ Remaster เกม Shin Megami Tensei: Devil Summoner – Raidou Kuzunoha vs. The Soulless Army เกมที่ดังจากยุค PS2 ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาคต่อของซีรีส์ Devil Summoner แต่ตัวเกมภาค Raidou Kuzunoha แตกต่างด้วยการใช้ระบบการเล่นเป็นเกม Action RPG ผสมการอัญเชิญปีศาจจากจักรวาล SMT ทั้งยังมีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคไทโช

แม้จะมีกระแสตอบรับในแง่บวกตอนวางจำหน่ายในปี 2006 แต่สุดท้าย Raidou ก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา เพราะ Persona 3 ที่จะวางจำหน่ายตามมาในอีก 4 เดือนให้หลังได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกมตระกูล MST และส่งให้ซีรีส์ Persona กลายเป็นเกมในกระแสหลักวางรากฐานสำคัญให้กับค่าย ATLUS มาจนถึงปัจจุบัน

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่สุดท้ายทาง ATLUS ก็คิดหยิบจับ Raidou กลับมาใหม่อีกครั้ง และไม่ใช่กลับมาใหม่แบบธรรมดาเพราะตัวเกมเรียกได้ว่าถูก “ชุบชีวิต”  และแม้ชื่อเกมอาจยาวจนต้องสูดหายใจลึก แต่เกมนี้มีอะไรมากกว่าคำว่าภาคเสริมที่ปั้นมาขายใหม่ตรง ๆ  มันคือเกม Action RPG ยุค PS2 ที่มาพร้อมระบบที่ควรมีในยุคปัจจุบัน ทั้งงานภาพใหม่หมด ระบบต่อสู้ที่ได้รับการยกเครื่อง และความพยายามในการรักษา “หัวใจ” ของต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน

นี่อาจไม่ใช่เกมที่สร้างกระแสแบบ Persona 5 หรือ SMT V แต่คือการรีมาสเตอร์ที่น่าศึกษา และเหมาะสำหรับทุกคนที่เคยหลงใหลในกลิ่นอายมืดหม่นของจักรวาล ATLUS อย่างไรก็ตามหลายจุดของเกมยังขาดความ “ยอดเยี่ยม” มากพอจะส่งให้มันเป็นเกมที่เราแนะนำให้ทุกคนได้สัมผัส แม้แต่กับแฟน SMT ด้วยกันก็ตาม

Graphic

ส่วนที่เด่นชัดว่าได้รับการปรับปรุงก็คือเรื่องของงานภาพในเกม แม้จะไม่หวือหวาระดับเกม AAA หรือเกม RPG ยุคใหม่ แต่ก็เป็นงานรีมาสเตอร์ที่พิถีพิถันในรายละเอียดอย่างแท้จริง โมเดลตัวละครหลักทั้งหมดถูกปรับปรุงให้คมชัดและทันสมัยมากขึ้น แม้จะยังไม่เทียบชั้น Persona 3 Reload แต่เอกลักษณ์เฉพาะของซีรีส์ ก็ยังคงสร้างลายเซ็นให้กับเกมนี้ได้อย่างโดดเด่น

โมเดลปีศาจกว่า 120 ตัวถูกปรับให้คมชัดมากขึ้นโดยยังคงกลิ่นอายต้นฉบับไว้ครบ ทั้งนี้ พื้นหลังและ NPC ทั่วไปในฉากยังดูเป็นงานเก่าพอสมควร บ่งบอกถึงโครงสร้างของเกมที่ยังใช้รากฐานจากเวอร์ชัน PS2 อยู่

Gameplay

RAIDOU Remastered พลิกโฉมระบบต่อสู้ของ Devil Summoner ภาคดั้งเดิมให้กลายเป็น Action RPG แบบเต็มรูปแบบ ผู้เล่นจะได้บังคับ Raidou Kuzunoha โดยตรงในสนามต่อสู้ พร้อมเรียกปีศาจออกมาช่วยรบได้สูงสุดถึงสองตัวพร้อมกัน โดยปีศาจจะโจมตีและใช้สกิลโดยอัตโนมัติ แต่เราสามารถออกคำสั่งโดยตรงเพื่อเน้นกลยุทธ์พิเศษในบางจังหวะได้ตลอดเวลา

