BY Aisoon Srikum
16 Jun 25 11:38 am

10 ความยับของ MindsEye ที่ชี้ให้เห็นชัดว่านี่คือเกมที่ “สร้างไม่เสร็จ”

1,740 Views

ถึงเวลานี้ ไม่ต้องบอกก็คงเดากันได้ว่า MindsEye น่าจะเข้าไปอยู่ในทำเนียบเกมแป้กแห่งปีเป็นแน่แท้ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ถ้าหากพิจารณาดี ๆ จะเห็นว่านี่คือเกมที่ทำไม่เสร็จแบบแน่นอน 100% และทั้งหมดนี้คือความแปลกของ MindsEye ที่เราเจอมากับตัวเอง และตั้งคำถามอยู่หลายครั้งว่า “เกมนี้ทำไปเพื่อ?”

ทั้งหมดที่ถูกเขียนขึ้นในบทความนี้ ผู้เขียนเล่นจริง เจอจริง แคปด้วยตัวเองจริง

1. เอะอะก็ขับรถ

หนึ่งในความย่ำแย่แรกของเกมนี้คือดีไซน์ภารกิจที่น่าเบื่อมาก ต้องใช้คำว่าทีมพัฒนาคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ เพราะในทุกภารกิจจะมีรูปแบบที่เหมือนกันตั้งแต่ต้นยันจบ ก็คือ “ขับรถ” และมีเกมเพลย์ส่วนของแอ็คชันยิงกันอยู่บ้าง แต่จะไม่มากเท่ากับการขับรถ ไม่ว่าภารกิจคุณจะต้องทำอะไร คุณก็จะต้องขับรถ หรือยานพาหนะเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นคือระยะทางที่ต้องขับมันไกลเอาซะมาก ๆ ไกลจนพอจะจับสังเกตได้เลยว่า เหมือนเขาอยากให้เราอยู่แต่บนรถ บนยานพาหนะเท่านั้น ห้ามทำอย่างอื่น บางภารกิจมีการบีบเราด้วยเวลาอีกต่างหาก หากคุณชอบเกมแนวขับรถ ในเกมนี้คุณอาจจะได้ขับจนเบื่อหรือเกลียดมันไปเลยก็ได้

2. เอะอะก็ยิงกัน

และเมื่อขับรถถึงที่หมาย จุดหมายของภารกิจจะมีอะไรมากไปกว่าการยิงกันล่ะ คำตอบก็คือไม่มีเลย ตลอดทั้งเกม ภารกิจหลัก ภารกิจรอง หรือแม้แต่อีเวนท์เสริม คุณจะทำได้แค่ ยิง ยิง และก็ยิงเท่านั้น ไม่มีการลอบเร้น ไม่มีการต่อสู้รูปแบบอื่น เมื่อใดที่เกมสั่งให้เราสู้ คือยิงเท่านั้น

3. อยู่ใกล้กันแค่ไหนก็ต้องใช้ปืนยิง เพราะเกมไม่มีการสู้ระยะประชิด

เป็นเกมแอ็คชันที่หน้ามึนที่สุดสำหรับปีนี้ ไม่มีการต่อสู้ระยะประชิด ไม่มีอุปกรณ์อื่นให้ใช้ ทั้ง ๆ ที่ Redrock City ฉากหลังของเกมนี้ คือเมืองยุคไฮเทคที่มีวิวัฒนาการถึงขั้นมนุษย์กับหุ่นยนต์สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้ แต่ตลอดระยะเวลาการเล่น ระบบการต่อสู้จะเป็นแบบ Cover Base Shooter หลบยิงหลังที่กำบังตลอด และศัตรูจะต้องพยายามเดินเข้ามาหาเราให้ยิงง่าย ๆ และถึงแม้จะเข้าประชิดตัว แต่เราก็ไม่สามารถจะโจมตีประชิดได้เลย

