ยอดคนจารชน สุดยอดสายลับอันดับต้นๆของโลกกลับมาอีกครั้ง พบกับ Sam Fisher ในภารกิจลับล่าข้ามชาติที่มีโลกเป็นกระดาน และมีชะตากรรมของอเมริกาเป็นเดิมพัน
[REVIEW] Splinter Cell: Blacklist
ไม่ใช่งานง่ายสักเท่าไหร่ในการพัฒนาเกมดีๆขึ้นมาให้ได้สักเกม ไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาเกมขึ้นมาสักตระกูลหนึ่งและหวังได้ว่ามันจะขายได้ถึง 6 ภาค เดินผ่านกระแสกาลเวลามาได้นานถึง 10 ปี ไม่ใช่งานง่ายเลยในการสร้างเกมชื่อ Splinter Cell และรักษา “เสน่ห์” ของมันเอาไว้ให้ได้จนถึงปัจจุบัน…
มาวันนี้ Splinter Cell กลับมาอีกครั้ง และไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับเกมตระกูลนี้ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบภาคไหนมาก่อน Blacklist แทบจะโยนทุกอย่างที่ “มี” ในซีรีส์นี้กลับเข้าใส่คุณอีกครั้ง ขอต้อนรับเข้าสู่ Fourth Echelon และครั้งนี้คุณ…คือผู้บัญชาการ
เรื่องราวใน Blacklist สานต่อจากภาค Conviction แต่ถึงแม้จะเรียกว่าสานต่อแต่คุณก็แทบจะไม่ต้องเล่นเกมตระกูลนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำเพื่อจะเข้าถึงเนื้อหาในภาคนี้ เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งเรียกตนเองว่า Engineers ทำการโจมตีฐานทัพสหรัฐและส่งคำขู่โจมตีสหรัฐทุกๆอาทิตย์จนกว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนกองทัพอาจจากประเทศอื่นจนหมด Sam Fisher ได้รับมอบหมายในภารกิจลับกับการหยุดยั้งการโจมตีที่จะเกิดขึ้น
Sam Fisher กลับมาในภาคนี้ในฐานะผู้บัญชาการ หน่วย Echelon ยุคที่ 4 กับทีมงานมากฝีมือที่ถูกคัดเลือกมาแล้ว โดยฐานปฎิบัติการสุดล้ำสมัยบนเครื่องบินยักษ์ The Paladin ซึ่งสามารถ อัพเกรด ปรับแต่ง ส่วนต่างๆได้ รวมถึงสามารถเดินไปเดินมาเพื่อรับภารกิจ พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมและแต่งเนื้อแต่งตัวให้กับ Sam Fisher ของคุณ (หรือเข้าเล่นในโหมด Coop ที่มีในภาคนี้ด้วยเช่นกัน)
- ความมืดคือสหายคนสำคัญของคุณ
เกมการเล่นหลักของ Blacklist เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานจุดเด่นของเกม Splinter Cell ทั้งจากยุคเก่าและยุคใหม่ ไม่ว่าคุณจะชอบการลอบเร้นแบบเงียบกริบระดับ Classic ในยุคแรกเริ่ม หรือชอบการยิงสนั่นลุยแหลกของ Conviction ในตัวเกม Blacklist นั้นผู้เล่นทุก Style ล้วนแล้วแต่มีของเล่นและมีพื้นที่ให้ได้สนุกสนาน
ด้วยระบบ Ghost Panther และ Assault คุณจะได้รับรางวัลแตกต่างกันไปตามรูปแบบการเล่นเฉพาะตัว ผสมผสานกับเครื่องไม้เครื่องมือของ Sam fisher ที่มีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายรูปแบบ ทำให้ Splinter Cell ในภาคนี้นั้นสนุกสนานเป็นอย่างมากในระหว่างการเล่น ซึ่งจุดที่ต้องชื่นชมทีมงานเป็นอย่างมากก็คือในเรื่องของการออกแบบด่านและภารกิจ Blacklist เจิดจรัสสนุกสนานที่สุดในตอนที่ คุณอาศัยเงามืด ที่กำบัง และเครื่องมือในการหลอกล่อจัดการกับศัตรู