ระบบการโจมตีมีทั้งแบบเบาและหนัก, การหลบ, การยิง และการใช้สกิลธาตุ Raidou ยังสามารถฟื้นฟู MAG (พลังเวทย์) ได้ด้วยการโจมตีปกติ ทำให้การจับจังหวะการโจมตีเป็นสิ่งสำคัญ หากโจมตีหนักเกินไปจนไม่มี MAG ปีศาจจะไม่สามารถใช้เวทย์ได้ ส่งผลให้ทีมอ่อนแอลงทันที นอกจากนี้ ระบบ Press Turn แบบใหม่ยังทำให้ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยธาตุที่แพ้จะติดสถานะ Stun เปิดโอกาสให้เราทำคอมโบได้ง่ายยิ่งขึ้น

การต่อสู้นั้นได้รับการปรับปรุงในหลายส่วน มุมกล้องแบบตายตัวก็ถูกแก้ไขให้ปรับได้ ตัว Raidou เองก็เคลื่อนไหวได้ลื่นไหลมากขึ้นกว่าเกมต้นฉบับ

แม้ระบบต่อสู้จะมีความลึก แต่การเคลื่อนไหวและคอมโบค่อนข้างซ้ำซาก ไม่มีลูกเล่นมากเท่ากับแอ็กชัน RPG รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ความสนุกของการจัดทีมปีศาจและการฟิวชั่นเพื่อล่าท่าใหม่ ๆ ยังคงเป็นจุดแข็งแบบเดียวกับใน SMT ดั้งเดิม การเลือกปีศาจให้เหมาะกับสถานการณ์ การอัปเกรดสเตตัส และการบริหารทรัพยากรในการต่อสู้ ทำให้โดยรวมแล้วปฎิเสธไม่ได้ว่าระบบการเล่นในการสั่งการปีศาจกับการบังคับแบบเกมแอกชั่นนั้นผสมกันได้ลงตัวเลยทีเดียว

ส่วนของระบบต่าง ๆ ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ชีวิตง่ายขึ้นในภาค Remaster ก็มีทั้ง Quick Save และ Auto Save , ระบบ Fast Travel, ฟีเจอร์ Reverse Demon Fusion และระบบการแจ้งเตือน Objective ที่แม่นยำขึ้น (แม้ยังมีบั๊กนิดหน่อย)

Presentation

RAIDOU Remastered ยังคงรักษาบรรยากาศญี่ปุ่นยุคไทโชไว้อย่างดี ทั้งดนตรีประกอบที่ผสมระหว่างแจ๊สและร็อก เสริมความลึกลับกับความเป็นนัวร์ได้อย่างลงตัว (เพลงถือเป็นส่วนที่โดดเด่นมาก ๆ ในเกม) การเล่าเรื่องใช้รูปแบบ episodic แต่ละตอนเป็นคดีแยกกัน แล้วค่อยๆ เชื่อมโยงเข้าสู่ปมใหญ่ ซึ่งช่วยให้จังหวะการเล่าเรื่องไม่ช้าเกินไปเหมือน JRPG บางเกม

หนึ่งในไอเดียที่โดดเด่นที่สุดของเกมคือการใช้พลังปีศาจในการสืบสวน  Raidou ตัวเอกของเรานั้นเป็นนักสืบเรื่องลึกลับ โทนของเกมก็จะอิงกับการไขคดี แก้ปริศนา เราสามารถใช้พลังของปีศาจในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านความคิด การปลุกพลังใจ หรือแม้แต่ส่งปีศาจไปแอบฟังข้อมูลในห้องต้องห้าม กลไกเหล่านี้เป็นการหลอมรวมระหว่างระบบเกมเพลย์กับธีม “นักสืบเหนือธรรมชาติ” ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามแม้การนำเสนอจะโดดเด่นมีไอเดียที่ดีมาก ๆ แต่ในการเล่นจริงการไขปริศนาแบบ Point & Click ในเกมนั้นแทบจะเป็นเส้นตรง เพราะตัวเกมแทบไม่ปล่อยเวลาให้เราได้รู้สึกว่าไขคดีต่าง ๆ ด้วยตัวเองแม้แต่น้อย ผู้เล่นเหมือนมีน่าที่คอยบังคับพา Raidou ไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อดูเนื้อเรื่องดำเนินไป แทนที่จะรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของการไขความลับต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเกม

ส่วนนี้เป็นข้อเสียจากเกมต้นฉบับซึ่งก็ยังคงอยู่ในเกมภาคใหม่และน่าเสียดายเป็นอย่างมาก โดยระบบต่าง ๆ นี้ในครึ่งหลังของเกมจะถูกลดบทบาทลงอย่างน่าเสียดาย

