ใครๆก็ชอบยิงซอมบี้

ซอมบี้ คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่คู่กับวงการสื่อบันเทิงมาอย่างยาวนาน ในวงการเกมก็เช่นกัน เรียกได้ว่ามีเกมที่เกี่ยวกับซอมบี้วางขายแทบทุกปี เพราะคอเกมก็ยังคงให้การตอบรับกับเกมเหล่านี้เป็นอย่างดี ตราบใดที่ทำมาดีมากพอ และที่สำคัญ การมาของเกมแนวนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ ที่ทำให้วงการเกมเดินหน้าไปได้มากขึ้น และนี่คือตัวอย่างของเกมดัง ที่ล้วนแต่รันวงการ จนเกิดเป็นกระแสเกมซอมบี้ และแนวใกล้เคียงกันอีกมากมาย

Resident Evil

เป็นเกมที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เกมวางจำหน่ายในปี 1996 และทำให้เกมเมอร์ในยุคนั้นได้ช็อคกันจริงๆ กับการปรากฏตัวของซอมบี้ในเกม ที่ถือว่าทำออกมาได้น่ากลัวมากๆ และซอมบี้ในเกมกลับตายยากกว่าเกมอื่นๆ พร้อมกับระบบการเก็บของ และปริศนาต่างๆ ให้ได้แก้ไขตลอดทางจนกลายเป็นนิยามใหม่ของเกมแนว Survival Horror แม้ว่าเกมนี้จะไม่ใช่เกมแรกของแนวนี้โดยมีรุ่นพี่อย่างเกม Sweet Home เกมสยองขวัญ RPG ที่วางขายเมื่อปี 1989 และ Alone in the Dark ที่เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งเป็นเกมแนว Survival Horror เช่นกัน เท่ากับว่าการมาของเกม Resident Evil ช่วยยกระดับเกมแนวนี้ให้กลายเป็นที่นิยม เกมในแนวเดียวกันที่ออกมาหลังจากนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีตามมาอย่างเกม Silent Hill ที่วางจำหน่ายในปี 1999 นั่นเอง ขณะที่ Resident Evil ก็มีภาคต่อตามมาเรื่อยๆ และที่สำคัญ มันคือแรงบันดาลใจให้เกิดซีรี่ส์เกม Onimusha ขึ้น จากความตั้งใจที่ทีมงานจะสร้างเกม Resident Evil ในธีมของซามูไร และกลายเป็นเกมทำเงินของ Capcom ไปอีกหนึ่ง

แม้กระทั่งระบบ Quicktime Event ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็มาจาก Resident Evil 4 นี่เอง

Dead Rising

งานนี้ Capcom ได้หน้าอีกแล้ว เพราะทีมงานนำโดย Keiji Inafune นำมาต่อยอดให้มันกลายเป็นเกม Open-world ซะ มีการปรับปรุงระบบให้ซอมบี้ฆ่าตายได้ง่ายๆ มีระบบสร้างอาวุธ หรือยกอาวุธจากข้างทาง มีระบบ Event เป็นรอบวัน ระบบเครื่องแต่งกายที่หยิบเอาจากร้านค้ามาใส่ได้ง่ายๆ พร้อมระบบ Co-op สุดมัน แม้เนื้อเรื่องจะอยู่แต่ในตึก หรือในห้างภาคแรกๆ ก็ไม่ทำให้เกมดูจำกัด มันให้ความอิสระมากที่สุดในเกมซอมบี้ในยุคนั้น โดยเกมเริ่มวางจำหน่ายในปี 2006 โดยภาคที่ดูจะเป็นกระแสมากที่สุดในบ้านเราก็คือภาค Dead Rising 2 ที่ลงให้กับ PC เป็นครั้งแรก ที่นอกจากจะเป็นเกมล่าซอมบี้ที่สะใจมากๆแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องที่สะเทือนใจใช้ได้ ด้วยความที่เกมประสบความสำเร็จมหาศาล ภาค 3 และ 4 จึงได้ไปต่อ และมันก็จบอยู่แค่นั้นเพราะภาค 4 นี่แหละถือว่าห่วยที่สุดของซีรี่ส์ซะอย่างนั้น แต่ด้วยความที่มันประสบความสำเร็จ ก็เลยมีเกมอื่นๆ วางขายตามกันมา เช่น Dead Island, Dying Light และ State of Decay ที่ทั้งสองเกมมีระบบเควสและระบบผู้รอดชีวิตไม่ต่างจากเกมรุ่นพี่ และยังทำเงินอีกเป็นกอบเป็นกำ หรือเกม Zombi ของ Ubisoft ที่เน้นความน่ากลัวมากกว่าเกมอื่นๆ

