เรียกได้ว่าเป็นผลงานสุดร้อนแรงสำหรับเกมอินดี้สยองขวัญสุดแปลกอย่าง Horses หลังโดนแบนจากสองร้านค้าใหญ่บนโลกดิจิตอลทั้ง Steam และ Epic Games จนเรียกได้ว่าสามารถวางขายได้ที่เดียวบน GOG
แต่เพราะมันเป็นผลงานที่น่าสนใจมาก ๆ และคงน่าเสียดายที่หลายคนอาจจะไม่ได้เล่นกัน ดังนั้นใครชอบเกมสยองขวัญแปลก ๆ การเล่าเรื่องชวนอึดอัดขั้นสุดเราก็แนะนำให้ไปลองอ่าน รีวิว เต็มของเรา แล้วมาอ่านสรุปเนื้อเรื่องพร้อมร่วมตีความประเด็นต่าง ๆ ในเกมนี้กันอีกที
ส่วนใครที่เล่นเกมนี้จบแล้วหรือรู้ตัวว่าสนใจอยากรับรู้เนื้อหาก็ลองไปสัมผัสการตีความพร้อมสรุปเนื้อเรื่องหลักของเกมนี้จากเรากันได้เลย

สรุปเนื้อเรื่อง
เรื่องราวในเกม จะเล่าผ่านมุมมองของ อันเซลโม (Anselmo) ไอ้หนุ่มที่ถูกส่งไปทำงานรับจ้างชั่วคราวในฟาร์มชนบท หลังพ่อกับแม่เอือมระอาในความไม่เอาอะไรในชีวิต แต่การมาทำงานเพียง 14 วันเพื่อหาเงินเก็บของอันเซลโม ได้กลายเป็นประสบการณ์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
เพราะภายในฟาร์มแห่งนี้มีสิ่งผิดปกติบางอย่างถูกซ่อนเอาไว้
เมื่อมาถึง อันเซลโมได้พบกับเจ้าของฟาร์ม และเริ่มต้นทำงานง่าย ๆ อย่างการเก็บผักและดูแลบ้าน แต่ไม่นานอันเซลโมก็ค้นพบว่า “ม้า” ที่ถูกเลี้ยงไว้ในฟาร์ม ที่จริงแล้วกลับไปคนงานทาสที่ถูกสวมหน้ากากม้าเอาไว้ และถูกปฎิบัติเหมือนกับเป็นม้าจริง ๆ คนงานเหล่านี้ถูกบังคับให้ทำงานหนักในสภาพเหมือนเป็นสัตว์รับใช้ ไม่สามารถพูดหรือแสดงตัวตนของตนเอง ถูกควบคุมทั้งทางร่างกายและจิตใจ

อันเซลโมเริ่มตระหนักว่า “ม้า” เหล่านี้ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วยความสมัครใจ ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่เจ้าของฟาร์มเท่านั้นที่ใช้งานกดขี่เหล่าม้า เหล่าผู้มีอำนาจคนอื่น ๆ ต่างแวะเวียนมาใช้ประโยชน์จาก “ม้า” ในฟาร์มกันตามใจชอบ ระบบอันโหดร้ายที่ปฎิบัติกับคนอย่างไม่ใช่มนุษย์นำไปสู่การฆ่าตัวตายของม้า การทำร้ายร่างกายจนม้าบางตัวเสียชีวิต รวมไปถึงการใช้ความรุนแรงทางเพศอีกด้วย
ระหว่างหาทางเอาตัวรอดให้ครบ 14 วัน ทำตัวไหลไปตามระบบแบบไม่ตั้งคำถาม อันเซลโมได้ช่วยดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของทาสหญิงคนหนึ่งที่บอกว่าตนเองชื่อ ลินดา (Linda) โดยเธอแอบติดต่อกับ ฟิเอโร (Fiero) ทาสอีกคนที่เคยหลบหนีสำเร็จ และแฝงตัวอยู่ใกล้ ๆ ฟาร์มพร้อมกับกำลังวางแผนช่วยทุกคนออกไป
อันเซลโมจึงถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องในแผนการหลบหนี แต่แผนกลับล้มเหลวจนถูกเจ้าของฟาร์มจับได้ ฟิเอโรถูกทรมานตรึงไว้กับกางเขนจนตายพร้อมฝากฝังขอร้องให้อันเซลโมช่วยเหลือลินดาให้ได้ก่อนที่การล้างสมองของเธอจะสมบูรณ์จนเธอสูญเสียจิตใจ
อันเซลโมตัดสินใจช่วยเหลือลินดา แต่ระหว่างหลบหนีกลับถูกจับโดยเจ้าของฟาร์ม ขณะที่อันเซลโมกำลังจะถูกทำให้กลายเป็น “ทาสม้า” ตัวใหม่ ลินดาได้สติและช่วยเหลือพร้อมจัดการเจ้าของฟาร์มลงได้ทัน
สุดท้ายลินดาได้เปลี่ยนเจ้าของฟาร์มให้กลายเป็น “ม้า” เพื่อพิพากษาความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำ
ในฉากสุดท้าย ทาสม้าทั้งหมดในฟาร์มมารวมตัวกันเพื่อระลึกถึงฟิเอโร ก่อนที่ลินดาจะมอบหน้ากากม้าของฟิเอโรให้เขาสานต่อ พร้อมยืนยันว่าอันเซลโม “เป็นพวกเดียว” กับเหล้าม้าแล้ว ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินขบวนออกจากฟาร์มไป

