BY Aisoon Srikum
28 May 25 6:37 pm

JDM: Japanese Drift Master ซิ่งรถแดนอาทิตย์อุทัย กับทัศนียภาพญี่ปุ่นอันตระการตา

74 Views

ไม่ว่าใครต่างก็ชื่นชอบวัฒนธรรมของญี่ปุ่น แต่ลงลึกยิ่งกว่าคืออิทธิพลของการซิ่งรถในบรรยากาศและกลิ่นอายของญี่ปุ่นอีกต่อ และแม้จะมีเกมแข่งรถออกมามากมาย แต่ในระยะหลังนี้ เกมที่เราจะได้ไปซิ่งกันในญี่ปุ่นก็เริ่มน้อยลงจนนับนิ้วได้แล้ว แต่สตูดิโอ Gaming Factory ก็ขอพาเราไปสัมผัสบรรยากาศที่ทุกนหลงใหล ในรูปแบบเกมยุคปัจจุบันที่มาพร้อมกราฟิกสวยงามและระบบขับรถที่เข้าถึงได้ทุกคน และนี่คือ JDM: Japanese Drift Master

Tokyo Drift และ Initial D สองสื่อที่มีอิทธิพลต่อชาวไทย

เวลาเราพูดถึงบรรยากาศการแข่งรถที่ญี่ปุ่น สองชื่อแรกที่จะต้องถูกพูดถึงก่อนใครเพื่อนเสมอ ก็คือสองสื่อที่ต่างกันสุดขั้ว ทางหนึ่งคือภาพยนตร์แฟรนไชส์ระดับตำนานที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่จบอย่าง Fast & Furious และอีกทางก็คือมังงะแข่งรถระดับตำนาน Initial D ถนนสายนี้ข้าจอง ทั้งสองเรื่องนำเสนอการแข่งรถในญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Initial D ที่เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มธรรมดาที่แค่ขับรถข้ามเขาอากินะไปส่งเต้าหู้ แต่มันกลับเสริมสกิลการขับรถอันยอดเยี่ยมให้เขาโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ Fast & Furious: Tokyo Drift นำเสนอโลกของญี่ปุ่นที่กำลังถูกเทรนด์ของการแข่งรถซิ่งและดริฟท์เข้าครอบงำ และฌอน บอสเวลล์ คือตัวละครเอกที่เข้ามาพัวพันกับเรื่องราวของการแข่งรถใต้ดิน

ทั้งสองเรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวนำที่ทำให้ภาพจำในหัวผู้คนส่วนใหญ่เกี่ยวกับญี่ปุ่นและรถแข่งนั้นเด่นชัดขึ้นเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น JDM หรือชื่อเกมนั้น มีอีกความหมายที่ตรงตัวยิ่งกว่า และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมสร้างเกม เลือกใช้ชื่อนี้เหมือนกัน

JDM รถยนต์และชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นตามกฎหมายญี่ปุ่น

ในความเป็นจริงแล้ว JDM ย่อมาจาก Japanese Domestic Market หรือก็คือรถยนต์และชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นมาตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หลัก ๆ แล้วมันคือการแต่งรถโดยนำเอาอะไหล่หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นเข้ามาแต่งกับรถ ทำให้รถคันนั้นเหมือนกับผลิตมาจากญี่ปุ่นนั่นเอง

ในช่วงปี 1980-1990 เป็นยุคเศรษฐกิจญี่ปุ่นรุ่งเรือง ทำให้รถญี่ปุ่นมีบทบาทอย่างมาก แถมวัฒนธรรม Street Racing และ Drift ก็เติบโตขึ้นมาด้วย ทำให้ JDM ยิ่งกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก ทำให้มันไม่ใช่แค่เรื่องของตลาดยานยนต์ในญี่ปุ่น แต่มันแทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์วัฒนธรรม ซึ่งน่าจะส่งผลมาถึงสื่อดัง ๆ อย่างหนัง Tokyo Drift และ Initial D ตามที่กล่าวไป

JDM: Japanese Drift Master

วกกลับสู่ประเด็นหลักของเราในวันนี้ JDM: Japanese Drift Master เห็นชื่อก็เดากันได้ว่าผู้สร้างตั้งใจพ้องชื่อ JDM อย่างแน่นอน ใน JDM: Japanese Drift Master ตัวเกมเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินทางมายังญี่ปุ่น และมีความฝันในการจะเป็นนักแข่งรถฝีมือดี โดยจะมีเนื้อเรื่องต่าง ๆ ให้เราทำมากกว่า 40 ตอน และภารกิจเกี่ยวกับการขับขี่ทั้งหลายที่จะทำให้เราไต่เต้าขึ้นสู่วงการนักแข่งรถของญี่ปุ่น ทำให้ต้องพบเจอกับผู้คนต่าง ๆ มากมาย

ตัวเกมเป็นเกมแบบ Story Driven หรือเกมเน้นการเล่าเรื่องแบบเป็นเส้นตรง แต่ในระหว่างที่ว่างจากการทำภารกิจ เรายังสามารถที่จะขับรถกินลมชมวิวได้แบบสบายใจ เพราะฉากหลังโลกภายในเกมนี้ คือโลก Open World ที่จำลองหมู่เกาะของญี่ปุ่นที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ ตั้งแต่บรรยากาศ ร้านรวงข้างทาง แม้จะไม่ได้สมจริงแบบเป๊ะ ๆ เหมือนของจริง แต่กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นก็คือชัดเจนที่สุดแล้วในเกมนี้

