Doom ถือเป็นเกมในตำนานที่หลายคนน่าจะเคยได้สัมผัสกันสักครั้งมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาคดั้งเดิมหรือภาคใหม่ปี 2016 ที่สร้างความประทับใจอย่างที่สุด แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปไกลมากในปัจจุบันนี้ ทำให้อดีตผู้สร้าง DOOM ภาคแรกถึงกับเอ่ยปากว่า วิดีโอเกมก้าวไปไกลกว่าในยุคของเขาจนเกินกว่าจะคาดคิดได้แล้ว
John Romero อดีตนักพัฒนาเกม DOOM ภาคดั้งเดิม และผู้ร่วมก่อตั้งของ id Software ในยุคแรก ได้เปิดกระทู้ถามตอบใน Reddit ให้สมาชิกเข้ามาถามคำถามที่อยากรู้ แม้ตัวของเขาจะไม่ได้มีอิทธิพลต่อวงการเกมในปัจจุบันนี้มากนัก แต่ก็ยังอดทึ่งไม่ได้ที่วิดีโอเกมในยุคนี้นั้นไปไกลกว่าที่เขาจะจินตนาการเอาไว้ไกลมากแล้ว
“วิดีโอเกมตอนนี้เป็นสิ่งน่าทึ่งไปแล้ว” Romero กล่าว “มันดูดีกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ไม่ใช่แค่กราฟฟิก แต่รวมไปถึงภาษาในการออกแบบที่พัฒนาไปมาก และวิดีโอเกมก็ดูดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าเกมที่ยอดเยี่ยมย่อมมีการถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน”
ยังมีหลายความเห็นของ Romero ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่นการขายลิขสิทธิ์เอนจิ้นเกมของ Wolfenstein 3D ให้ถูกนำไปสร้างเกมลอกเลียนแบบอย่าง Super 3D Noah Ark ซึ่งเขาบอกว่ามันคงเป็นอะไรที่ตลกดี
“พวกเราคิดแค่ว่ามันน่าตลกดี ที่จะขายเอนจิ้นเกม WOLD 3D ไปใช้กับเกมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาแบบนั้น”
ส่วนความเห็นเกี่ยวกับรอยด่างพร้อยที่เคยสร้างเอาไว้อย่างการพัฒนา Daikatana ที่กลายเป็นตราบาปชั่วชีวิตของเขานั้น เขาก็ยังสงสัยว่า แม้ผ่านมาร่วม 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนถามถึงเกมภาคต่อกับเขาอยู่เสมอ
“มีคนถามผมอยู่ตลอดว่าเมื่อไหร่จะ Remake Daikatana อีกครั้ง หรือทำภาคต่อออกมาอะไรแบบนี้ แต่ผมไม่มีไอเดียหรือความคิดที่ดีพอจะใช้งานได้ แล้วตอนที่เกมออกมา มันก็ถูกยำเละจากทุกสื่อในตอนนั้น แม้จะผ่านมา 20 ปี ตราบาปนี้ก็ยังไม่เคยหายไปไหน และก็มีหลายคนถามผมเรื่องนี้เสมอ และแน่นอนว่าไม่มีผู้จัดจำหน่ายคนไหนที่ยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อเกม Remake หรือภาคต่อเกมนี้ไปขายหรอก”