ระบบสมุดโน้ตที่บันทึกทุกเหตุการณ์ การอธิบายศัพท์เฉพาะ และการสรุปตัวละครสำคัญ ช่วยให้ผู้เล่นหน้าใหม่สามารถติดตามเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก แม้จะมีฉากบางตอนที่อิงวัฒนธรรมญี่ปุ่นยุคเก่า แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นงานเขียนที่พยายามเปิดกว้างให้ผู้เล่นทั่วโลกเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เนื้อเรื่อง

RAIDOU Remastered เปิดเรื่องด้วยการสอบผ่านของพระเอกวัย 16 ปีเพื่อเป็น Devil Summoner ก่อนจะถูกส่งไปทำงานที่สำนักงานนักสืบ Narumi เพื่อสืบคดีเหนือธรรมชาติในโตเกียวยุคไทโช เนื้อเรื่องตอนต้นดำเนินอย่างมั่นคงและน่าติดตาม มีความลึกลับ แฝงความเหนือจริง และผูกกับประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจ การเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เกิดจากอิทธิพลของปีศาจถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแนบเนียน

เรียกได้ว่า Raidou เปิดเกมมาโดยมีทั้งโลกในเกมและปมที่น่าสนใจและน่าติดตาม

น่าเสียดายที่เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของเกม  ความน่าสนใจทั้งหมดก็ถูกโยนทิ้งไป แทนที่ตัวเกมจะเน้นการเล่าเรื่องที่เข้มข้น แต่ดูเหมือนทีมงานต้นฉบับอยากให้มีฉากต่อสู้ที่ใช้พลังที่เกินขอบเขตของการเล่าเรื่องแบบนักสืบเหนือธรรมชาติ ในช่วงท้าย สิ่งที่ควรเป็นพล็อตเรื่องแนวลึกลับแน่น ๆ กลับกลายเป็นบท JRPG กระทืบพระเจ้า (อีกแล้วนั้นแหละ) โดยที่ผู้เล่นไม่รู้สึกอินตามไปด้วย

สรุป

RAIDOU Remastered คือเกมรีมาสเตอร์ที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างความเคารพต้นฉบับและการปรับตัวสู่ยุคใหม่ มันอาจไม่ใช่เกม Action RPG ที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ก็เป็นหนึ่งในเกมที่มีความจริงใจและพยายามพัฒนาอย่างรอบด้าน หากคุณเป็นแฟน Shin Megami Tensei หรือกำลังมองหา JRPG ที่มีอารมณ์ย้อนยุคและกลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณ RAIDOU คือคำตอบที่ควรลอง

ฟังดูเหมือนเราจะติติงตัวเกมในหลายจุดแต่ RAIDOU Remastered ก็เป็นผลงานที่เล่นสนุกโดยเฉพาะแฟนเกม SMT ทั้งหลายที่ไม่เคยสัมผัสภาคนั้นฉบับมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับแฟนเกมตระกูลนี้แล้ว “อารมณ์” ของเกมก็อยู่เหนือข้อด้อยทั้งหมดที่เรากล่าวมา

ถ้าคุณหวังเกมที่มีความล้ำสมัยและเข้าถึงง่าย RAIDOU อาจจะยังไม่ใช่ตั๋วเข้าโลกปีศาจที่เหมาะกับคุณในตอนนี้ แต่ถ้าคุณเป็นแฟน SMT ถ้าใจพร้อมกายพร้อม ก็หามาลองสัมผัสกันได้เพราะหลายอย่างจากเกมตระกูลนี้ก็หาจากที่อื่นไม่ได้จริง ๆ

 

RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army

7 / 10 คะแนน

7

ข้อดี

  • ระบบการต่อสู้สนุก ลื่นไหล
  • การสะสมและผสมปีศาจยังสนุกเหมือนเดิม
  • มีการปรับปรุงหลายอย่างจากภาคต้นฉบับแบบชัดเจน
  • งานภาพและดนตรีมีเสน่ห์โดดเด่น

ข้อเสีย

  • เนื้อหาช่วงท้ายเกมขาดความน่าสนใจ
  • ขาดความหลากหลายไปบ้างในฝั่งของการต่อสู้
  • ไม่ได้ให้ผู้เล่นสวมบทเป็นนักสืบได้อย่างเต็มที่

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Related posts

Read More
Back to top