BY Nuttawut Apiratwarakul
8 Jun 25 3:34 pm

เล่นแล้วมาเล่า – SHINOBI: Art of Vengeance

29 Views

ย้อนกลับไปในยุค 16-bit ซีรีส์ Shinobi ของ SEGA คือเกมแอ็กชันระดับตำนานที่โดดเด่นด้วยการเล่นแบบ Side-Scroll ที่ต้องอาศัยความแม่นยำและการอ่านเกมที่เฉียบคม และในปี 2025 นี้ SEGA ตัดสินใจปลุกชีพแฟรนไชส์นี้ขึ้นมาอีกครั้งในชื่อ SHINOBI: Art of Vengeance โดยร่วมมือกับ LizardCube ผู้พัฒนา Wonder Boy: The Dragon’s Trap และ Streets of Rage 4 นำเสนอในรูปแบบ เกมแอ็กชัน 2D วาดมือทุกเฟรม ที่ยังคงรักษาแก่นแท้ของต้นฉบับไว้อย่างแน่นหนา

ตัวเกมเวอร์ชันทดลองที่ได้เล่นประกอบด้วย 2 แผนที่ โดยเริ่มจากโหมดฝึกพื้นฐานในหมู่บ้าน Oboro ที่ตัวเอก Joe Musashi กลับมาเจอกับโศกนาฏกรรมบ้านเกิดถูกทำลาย เราจะได้เรียนรู้ระบบพื้นฐานอย่างการโจมตี การหลบหลีก การวางคอมโบ การใช้ Kunai และระบบ Execution ที่ต้องเก็บเกจจากการโจมตีต่อเนื่องก่อนจะปลดปล่อยท่าไม้ตาย ยิ่งเล่นยิ่งรู้สึกว่าระบบต่อสู้ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองแม่นยำและมีจังหวะเฉพาะที่สร้างความเร้าใจให้กับเราได้ตลอดเวลา

ในแผนที่ที่สอง เกมเริ่มเปิดพื้นที่ให้ใช้ระบบต่างๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Ninja Flip, Dash Cancel, การจัดจังหวะคอมโบแบบต่อเนื่อง และการใช้ Ninpo หรือ Ninjutsu ที่ต้องบริหารจัดการพลังงานให้ดี ความรู้สึกการต่อสู้ออกมาได้อย่างไหลลื่นแต่ดุดัน ทำให้รู้สึกได้ทันทีว่าเกมนี้เน้นความเป็นเกมแอ็กชันที่จริงจังและท้าทาย ผู้เล่นสายมือไวชอบการคอมโบมันส์ๆ หลบแบบรวดเร็ว ส่วนสายกลยุทธ์ก็มีลูกเล่นให้คิดวางแผนเพียบ

ระบบฉากและการสำรวจถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของเวอร์ชันที่ได้ทดลอง ด้วยองค์ประกอบอย่าง Wall-Climb, Double Jump, และการปลดล็อกเส้นทางผ่าน “Yokai Barrier” ที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรือพลังเฉพาะตัวในการทำลาย เพิ่มมิติในการเล่นและกระตุ้นให้อยากสำรวจแผนที่มากขึ้นเพื่อให้ได้รับรางวัลในการพัฒนาตัวละครมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีของสะสมอย่าง Amulet, Kunai พิเศษ, และไอเทมอื่นๆ ที่มีผลต่อการเล่นในรอบถัดไป

ด้านภาพและงานศิลป์ เกมนี้ใช้เทคนิควาดมือแบบเฟรมต่อเฟรม ทำให้การเคลื่อนไหวของตัวละครและศัตรูดูเป็นธรรมชาติ และเต็มไปด้วยรายละเอียด เอฟเฟกต์ต่าง ๆ เช่นการใช้ Ninpo หรือการปลดปล่อยพลังพิเศษก็จัดเต็มทั้งแสง สี แรงกระแทกตา ทุกฉากถูกออกแบบด้วยฉากหลังแบบมีเลเยอร์ สร้างความรู้สึกเหมือนดูแอนิเมชันที่มีชีวิต ไม่ใช่แค่การวางฉากหลังนิ่งๆ แบบในอดีตอีกต่อไป ตัวเกมสามารถเลือกระดับความยากได้ โดยที่เราได้ลองจะเป็นระดับ Normal ศัตรูจัดอยู่ในระดับที่กำลังสู้สนุก มีความท้าทายไม่น่าเบื่อ แม้ว่าจะเป็นศัตรูธรรมดาๆตามฉากถ้าประมาทก็สามารถทำให้เราตายได้แบบง่ายๆเลย

สุดท้าย SEGA ได้ประกาศว่าเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 29 สิงหาคม 2025 บน PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ PC (Steam) ตัวเกมจะรองรับ เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ พร้อมเพลงประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวญี่ปุ่นดั้งเดิม สำหรับแฟนเกม Shinobi รวมถึงใครที่หลงรักเกมแอ็กชัน 2D สุดมัน เตรียมนับถอยหลังให้ดี เพราะตำนานนินจากำลังจะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ

 

SHARE

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top