Left 4 Dead

จุดเริ่มต้นของเกมยิง Co-op ทำตาม Objective ทั้งหมดทั้งปวง ให้เอามาเล่นตอนนี้ก็ยังสนุกอยู่

เกมนี้วางจำหน่ายครั้งแรกโดย Valve ในปี 2008 และกลายเป็นหนึ่งในเกมยิงซอมบี้ที่ประสบความสำเร็จที่สุด รูปแบบของเกมนี้คือการเดินยิงซอมบี้ด้วยอาวุธครบมือไปกับเพื่อนๆ และไปให้ถึงเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็มี Objective ที่ต้องทำเพื่อผ่านด่าน แถมยังต้องระวังซอมบี้ตัวประหลาด ที่มีความสามารถพิเศษต่างๆ เกมนี้นี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเกมแนว Co-op อื่นๆ ถึงแม้เกมนั้นจะไม่ได้ยิงซอมบี้ก็ตาม เช่น Payday ก็เป็นโจรปล้นธนาคาร, Killing Floor ก็เป็นเกมยิงสัตว์ประหลาดที่เน้นทีมเวิร์คแบบสุดๆ และ Warhammer: Vermintide ที่อยู่ในโลกของ Warhammer และสู้กับกองทัพหนูปีศาจแทน โดยเกมเหล่านี้ก็ประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อกันทุกเกม แม้กระทั่งตอนนี้ก็มีเกมอย่าง Earthfall ที่เป็นเกมยิงเอเลี่ยนสุดมันวางขายไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์นี้เอง

DayZ

บรรพบุรุษของเกม Survival บน Early Access ทั้งมวล

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเกมนี้แน่นอน เป็นเกมที่ถูกต่อยอดมาจาก Mod ในเกม Arma 2 และถูกยกให้เป็นเกมเอาตัวรอดที่สมจริงที่สุด มีระบบความหิว ความบาดเจ็บ ความเหนื่อยล้าต่างๆ ระบบช่องเก็บของที่ละเอียดสมจริง และสิ่งน่ากลัวที่สุดไม่ใช่ซอมบี้ แต่เป็นคนด้วยกันเอง!

การมาของเกมนี้ ทำให้บรรดาสตูดิโอน้อยใหญ่หันมาเกมแนวเดียวกันให้พรึบ และที่สำคัญ เกมนี้เป็นเกมแรกๆ ที่มาในรูปแบบของ Early Access หรือเกมในระหว่างพัฒนา ก็หมายความว่าเกมนี้มันยังไม่เสร็จดีนั่นเอง มีหลายเกมที่ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาถัดมามากมายเช่น H1Z1, Rust, 7 Days to Die, The Forest, Project Zomboid หรือแม้กระทั่งเกมแนว Battle Royale แห่งยุคอย่าง PUBG ก็มีระบบที่คล้ายกันกับ DayZ แต่ตัดซอมบี้ออก และเน้นการสู้กันเองของผู้เล่นพร้อมวงมรณะ

แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจ เกมที่กล่าวมานี้ หลายเกมกลายเป็นเกมเต็มแล้ว แต่เจ้า DayZ มันยังไม่เสร็จเลยครับคุณ

มีหลายครั้งมากที่เกมซอมบี้ช่วยสร้างปรากฏการณ์ และเทรนด์ใหม่ๆ ให้กับผู้พัฒนาเกมได้นำไปปรับใช้ในเกมของตน แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ เกมแนวซอมบี้ จะไม่มีวันตายไปง่ายๆ แน่นอน