BY Nuttawut Apiratwarakul
16 Nov 18 5:17 pm

Performance : Hitman 2

47 Views

ออกวางจำหน่ายกันไปแล้วสักระยะสำหรับตัวเกม Hitman 2 เกมมือสังหารภาคล่าสุดของซีรีส์โล้นนักฆ่าหัวบาร์โค้ด ขณะที่ตัวบทความรีวิวเรากำลังรออบอยู่ในเตาวันนี้เรามีบทความทดสอบศักยภาพของตัวเกมบน PC มาฝากกันก่อน

ไปลองดูกันว่า Hitman 2 เล่นได้ลื่นไหลขนาดไหนบ้างบน PC และมีตัวเลือก Option ด้านภาพอะไรบ้างให้เราเลือกปรับแต่ง พร้อมเทคทิคในการปรับให้ลื่นไหลและได้ภาพสวยที่สุดในความคิดของเรา

*บทความนี้ตั้งเป้าไปที่การเล่นเกม Hitman 2 ให้ลื่นในระดับ 60 FPS

ตัวเลือกด้านกราฟฟิกของเกม

Hitman 2 Setting

คลิกเพื่อดูภาพเต็ม

  • Fullscreen resolution: ความละเอียดหลัก ถือว่ากระทบต่อศักยภาพของเกมแบบชัดเจนและเห็นผลด้านภาพแบบชัดมาก ๆ โดยส่วนใหญ่ทุกคนคงปรับตามความละเอียดของจอกันอยู่แล้ว
  • Display mode: Windowed; Fullscreen; Exclusive fullscreen
  • Supersampling: เทคนิคการแสดงผลภาพในการ Render ภาพในรายละเอียดสูงและย่อภาพลงมาแสดงผลเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้นกว่าเดิม กินเครื่องหนักมากและไม่ได้เห็นผลภาพชัดเจนมากมาย
  • Level of detail: รายละเอียดวัตถุในฉากในระยะไกล เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ค่อยเห็นผลแบบชัดเจนและหากเครื่องคุณไม่ได้แรงมากเราก็ขอแนะนำให้ปรับตัวเลือกนี้ลงมา
  • Texture quality: คุณภาพของพื้นผิวเห็นผลต่อภาพในเกมแบบชัดเจนและไม่ได้กินเครื่องมาก เราแนะนำให้ปรับให้สูงไว้ครับ
  • Texture filter: หรือ Anisotropic Filtering เป็นการเพิ่มความชัดของพื้นผิวภาพเวลามองภาพจากมุมอื่น ๆ มองเห็นได้ชัดในพวกรายละเอียดของพื้นฉากเช่นถนนหรือพื้นห้อง เป็นอีกตัวเลือกที่ส่งผลต่อความสวยของเกมแบบชัดเจนและกินเครื่องไม่มากเกินไป
  • SSAO: รายละเอียดของเงาจากวัตถุในฉากเวลาวัตถุในฉากมาบรรจบกัน ช่วยเพิ่มความสมจริงในฉากแบบชัดเจนและกินเครื่องพอสมควร
  • Shadow quality: คุณภาพความชัดเจนของเงา ช่วยเพิ่มความสวยในเกมแบบชัดเจนและกินเครื่องหนักเอาการ หากคุณลองปรับแต่งตัวเลือกด้านบนทั้งหมดแล้วยังไม่ได้ FPS ที่พอใจผมแนะนำให้ลองลดเงาลงมาครับตัวเลือกนี้ช่วยรีด FPS ขึ้นมาได้อีกหลายเฟรม

**ตัวเกมไม่รองรับ DirectX12**

สำหรับการทดสอบของเรานั้นเราทดสอบโดยใช้เครื่องใน Office แบ่งออกเป็น 3 เครื่อง

Low Setting – 60 FPS

คลิกเพื่อดูภาพเต็ม

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i5-8400 2.80 GHz
  • Graphic Card: Nvidia GTX 1050 Ti 4GB
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen resolution: 1920 x 1080p
  • Supersampling: 1
  • Level of detail: Low
  • Texture quality: Low
  • Texture filter: Anisotropic 16x
  • SSAO: Off
  • Shadow quality: Low

เอาตามความเป็นจริงแล้วแม้แต่ในเครื่องระดับนี้ตัวเกมก็สามารถวิ่งได้ที่ Setting ระดับ Ultra โดยทำ FPS เฉลี่ยได้อยู่ที่ช่วง 30-40 ซึ่งหากคุณเน้นเรื่องภาพสวยไม่สนใจ FPS ก็สามารถเลือกปรับแต่งภาพให้สุดได้ตามต้องการ

เมื่อลดภาพลงมาที่ระดับ High ตัวเกมทำ FPS ได้อยู่ที่ช่วงระดับ 50 และมีเพิ่มลดไปที่ 60 และ 40 ตามสภาพแวดล้อมหลักของเกม

