Silent Hill f : บ้านที่หลอนที่สุดคือ “บ้านในใจเราเอง”
“บ้าน” เป็นสถานที่ซึ่งทุกคนควรจะรู้สึก “ปลอดภัย” แต่ในขณะที่หลายคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและรู้สึกปลอดภัยภายในกำแพงบ้านของตนเอง กลับกันเองก็มีอีกหลายคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการใช้ชีวิตในบ้านของตัวเอง เป็นการใช้ชีวิตที่เหมือนติดอยู่ในนรก
Silent Hill f หยิบยกนำเสนอความทนทุกข์ภายในบ้านผ่านสายตาของ “ผู้หญิง”
เพศหญิงถูกหล่อหลอมตัวตนขึ้นมาโดยมีความเป็นบ้านและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง บ้านเป็นที่ที่เธอต้องดูแล รักษา และคอยทำให้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นความสะอาดเรียบร้อยที่เห็นได้จากสายตาภายนอกไปจนถึงความเรียบร้อยภายในอันคือความสัมพันธ์ของเหล่าผู้คนภายในบ้าน
แม้บ้านจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องมี แต่ผู้หญิงกลับถูกคาดหวังให้เป็น “เทวดาของบ้าน” อย่างเลี่ยงไม่ได้ บางคนถูกกักขังไว้ในความเป็น “บ้าน” โดยพ่อหรือสามี นั่นทำให้สำหรับผู้หญิงบางคน บ้านอาจกลายเป็นคุกนั่นเอง
ย้อนเวลากลับไปตอน Silent Hill ภาคแรก ที่เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Harry Mason ตัวเอกซึ่งแท้จริงเป็นคนนอกที่หลงเข้ามาในเมือง เขาเพียงต้องการตามหาลูกสาวที่หายไป แต่สุดท้ายก็พบว่าลูกสาวของตนมีสายสัมพันธ์บางอย่างอยู่กับเมืองนี้ เมืองที่เรียกตัวให้เธอกลับมายัง “บ้าน”
ในซีรีส์ Silent Hill ตัวเอกชายมักเป็นคนแปลกหน้าที่ถูก “หญิงสาวจาก Silent Hill” ดึงดูดให้ต้องเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ ขณะที่ตัวละครหญิงส่วนใหญ่มีสัมพันธ์บางอย่างกับ Silent Hill พูดในอีกมุม Silent Hill ก็เหมือนเป็นบ้านของพวกเธอ

“บ้าน” จึงฝังอยู่ในซีรีส์ Silent Hill มาเสมอทั้งในเชิงสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ การหมุนเวียน และพันธนาการของความทรงจำที่ผูกติดกับพื้นที่ที่เราคุ้นเคย
ภาคที่พูดถึงประเด็นนี้ชัดที่สุดก่อนหน้า Silent Hill f คือ Silent Hill 3 ซึ่งผู้เล่นได้รับบทเป็น Heather Mason ลูกสาวของ Harry ที่โตขึ้น แม้เธอจะไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเมือง Silent Hill แต่สุดท้ายตัวเมืองก็เดินทางมารับเธอ “กลับบ้าน” ในที่สุด
แม้แต่ Silent Hill 2 ก็ยังสะท้อนความหมายของ “บ้าน” ผ่านความสัมพันธ์ของ James กับภรรยา Mary บ้านที่เคยเป็นที่พักกลับกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้ James รู้สึกถูกกักขัง ในบทบาทของการต้องเป็นผู้ดูแลภรรยา
จนความเกลียดชังและความรู้สึกไร้ค่านำไปสู่การฆาตกรรม ความตายของ Mary จึงเป็นการ “ทำลายบ้าน” ที่ James รู้สึกว่าตนเองถูกขังเอาไว้
ส่วน Silent Hill 4: The Room แม้จะเปลี่ยนตัวเอกเป็นชายหนุ่มชื่อ Henry Townshend ที่ติดอยู่ในห้องในอพาร์ตเมนต์ แต่เนื้อหาหลักของเกมก็ยังเกี่ยวข้องกับ “ความเป็นหญิง” และ “บ้าน” ได้อย่างน่ากลัว ตัวร้ายของเรื่อง Walter Sullivan หมกมุ่นกับห้อง จนถึงขั้นเรียกมันว่า “แม่” และเชื่อว่าหากทำพิธีบูชายัญ เขาจะได้เกิดใหม่ ห้องพักธรรมดาจึงกลายเป็น “มารดา” เป็นบ้านที่ให้ชีวิตและกลืนกินชีวิตในเวลาเดียวกัน
และใน Silent Hill f เรื่องราวนรกในบ้านก็ยิ่งเด่นชัดมากกว่าเดิม