ประเด็นตีความด้านสังคมและสัญลักษณ์ใน Horses
แม้ Horses จะเล่าเรื่องผ่านงานภาพแบบสุดขั้วและโครงเรื่องที่หนักหน่วง (พร้อมสอดไส้อารมณ์ขำแบบขม ๆ เอาไว้) แต่โครงสร้างหลักของเรื่องล้วนมุ่งเน้นการวิจารณ์สังคม การวิจารณ์ต่อระบบที่กดขี่มนุษย์ให้ “กลายเป็นสิ่งอื่น” จนสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคน
1) ระบบฟาร์ม = อำนาจนิยมที่ทำให้มนุษย์ถูกลดทอนศักดิ์ศรี
ฟาร์มในเรื่องไม่ใช่เพียงพื้นที่ธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของระบบที่ลดทอนมนุษย์ให้เหลือคุณค่าเพียงแค่ในฐานะ “ทรัพย์สิน” ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ตามใจ
ผู้คนถูกทำให้ไม่สามารถพูดได้ ไม่มีสิทธิเลือกสิ่งที่ตนเองต้องการ ไม่มีตัวตนของตัวเอง และถูกกำกับด้วยการควบคุมทั้งร่างกายและจิตใจ
สะท้อนถึงสังคมที่มี การใช้อำนาจเกินขอบเขต การควบคุมด้วยความกลัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบเห็นกันได้ในโลกยุคปัจจุบันจนชินชา
แถมเหล่าผู้มีอำนาจที่ควรจะช่วยเหลือ “มนุษย์” คนอื่น ๆ กลับร่วมมือกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง สิงที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ความชั่วร้ายของคนเพียงคนเดียวแต่เป็นระบบของการกดขี่ ที่ถูกทำให้ “เป็นเรื่องปกติ” ได้สำเร็จ

2) “หน้ากาก” และการถูกทำให้ไร้เสียง = การลบตัวตนด้วยโครงสร้างสังคม
การที่ผู้ถูกกดขี่ต้องสวมหน้ากากและถูกห้ามสื่อสาร คือสัญลักษณ์ของการที่ผู้กดขี่ต้องการ ลบตัวตน ลบความทรงจำ ลบเรื่องราวในอดีต
นี่คือ “ความรุนแรงทางอัตลักษณ์” (identity violence) มุ่งเน้นการทำลายตัวตนของบุคคลจนไม่หลงเหลืออะไร ในโลกความจริงเราก็เห็นการพยายาม “จัดการ” ผู้คนที่แตกต่างหรือไม่ได้อยู่ใน “ระบบ” แบบที่ผู้มีอำนาจต้องการ ผู้คนเหล่านี้ตกเป็นเป้าหมายในการใช้ความรุนแรง ตบตีจัดการจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงตนเองให้เข้ากับสังคมที่ถูกกำหนด
เมื่อมนุษย์ไม่มีชื่อ ไม่มีเสียง สุดท้ายก็ถูกมองเป็นเพียง “แรงงาน” หรือ “ทรัพยากร” เป็นตัวเลขที่มีค่าในฐานะสิ่งของเท่านั้น
3) ผู้มีอำนาจที่เห็นแต่ประโยชน์ของตนเอง (นักธุรกิจ / นักบวช / สัตวแพทย์) = การวิจารณ์สถาบันสังคม
ระหว่างการเล่น เราจะได้เจอกับตัวละครอื่น ๆ ที่ปรากฎตัวมาเยี่ยมฟาร์ม และทำเหมือนกับ “ทาสม้า” นั้นเป็นเรื่องปกติ อย่างที่ควรจะเป็น
ตัวละครเหล่านี้เป็นตัวแทนของ สามเสาหลักที่ควรเป็นที่พึ่งพิงหรือผู้นำพาสังคมให้มุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ความจริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น
ธุรกิจที่แสวงหาผลกำไรจากมนุษย์พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในระบบที่เหมาะสมอย่างที่ควรจะเป็น
ศาสนาหรือสถาบันทางศีลธรรม ที่ควรจะปกป้องผู้คนแต่กลับร่วมสร้างความชอบธรรมให้การกดขี่ ประกาศตัวกล่าวอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผล “กรรม” หรือ “บาป” ที่ทาสม้าสมควรได้รับ
วิชาชีพของแพทย์หรือกลุ่มคนที่มีความรู้ ที่ควรใช้วิทยาการเพื่อช่วยเหลือสังคม แต่กลับนำความรู้ที่มีมารับใช้ผู้มีอำนาจและหาผลประโยชน์ข้างเคียงให้กับตนเอง
ดังนั้นการนำเสนอของเกมคือการประกาศว่า “ความไม่ยุติธรรมไม่ได้เกิดจากคนเลวคนเดียว” แต่เกิดจาก เครือข่ายผลประโยชน์ ที่ตั้งใจรักษาตำแหน่งที่ยืนของตัวเองในระบบสังคมเอาไว้ เป็นการร่วมมือกันโดย “ทาส” เบื้องล่างได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม

4) อันเซลโม = ตัวแทนของ “คนที่เริ่มเห็นความจริง”
อันเซลโมเริ่มเรื่องในฐานะคนนอก เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในฟาร์มแห่งนี้ แต่ก็เข้ามาในฐานะ “ผู้มีอำนาจ” แม้จะไม่สูงแต่ก็เพียงพอต่อการให้คุณให้โทษเหล่าทาสในระบบ
ในฐานะผู้เฝ้ามองและส่วนหนึ่งของระบบ อันเซลโม มาถึงทางแยกในการเลือก ว่าจะเข้าร่วมกับผู้มีอำนาจเพื่อความปลอดภัยและ “ผลประโยชน์”
หรือ สนับสนุนทาสผู้ถูกกดขี่แต่ต้องเสี่ยงกับอันตราย
การตัดสินใจของเขาสะท้อนประเด็นว่า คนธรรมดา ๆ หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในจุดต่ำสุดของห่วงโซ่ จะเลือกทำอย่างไรเมื่อเห็นความอยุติธรรมภายในสังคม

5) ฟิเอโร = ความหวัง, การต่อสู้, และความสูญเสียของขบวนการปลดปล่อย
ฟิเอโรทาสม้าหนุ่มที่หลบหนีไปคนแรกแต่เลือกที่จะแฝงตัวหาทางช่วยเหลือคนอื่นเป็นตัวแทนของผู้ที่ยืนขึ้นสู้ก่อนใคร
เขาเป็นสัญลักษณ์ของ: การลุกขึ้นต่อต้านแม้รู้ว่ามีโอกาสพ่ายแพ้, ความเสียสละของผู้ที่เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง และความเจ็บปวดของผู้ที่ถูกระบบทำลายเพื่อให้ผู้อื่นกลัว
ฉากสุดท้ายของเกมในงานเผาศพของฟิเอโรและการส่งมอบหน้ากากสะท้อนให้เห็นว่าในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมนั้น อุดมการณ์จะยังคงอยู่และส่งต่อให้รุ่นถัดไป
6) ตอนจบ = การตีความเรื่อง “ความเป็นมนุษย์ถูกคืนกลับมา”
ฉากท้ายสุดที่กลุ่มทาสรวมตัวกันเดินออกจากฟาร์ม จึงไม่ใช่แค่การหลบหนี ตัวฉากนำเสนอว่า “ม้า” เดินขบวนออกมาอย่างชัดเจน เป็นสัญลักษณ์ของ การคืนศักดิ์ศรี การล้างอำนาจเก่า พวกเขาไม่ใช่ทรัพย์สินของใครอีกต่อไป
ชีวิตของอันเซลโมผู้เลือกยืนอยู่กับผู้ถูกกดขี่และเลือกสานต่อความเชื่อในการต่อต้านกับอำนาจจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เช่นเดียวกับอีกหลายคนในสังคมของเรา ที่มีผู้เลือกเส้นทางอันยากลำบากในการต่อต้าน “ระบบ” ที่ถูกวางรากฐานเอารัดเอาเปรียบผู้คนมานานแสนนาน