ฉากต่างๆในเกมนั้นได้รับการออกแบบมาอย่างดี การลอบจู่โจมในเงามืด หรือหลบหลังที่กำบังและหาทางลอบผ่านเหล่าผู้ร้ายไปให้ได้ ล้วนแล้วแต่เป็นความสนุกที่ Blacklist หยืบยื่นให้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อคุณปลดล็อคเครื่องมือต่างๆและดำเินินเรื่องไปจนถึงช่วงกลางของเกม เมื่อทุกอย่างลงตัว Blacklist ผสมผสานทุกอย่างที่มีและให้ความสนุกแบบที่คุณไม่อาจคาดถึงเลยทีเดียว
น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวที่การเล่าเรื่องและเนื้อเรื่องหลักของเกมก็ยังคงเป็นจุดด้อยของซีรีส์นี้เสมอมาและตามติดมาจนถึงภาค Blacklist เช่นเดียวกัน แต่ถึงแม้ความสนุกในโหมดการเล่นเดี่ยวจะจบลง แต่โหมดการเล่นหลายคนอันยอดเยี่ยมยังรอให้คุณเข้าไปสัมผัส
- ด่านต่างๆในเกมนั้นได้รับการออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม
Spies VS Merc หรือสายลับประทะทหารรับจ้าง กลับมาอีกครั้งในภาค Blacklist กับเกมการเล่นที่ฝั่งทหารรับจ้างบังคับในมุมมองบุคคลที่หนึ่งต้องคอยป้องกันคอมพิวเตอร์จากการ Hack ของเหล่า Spy ขณะที่เหล่า Spy ในมุมมองบุคคลที่สามต้องหาทางจัดการและเข้าไปเจาะข้อมูลให้สำเร็จ โดยแบ่งออกเป็นสองรูปแบบคือ SvM แบบ Classic ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 2 โดยในโหมดนี้นั้นด่านต่างๆจะมีขนาดเล็กและมืดลงและผู้เล่นไม่สามารถปรับแต่งอาวุธใดๆได้ กับ SvM ฉบับ Blacklist ที่เป็นการต่อสู้แบบ 4 ต่อ 4
ใน SvM ฉบับ Blacklist นั้นผู้เล่นสามารถเลือกปรับแต่ง อุปกรณ์ของตนเองได้ และด่านต่างๆก็มีขนาดที่ใหญ่และสว่างขึ้นกว่าเดิม เราอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยให้ผู้เล่นได้ทดสอบความสมดุลของเกม (และ Ubisoft น่าจะต้องคอยปรับแก้ในหลายส่วน) แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรับประกันได้ในตอนนี้เลยก็คือ โหมด SvM ของ Blacklist นั้นสนุกสนานเป็นอย่างมากแน่นอน
- มาฟาดปากกันต่อในโหมดผู้เล่นหลายคน
โดยรวมแล้ว Blacklist พยายามในการดึงดูดเอาผู้เล่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ แฟนๆที่ชื่นชอบความท้าทายระดับ Classic และแฟนๆที่ต้องการการบุกตลุยแบบเกมยุคสมัยใหม่ ถึงแม้บา่งครั้งบางตอนตัวเกมจะประสบปัญหาเพราะความพยายามที่จะเดินไปในสองทิศทางพร้อมๆกัน แต่โดยรวมแล้วถือได้ว่า Blacklist ประสบความสำเร็จในเป้าหมายของตนเอง มันมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเก่าของเกมตระกูลนี้หรือผู้เล่นหน้าใหม่ที่หยิบ Splinter Cell ขึ้นมาเป็นครั้งแรก มันยื่นรางวัลให้กับคุณโดยไม่สนใจว่าคุณจะชื่นชอบการเล่นในลักษณะใด
ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับซีรีส์นี้ ไม่ว่าคุณจะเคยสัมผัสกับ Sam Fisher มาก่อนหรือเปล่า หากคุณมองหาเกม Stealth Action ดีๆอยู่สักเกมแล้วล่ะก็ ณ เวลานี้ Blacklist เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณครับผม ขอต้อนรับเข้าสู่ Fourth Echelon และยุคสมัยใหม่ของ Splinter Cell ได้มาถึงแล้ว….
ข้อดี เกมการเล่นหลักยอดเยี่ยม การออกแบบด่านสุดยอด โหมดผู้เล่นหลายคนที่สนุกสนานสุดๆ
ข้อด้อย เนื้อเรื่องหลัก ระบบการควบคุมไม่ได้ดังใจในบางจังหวะ
คะแนน 9/10
ขอขอบคุณ DKS ผู้ให้การสนับสนุนตัวเกมในการรีวิวมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