ได้เวลาปวดตับอีกรอบ
Dying Light 2 เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความสนใจมาก ๆ ในงาน E3 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป เนื่องจากด้วยธีมเกมที่นำเสนอโลกในช่วงฟื้นฟูหลังวิกฤตการซอมบี้ที่ไม่ค่อยจะมีคนทำเท่าไหร่ แถมยังได้นักเขียนอย่าง Chris Avellone ผู้โด่งดังจากซีรี่ส์ Fallout มาเขียนบทให้ ทำให้ตัวเกมในภาคนี้น่าจะถูกพัฒนาในด้านเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น
แต่ Avellone ไม่ใช่นักเขียนผู้มีพรสวรรค์คนเดียวที่ทำงานให้กับเกมนี้ Techland ยังบอกว่าพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากทีมนักเขียนของ The Witcher 3 ซึ่งทีมนักเขียนที่ว่านี่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านเควสเสริมหลาย ๆ เควส รวมถึงเควส ‘Bloody Baron’ เควสที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเควสที่ดีที่สุดในเกมดังกล่าว เนื่องด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างบีบคั้นอารมณ์ กับผลลัพธ์ที่ทำให้เราต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำให้การเล่นรอบที่ 2 ของเกมมีหลายคนพยายามจะหลีกเลี่ยงเควสนี้ให้ได้ (แต่ก็หลีกไม่พ้นอยู่ดี มันผูกกับเควสหลัก…)
ทีมที่ว่าอาจจะไม่มีชื่อเสียงเท่า Avellone แต่ในเรื่องพรสวรรค์ในด้านงานเขียนนี่ค่อนข้างเชื่อถือได้ The Witcher 3: Wild Hunt เป็นเกม RPG ที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของประวัติศาสตร์ และ Bloody Baron ก็เป็นเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมอันดับต้น ๆ ในโลกวิดีโอเกมเช่นกัน โดยเนื้อหาของเควสจะเล่าถึงเรื่องของครอบครัวที่ “สลับซับซ้อนและขัดแย้งซึ้งกันและกัน แต่สุดท้ายก็ยังเป็นครอบครัว” ใครที่ยังไม่ได้ลองเล่น The Witcher 3 แนะนำว่ารีบหามาลองโดยด่วน เพราะเควสที่ว่านี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ
“เราต้องการตัวละครที่จะบ่งบอกความเป็น Velen (ชื่อเมือง) ทั้งในด้านความสวยงาม และอันตราย”
“บารอนก็เหมือนทหารยุคปัจจุบัน เขากลับมาจากสงคราม มีอาการ PTSD แถมยังติดเหล้า ทั้งหมดส่งผลให้อารมณ์ไม่มั่นคงจนทำบางอย่างที่เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิตลงไป แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ยังรักครอบครัว”
Dying Light 2 ยังไม่ปล่อยข้อมูลอะไรออกมามากนัก เท่าที่เรารู้คือเนื้อหาของมันจะอยู่ในช่วง “Modern Dark Ages” 15 ปีหลังจากการเริ่มระบาดของเชื้อไวรัส เกมเพลย์หลักที่เราเห็นในงาน E3 ก็จะเป็นการต่อสู้และทักษะปากัว (Free Runing) ที่พัฒนามาจากภาคแรก ภาคนี้การตัดสินใจของผู้เล่นจะมีผลกระทบกับโลกของเกมทั้งโลก ใครที่เล่นภาคแรกแล้วติดใจก็เก็บเงินรอไว้ได้เลยจ้า