ไม่ใช่แค่บรรยากาศ แต่ด้านเนื้อเรื่องเอง JDM ก็เลือกวิธีการนำเสนอในสไตล์มังงะญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ละเอียดมาก แต่ก็เป็นการนำเสนอที่ทำถึง และกล้าเล่น กล้าเสี่ยง เพราะถ้าคนไม่ชอบก็คงไม่ชอบไปเลยแต่แรก และเนื้อหาของมันก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอ

ในช่วงของเกมการเล่น ผู้เล่นจะได้เลือกทำภารกิจที่เป็น Main Story เดินเรื่องราวต่อไปเรื่อย ๆ ได้ โดยในระหว่างทางของภารกิจเนื้อเรื่องก็จะเป็นการสอนผู้เล่นไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการขับแบบต่าง ๆ ที่ขนมาครบทั้ง Drift, Drag หรือการใช้ Nitro ที่หากเกมแข่งรถเกมใด ขาดสิ่งนี้ไป มันก็คงจะรู้สึกขาด ๆ หาย ๆ เป็นแน่แท้

ขนาดแผนที่เองก็ถือว่าใหญ่พอที่จะให้เราขับรถเล่นได้โดยไม่เสียดายเงินค่าเกม เพราะถือว่าใหญ่พอสมควร และกลิ่นอายบรรยากาศ ก็อย่างที่เล่าไป คือจัดเต็ม สวยงาม ขับไปส่วนไหน มุมไหนก็แทบจะจอดรถ ถ่ายภาพสกรีนช็อตมาแบ่งปันคนอื่น ๆ ได้เลย

การแต่งรถที่ต้องมาคู่กัน

เป็นถึงเกมขับรถ จะไม่มีระบบแต่งรถเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ JDM มาพร้อมกับการปรับแต่งทั้ง 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายนอกให้สวยงาม ให้ตัวรถของเราเท่โฉบเฉี่ยวเหนือใคร มีการปรับแต่ง Mechanical หรือเครื่องยนต์ซึ่งจะส่งผลกับสมรรถภาพของรถโดยตรง และเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากให้รถของเราโดดเด่นในด้านไหน ปิดท้ายด้วย Car Setup ที่เราจะได้นั่งดูรถของเราอย่างละเอียด และเลือกติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปได้

ในหน้ารายละเอียดรถก็จะมีบอกหมดตั้งแต่ประเภทรถ ความเร็ว อัตราเร่งตั้งแต่ระดับความเร็วต่ำไปจนถึงสูง ดังนั้นสำหรับคนรักรถ นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความละเอียดที่ตัวเกมใส่ใจมาก ผู้เล่นจะได้ออกแบบรถของตัวเองให้ขับขี่ได้อย่างถูกใจ และเข้ามือ หรือยิ่งกว่านั้น คือการที่ใช้รถให้ถูกภารกิจที่เราไปแข่ง ต้องบอกเลยว่า ภารกิจและการแข่งในเกมนี้ ไม่ใช่หมู ๆ เหมือนขับรถเล่น บางภารกิจต้องจริงจัง และต้องเรียนรู้การควบคุมรถอยู่หลายต่อหลายครั้ง กว่าจะผ่านด่านได้

แต่ในเกมยังมี School หรือโรงเรียนสอนดริฟท์ และการขับประเภทต่าง ๆ ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเลือกที่จะเรียนรู้ว่า อยากจะฝึกขับแบบไหน ซึ่งเราแนะนำแบบตรง ๆ เลยว่า ใครเป็นมือใหม่เกมขับรถ School หรือโรงเรียนสอนขับรถในเกมนี้มันช่วยได้จริง ๆ บวกกับถ้าไม่ถนัดจริง ๆ เกมมี Easy Mode เสริมแถมให้ด้วย รอบแรกเล่นแบบง่ายไปเลย ถ้ายังติดใจค่อยปรับความยากขึ้น เพราะมันปรับระหว่างเกมได้อยู่แล้ว

การซื้อและตกแต่งทั้งอุปกรณ์และเครื่องยนต์จำเป็นจะต้องได้เงินจากการแข่งขันหรือก็คือภารกิจยิบย่อยข้างทาง ดังนั้นหากอยากให้รถเราโดดเด่นเหนือใครทั้งในด้านรูปลักษณ์และความเร็ว ยังไงก็ต้องเล่นเก็บการแข่งขันยิบย่อยต่าง ๆ ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เกมยังมีระบบ Reputation หรือค่าชื่อเสียงที่ได้จากการที่เราขับรถในลีลาท่ายากต่าง ๆ ตั้งแต่การดริฟท์ขณะซิ่งความเร็วสูง การขับผ่านย่านชุมชนที่ติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วด้วยความเร็วที่สูงกว่าปกติ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นี่เป็นเกมจำลองการแข่งรถ ซิ่งรถที่ไม่ได้มีระบบเกมการเล่นอื่น ๆ มากนัก ใครคาดหวังว่าจะได้ขับหนีตำรวจ โดนไล่ตาม ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่มี แถมตัวเมืองนั้น แม้จะขับรถกินลมชมวิวได้สวยงามดี แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า มันแทบไม่มีผู้คน ทำให้เมื่อเล่นไปนาน ๆ ก็อาจจะรู้สึกเหงา ๆ หน่อย เพราะเหมือนเล่นคนเดียวแบบเพียว ๆ เลย

ไม่ว่าจะในด้านไหน การที่ JDM: Japanese Drift Master สามารถผลิตเกมระดับนี้ และวางขายในราคาที่ใคร ๆ ก็เอื้อมถึง เป็นอะไรที่น่าประทับใจไม่ใช่น้อย ด้วยกระแสรีวิวจากผู้เล่น และหน้าร้านค้า Steam หวังว่าเกมนี้จะประสบความสำเร็จจนอยู่ในจุดที่ทางผู้พัฒนาพึงพอใจ

Aisoon Srikum

Back to top