4. อาวุธมากมาย ความหมายเท่าเดิม

หากยังปวดหัวไม่พอ แม้เกมนี้จะมีอาวุธมากมายหลากหลายแบบให้เราได้เลือกใช้งาน แต่จริง ๆ แล้วมันแทบไม่มีความหมาย อาวุธที่ต่างกัน มีผลแค่ Fire Rate หรืออัตราลั่นกระสุนเท่านั้น ดาเมจอาจจะมีบ้าง หากยิงเข้าตัว แต่ถ้ายิงเข้าหัวได้ ก็จะสามารถเก็บศัตรูได้ในนัดเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับความแม่นในการใช้อาวุธของผู้เล่น แม่นแค่ไหนก็จัดการได้มากเท่านั้น หากคุณเก่งพอ ปืนพกเริ่มต้นกระบอกเดียว เอาอยู่ทั้งเกม และเกมนี้ก็ไม่มีการอัปเกรดอะไรอยู่แล้วด้วย นอกจากนั้นปืนเริ่มต้นของเรายังมีกระสุนไม่จำกัดอีกต่างหาก

5. เส้นไกด์ภารกิจตามใจผู้พัฒนา

อีกหนึ่งความน่ารำคาญ และไม่รู้ว่าทีมงานทดสอบกันบ้างไหมก่อนปล่อยเกมออกมา คือเรื่องของเส้นไกด์ภารกิจที่บางทีก็ขึ้น บางทีก็ไม่ขึ้น ส่วนใหญ่แล้วการที่เส้นไกด์ภารกิจไม่ขึ้นนั้น จะเป็นช่วงที่เราเดินเท้าอยู่ แถมมินิแมปในเกมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันจะมาร์คตำแหน่งให้แบบไกล ๆ พร้อมบอกระยะทางเท่านั้น นอกนั้นคือหาทางไปเอง เรียกได้ว่าเป็นระบบไกด์ตามใจผู้พัฒนา อยากมีก็มี ไม่อยากมีก็โยนให้ผู้เล่นหาทางไปเอง

6. นี่คือเกมเส้นตรงที่มีแผนที่กว้างเฉย ๆ

“เกมเส้นตรงในโลกเปิดกว้าง” นี่คือคำนิยามที่น่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดหลังจากเราได้ลองเล่นกันไป แม้เกมจะทำตัวเมืองได้สวยงาม มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ทั้งตัวอาคาร พื้นที่ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ แต่มันจะกลายเป็นสวยแต่รูปและไร้ค่าทันทีที่รู้ว่าเกมนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ที่แปลว่าทำไม่ได้ซักอย่าง

ในระหว่างภารกิจ คุณไม่สามารถลงจากรถได้ด้วยซ้ำ หรือแม้ว่าจะมีบางช่วงที่คุณสามารถลงจากรถมาเดินเล่นในเมืองได้ แต่จะลงมาทำไมในเมื่อมันไม่มีอะไรให้คุณทำ การควักอาวุธออกมายิงชาวเมืองก็ไม่มีตำรวจมาไล่จับคุณ เต็มที่ก็มีแค่ชาวเมืองป่าเถื่อนที่หยิบอาวุธมายิงสวนคุณเท่านั้น ไม่มี Collectible ให้เก็บ ไม่มีจุดสำคัญให้แวะ ไม่มีอะไรที่คุณทำได้ในเมือง Redrock City แห่งนี้เลยแม้แต่น้อย

7. เล่าย้อนอดีตแบบไร้เหตุผล

หนึ่งในส่วนที่ไร้เหตุผลที่สุดในเกมนี้ คือมินิเกมที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบประตูพอร์ทัล ที่จะพาเราย้อนอดีตของ Jacob Diaz สมัยที่ยังเป็นทหารรับจ้าง ประเด็นคือมันอยากมีมันก็มีเลย ไม่มีการปูพื้นปูพรมใด ๆ แถมไม่มีผลกระทบกับการเล่าเรื่อง หรือเนื้อเรื่องในปัจจุบัน เหมือนอยากเล่าก็เล่า การเล่าย้อนอดีตยังเป็น Side Mission ที่แทบไม่ได้คิดอะไรมาเลย โยนผู้เล่นเข้าไปกลางดงศัตรู หาทางฝ่าออกมา = จบแล้ว ยังไม่วายมีการเก็บสถิติไว้อวดผู้เล่นอื่นแบบออนไลน์ด้วย คือพยายามจะเชื่อมเนื้อเรื่องกับโหมดออนไลน์ให้ได้ซะอย่างนั้น

8. หน้าเมนูตัวเกมที่ไม่เหมือนใคร (และไม่น่ามีใครเหมือน)

