ทีมผู้พัฒนาหลายสตูดิโอพยายามที่จะผลิตเกมตามกระแสให้ครองใจเกมเมอร์ในยุคปัจจุบันอย่าง Battle Royale ออกมามากมาย แต่ดูเหมือนว่าอาจจะถึงจุดอิ่มตัวของเกมประเภทนี้ เพราะว่านอกจากเกม PUBG กับ Fortnite ก็ไม่มีเกมไหนบูมเท่ากับสองเกมนี้อีก ทั้งยังพากันปิดตัวลงเรื่อย ๆ ซึ่งล่าสุด Realm Royale อาจจะต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง เพราะยอดตัวเลขผู้เล่นในตอนนี้บอกได้เลยว่าเข้าขั้นวิกฤตตั้งแต่ขั้นตอน Early Access ซะแล้ว
เว็บไซต์ GitHyp ได้แสดงผลยอดผู้เล่นโดยรวมทั้งหมดของเกม Realm Royale ซึ่งยอดตัวเลขดั้งเดิมจะอยู่ประมาณที่ 105,000 คนแต่ทว่าล่าสุดหลังจากตัวเปิดเกมมา ยอดผู้เล่นก็ลดลงเรื่อย ๆ จนมีผู้เล่น Realm Royale เฉลี่ยมีคนเล่นเพียง 4,711 คนเท่านั้นนับจากวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่วันเปิดตัวเกม Realm Royale แล้ว ยอดจำนวนผู้เล่นลดลงเป็นจำนวนมากถึง 94% เลยทีเดียว
ส่วนเหตุที่ Realm Royale มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นเพราะกระแสเกม Battle Royale ที่ผู้เล่นยังคงให้ความสนใจกับเกม PUBG และ Fortnite ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และตัวเกมของ Realm Royale เองก็มีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่ให้ความเห็นว่า เกมไม่มีความสมดุลทั้งในระบบคลาสและอาวุธ ซึ่งทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่มักจะเสียเปรียบ เนื่องจากอาวุธไม่มีประสิทธิภาพสูงพอที่ต่อกรกับผู้เล่นทหารผ่านศึกได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกมประเภท Battle Royale ที่มียอดผู้เล่นไม่สวยหรูเท่าไหร่นัก กรณีนี้มีให้เห็นมาแล้วอย่างเช่นเกม Radical Heights ของทีมงาน Boss Key ที่มีอดีตผลงานอย่างเกม Lawbreakers ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็เลยต้องการจะหาอะไรใหม่ ๆ ทำบ้าง
หลังจากนั้น ทีมงานก็ได้สร้างเกมใหม่ทดแทนเกมเก่าในรูปแบบ Battle Royale ที่เป็นกระแสแนวเกมในปัจจุบันจนได้กำเนิดเกม Radical Heights ขึ้น แต่เกมก็ยังคงไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องการโปรโมทให้เกมเมอร์ได้เห็นเป็นประจักษ์กัน จึงทำให้เกมนี้ต้องปิดบริการอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่เกมมีอายุเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น พร้อมปิดตัวทีมผู้พัฒนาเกม Boss Key ในที่สุด
Realm Royale เป็นเกม Battle Royale ของเกม Paladins ที่แยกตัวมาเป็นเกมใหม่ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนกำลังพัฒนา Steam Early Access อยู่ และบทวิจารณ์อยู่ในแง่ ผสมกัน ถ้าหากใครสนใจตัวเกม ก็สามารถสอดส่องหน้าร้านค้าได้ ที่นี่