การรักษา FPS ให้อยู่ที่ 60 ตลอดทั้งเกมด้วยเครื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นงานยาก แต่ที่ Setting ระดับ Low ตัวเกมก็ค่อนข้างจะรักษา FPS ไว้ได้ที่ระดับ 50 ปลาย ๆ เราขอแนะนำให้คุณลองปรับแต่งภาพตามความชื่นชอบเฉพาะตัวแต่ถ้าให้แนะนำผมว่าที่ระยะ Medium และ High ก็สามารถเล่นได้บนเครื่องระดับนี้

Medium Setting – 60FPS

คลิกเพื่อดูภาพเต็ม

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i5-6600K 3.50 GHz
  • Graphic Card: Nvidia GTX 1060 6GB
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen resolution: 1920 x 1080p
  • Supersampling: 1
  • Level of detail: High
  • Texture quality: High
  • Texture filter: Anisotropic 16x
  • SSAO: Off
  • Shadow quality: High

เครื่องนี้เมื่อปรับสุดที่ Ultra Setting ตัวเกมทำ FPS เฉลี่ยอยู่ที่ช่วงระยะ 50 FPS โดยปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับฉาก ฉากที่มีตัวละคร NPC จำนวนมาก FPS ที่ได้อยู่ที่ 40 FPS และก็สามารถขึ้นไปสูงถึงระดับ 70 FPS ได้ในฉากภายในอาคารที่มีรายละเอียดไม่มากนัก

เมื่อลองลดระดับภาพลงมาอยู่ที่ระดับ High ตัวเกมทำ FPS เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาได้ราว 4 ถึง 5 FPS อยู่ที่ 55 FPS จนถึง 60 FPS ในบางครั้ง โดยรวมแล้วเครื่องระดับนี้สามารถปรับให้ภาพอยู่ที่ระดับ High ปนกับ Ultra ได้หากคุณไม่ซีเรียสและยอมให้ FPS ลงไปแตะระดับ 50 FPS

และเมื่อปรับภาพระดับ All Medium ตัวเกมสามารถรักษา FPS ไว้เกิน 60 FPS ได้เกือบตลอดทั้งเกม ยกเว้นในฉากที่มีแสงเงาและตัวละครจำนวนมาก

Ultra Setting – 60FPS, 4K Ultra HD

คลิกเพื่อดูภาพเต็ม

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i7-8700 3.20 GHz
  • Graphic Card: Gigabyte RTX 2080
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen resolution: 3840 x 2160p
  • Supersampling: 1
  • Level of detail: Ultra
  • Texture quality: High
  • Texture filter:  Anisotropic 16x
  • SSAO: On
  • Shadow quality: Ultra

เครื่องเทพประจำ Office แรงแบบสุดจัดปลัดบอก สำหรับสเปคนี้ไม่ต้องพูดถึงภาพระดับ 1080p เราข้ามไปคุยกันที่ระดับ 4K กันเลย

ที่ความละเอียดภาพระดับ 4K และปรับสุด Ultra Setting เครื่องเทพของเราทำ FPS ได้อยู่ที่ระดับ 70 FPS ในฉากทั่วไป และมีลดลงมาแตะที่ 60 ในฉากเมืองที่มี NPC จำนวนมาก

แต่โดยรวมแล้วถ้าคุณมีเครื่องใกล้เคียงกับตัวนี้คุณจะสามารถเล่น Hitman 2 ได้แบบจัดเต็มโดยไม่ต้องกังวลครับ

สรุป

น่าเสียดายที่ทีมงาน IO Interactive ไม่พัฒนาตัวเกม Hitman 2 ให้รองรับ DirectX 12 ซึ่งเราเห็นกันมาในหลายเกมทั้ง Shadow of the Tomb Raider และ Hitman ภาคที่แล้วว่า DX12 ช่วยเพิ่มศักยภาพของตัวเกมได้อย่างชัดเจน ก็หวังว่าตัวเกมน่าจะถูกอัพเดทเพิ่มเติมมาในภายหลัง

ส่วนงานภาพ Hitman 2 มีการปรับปรุงรายละเอียดภาพให้สวยงามขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะรายละเอียดในส่วนของพื้นผิวที่ดีขึ้นแบบชัดเจน แม้ตัวเกมจะไม่สามารถสวยงามแบบสุดขีดเหมือนเกมอื่นในยุคนี้ แต่ก็ถือว่ากราฟฟิกของ Hitman 2 ก็ไม่ได้ย่ำแย่แต่อย่างใด

โดยรวมแล้วตัวเกมไม่ได้เน้นหนักในเรื่องของ Graphic Card มากนักแต่จะหนักไปที่ CPU มากกว่า

หากคุณมีการ์ดจอกลาง ๆ ระดับ GTX 1060  ขึ้นไปคุณก็สามารถเล่นเกมนี้ที่ระดับ 60 FPS ได้ไม่ยากหรือหากขยับไปที่รุ่น GTX 1070 ซึ่งเป็นสเปคแนะนำคุณก็สามารถเล่นเกมนี้ได้แบบลื่นไหลโดยไม่ต้องกังวล หรือต่อให้ขยับลงไปเป็นรุ่น GTX 970 และ GTX 980 คุณก็ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้แบบลื่น ๆ ครับ

SHARE

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top