หน้าตาเมนูเกมไหนที่ว่าแย่ อาจต้องดูเกมนี้เป็นแรงบันดาลใจ นี่เป็นเกมที่ตัวผู้เขียนใช้เวลาสักพักกว่าจะหาเมนู New Game เจอ เพราะมันมาแยกกับเมนู Manage Save Slot ที่ไม่รู้จะทำให้มันยุ่งยากไปทำไม แถมการจัดหน้าเมนูของเกมนี้ จะเรียกว่าพื้นฐานจนเข้าขั้นตกยุคเลยก็ได้ มีให้ชมนิดหน่อยคือการลำดับหมวดหมู่ภารกิจ Story ให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น แต่มันก็เท่านั้น ถ้าผู้เล่นไม่สามารถเข้าใจหน้าเมนูได้ในเวลาอันสั้น ถ้าไม่ตัวผู้ใช้งานที่งงเอง ก็แปลว่าการออกแบบมันไม่เวิร์ค แถมเกมนี้ยังชูจุดเด่นของคอนเทนต์แบบผิดวัตถุประสงค์ ผิดประเภทไปซะหมดอีกต่างหาก

9. โหมดครีเอเตอร์ที่ตั้งใจทำยิ่งกว่าเกมหลัก (แต่ทำมาเพื่อ?)

ดูเหมือนสตูดิโอผู้สร้างเขาอยากจะผลักดันระบบ Creator ของตัวเองมาก ถึงขั้นใส่ Official Mode เข้ามาให้เราได้ลองเล่นกันก่อนที่จะได้ไปสัมผัสในเกมจริงหรืออัปเดตในอนาคต คำถามคือ ทำมาทำไม และเล่นแล้วได้อะไร? นอกจากเกมเพลย์ที่ธรรมดาจนน่าเบื่อแล้ว ยกตัวอย่างเช่นโหมด Attack the Block ที่ตั้งชื่อซะเท่ แต่พอเล่นจริงก็คือโยนเราไปใส่ดงศัตรู ยิงให้หมด แล้วเดินหน้าต่อ ทำเวลาไปเรื่อย ๆ หรือโหมดแข่งรถที่ก็แค่ให้ขับรถไปตามจุดเช็คพอยท์เรื่อย ๆ เล่นจบแล้วไม่ได้มีรางวัลหรือความอยากเล่นซ้ำอะไรเลย

และโหมด Creator ที่ให้เราสร้างฉาก เสกฉากเองได้ ส่วนนี้แม้จะทำให้เรา Free Roam ได้มากกว่าเกมหลัก แต่มันก็เป็นเหมือนโหมดเอาไว้สร้างคอนเทนต์เท่านั้น ไม่ได้มีความน่าเล่นซ้ำ หรืออยากสร้างสรรค์อะไรมากเท่าใด และยิ่งไปกว่านั้น ใครไปเผลอเข้าโหมดนี้ อาจจะโดนสปอยล์ทั้งกระบุง เพราะไฟล์ออปเจกต์ต่าง ๆ ในเกม มันถูกยัดรวมมาไว้ในโหมดนี้ทั้งหมดแล้ว

10. เกมเพลย์แบบ WTF

สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นก็ได้เห็น กับเกมเพลย์ที่อยู่ดี ๆ ก็มาแบบเหลือเชื่อ อย่างเช่นช่วงต้นเกมที่ NPC สำคัญของเนื้อเรื่องโดนอุบัติเหตุลอบวางระเบิดจนบาดเจ็บสาหัส จากเกมที่เป็นแค่เกมแอ็คชัน เกมยิง อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเกมกดตัวโน้ตคล้ายเกมดนตรีแบบ Rhythm แถมด้วยลากเมาส์ตามคลื่น เพื่อพยายามช่วยคน แต่แทนที่มันจะสนุก ลุ้นระทึก ในหัวผู้เล่นตอนนั้นกลับกลายเป็นมึน

ทั้งหมดท่ีว่ามานี้ เกิดขึ้นกับเกมที่ชื่อ MindsEye เกมที่ขายถึง 60$ (โซนต่างประเทศ) และเป็นเกมที่กำกับโดย Leslie Benzies ผู้ให้กำเนิด GTA ที่ไม่น่าเชื่อว่าเกมมันจะอาการหนักขนาดนี้ เอาเป็นว่าใครคิดจะซื้อเกมนี้ เราขอแปะป้าย “ไม่แนะนำ” เอาไว้ตัวโต ๆ ดีกว่าซื้อไปแล้วจะเสียใจในภายหลัง

Aisoon Srikum

Related posts

Read More
Back to top