เรื่องราวของนางเอก Hinako Shimizu เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ บ้านเกิดของเธอ เรียกได้ว่าไม่ต้องเดินทางไปที่ไหน เพราะ “Silent Hill” หรือนรกของเธอก็คือหมู่บ้านที่เธอเติบโตมานั่นเอง
เรื่องราวในเกมนั้นเกิดขึ้นในพื้นที่ที่เธอคุ้นเคย เป็นบ้าน เป็นโรงเรียน เป็นถนนที่เคยเดินผ่าน แต่กลับเต็มไปด้วยภาพหลอนและความทรงจำที่บิดเบี้ยว ในทุกการเล่นแต่ละรอบในเกมวนเวียนอยู่กับความรู้สึกในการพยายามหนีจากบ้านหรือหวนคืนกลับสู่บ้าน
เมื่อ Hinako กลับบ้านในครั้งแรก บ้านของเธอกลับกลายเป็นเขาวงกตซ้ำซ้อน จิตใจเธอถูกกักขังเอาไว้ที่นี่ สถานที่ซึ่งเธอรู้สึกว่าเธอไม่มีวันไหนไปไหนได้สำเร็จ
แต่การหนีจากบ้านในเรื่องราวของเกมก็ไม่ใช่การหลุดพ้น การออกจากบ้านของเธอคือการแลกเปลี่ยนจากคุกแห่งหนึ่งไปยังคุกแห่งใหม่
พิธีกรรมกรรมลึกลับโดย “หน้ากากจิ้งจอก” Hinako ต้องผ่านพิธีแต่งงานเหนือธรรมชาติที่ค่อย ๆ ลบเลือนตัวตนเดิมของเธอ แขนขาถูกตัด ใบหน้าถูกลอก และชื่อสกุลเดิมก็ถูกลืมเลือน
และในตอนสุดท้าย เมื่อเธอกลับบ้านในร่างเจ้าสาวปีศาจที่มีมือยักษ์สองข้าง พ่อผู้ร้องไห้ขอร้องไม่ให้เธอกลับเข้ามาอีก ชุดเจ้าสาวคือสัญลักษณ์ของการตัดขาดจากบ้าน

ตั้งแต่ต้นจนจบความสัมพันธ์ของ Hinako กับ “บ้าน” คือการต่อสู้ระหว่างความรักกับความเจ็บปวด บ้านคือที่ที่มีพี่สาวที่เธอรัก แต่ก็เป็นที่ที่พ่อใช้ความรุนแรง และแม่ที่ทำเพียงก้มหน้ายอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่เปิดปาก
“บ้าน” ที่ควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัย กลายเป็นสถานที่ที่สะท้อนความทรงจำ ความกลัว เป็นความสยองอันไร้สิ้นสุดและไร้ซึ่งทางหนี
เมื่อถึงฉากจบแรกของเกม โลกในฝันและความจริงผสานกัน Hinako ติดอยู่ในเมืองหมอกและถูกกลืนกิน กวัดแกว่งแป็บเหล็กพร้อมกล่องยา เป็นหญิงสาวที่ต่อสู้กับอดีตที่เธอไม่อาจลืม
แม้ร่างจริงของเธอจะยังมีชีวิตอยู่ แต่จิตใจของเธอติดอยู่ใน “บ้านแห่งฝันร้าย” ไปตลอดกาล
Silent Hill คือการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราไม่กล้ามองตรง ๆ ทั้งความเศร้า ความผิด และ “บ้าน” ที่เราเติบโตมา
เพราะไม่ว่าเราจะหนีไปไกลแค่ไหน เราทุกคนก็ยังต้องกลับไปเผชิญหน้ากับที่ที่เราเริ่มต้นอีกครั้ง
สำหรับหลายคนบ้านอาจเป็นสถานที่แห่งความรักหรือความปลอดภัย แต่สำหรับอีกหลายคนบ้านก็คือ “นรก” ที่สร้างบาดแผลซึ่งเราต้องแบกรับไปตลอดชีวิตนั่นเอง











