BY Aisoon Srikum
15 May 24 12:54 pm

เล่นแล้วมาเล่า – Dungeons of Hinterberg

1,901 Views

เรื่องราวของ Dungeons of Hinterberg มีฉากหลังคือ Hinterberg แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ในเทือกเขาแอลป์ ประเทศออสเตรีย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Luisa ผู้ฝึกสอนด้านกฎหมายที่เหนื่อยหน่ายกับชีวิตการทำงาน เธอจึงมาที่นี่ เพื่อต่อสู้และพิชิตดันเจี้ยนหลายแห่งที่เกิดขึ้นในโซนนี้

ถ้าฟังแล้วดูงง ๆ และเกิดคำถาม ข้อสงสัยมากมายว่าไหงเทือกเขาแอลป์ถึงมีดันเจี้ยน มีการท่องเที่ยวเกิดขึ้นได้ อันนี้จากที่ผมนั่งอ่านเนื้อเรื่องมาประมาณนึง ถ้ายกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ มันน่าจะเป็นบรรยากาศแบบเดียวกับ Solo Leveling เลย พวกดันเจี้ยนต่าง ๆ ก็คือเกท ส่วนคนที่เข้าไปล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนก็เหมือนกับฮันเตอร์ แต่ในเกมนี้จะถูกเรียกว่า Slayer แทน เพียงแต่สเกลในเกมนี้มันอยู่แค่ในเทือกเขาแอลป์ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกแบบ Solo Leveling และนี่เป็นประสบการณ์จากการเล่นช่วง Playtest ของเรา ตัวเกมมีความยาวเพียง 1 ชั่วโมงก็จบช่วงทดลองเล่นแล้ว ดังนั้นอาจจะไม่ได้มีข้อมูลที่ยาวอะไรมากนัก

เอาที่โดดเด่นมาก ๆ ในส่วนแรกคืองานภาพกราฟิกที่สวยงามแบบการ์ตูนเลย รวมไปถึงบรรยากาศต่าง ๆ ที่เหมือนเราไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ และประชาชนทุกคนที่มาเที่ยวหรืออยู่ในเมืองนี้ ต่างก็รู้ดีว่าในเมืองนี้เต็มไปด้วยดันเจี้ยนมากมาย ทำให้มีธุรกิจและกิจการต่าง ๆ เช่นร้านขายน้ำยาโพชั่น หรือร้านอัปเกรดอุปกรณ์ เพื่อให้เหล่าสเลเยอร์ได้มาซื้อขาย อัปเกรดอุปกรณื หรือแม้แต่โรงแรมห้องพักที่มีทั้งคนทั่วไปและสเลเยอร์ได้เข้าพักด้วย เห็นแล้วก็อยากรู้เลยว่าเกมเต็ม โลกของ Dungeons of Hinterberg จะยังมีอะไรให้เราสำรวจหรือไปพบเจออีกบ้าง

เกมเพลย์จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่เราจะได้เดินผจญภัยไปในเมือง Hinterberg อันนี้จาก Demo ที่เราได้ลองเล่นกันมา มันยังไม่ได้เปิดกว้างหรือมีอะไรให้เราทำเยอะ ที่ต้องยอมรับเลยคือบรรยากาศในตัวเมืองที่ดีมาก ๆ และในช่วงท้าย Demo นั้น จะมีช่วงที่เราสามารถเลือกใช้เวลาไปกับใครก็ได้ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ อันนี้เดี๋ยวเอาไว้เล่าถึงในช่วงระบบเกมเพลย์กันอีกครั้ง และมันก็ไม่ใช่เมืองที่เราเดินไปเดินมาได้อย่างอิสระ มันเป็นเหมือนพื้นที่ Open Zone ที่พอเราจะย้ายไปส่วนอื่น ๆ ของเมือง จะติดกำแพงอากาศ ต้องกดยืนยัน แล้วมันจะโหลดเข้าฉากต่อไปให้ ส่วนตัวคืออยากเห็นเกมเต็มของเกมนี้เลยว่า เมือง Hinterberg จริง ๆ จะสวยแค่ไหน

ตัดมาอยู่ที่ระบบการต่อสู้ของเกมนี้กันบ้าง ใครที่คิดว่ามันจะเป็นเกม Action ลงดันเจี้ยนมัน ๆ คุณอาจจะคิดผิด เกมนี้มันเป็นลูกผสมระหว่าง Action และ Puzzle แต่ในช่วงทดสอบนี้ จะเห็นถึงส่วนของ Puzzle จะเป็นส่วนมาก ใครที่เคยเล่นเกมแอ็คชั่นด้วยจอยคอนโทรลเลอร์มาก่อน จับเกมนี้ก็น่าจะเล่นเป็นหมดเลย ตีหนัก ตีเบา กลิ้งหลบ ใช้ยา เหมือนกันเป๊ะ แต่การต่อสู้ของเกมนี้จะไม่ได้ยากอย่างที่คิด แถมเล่นไปแล้วจะมีการปลดล็อคสกิลเวทไว้ให้ใช้งานเพิ่มด้วย โดยสกิลเวททั้งหลายยังใช้ในการเปิดเส้นทางไปต่อ เช่น ทางไปต่อเราโดนหินบังอยู่ ก็ใช้สกิลเวททำให้มันระเบิดออกเพื่อเปิดเส้นทาง เป็นต้น ภายในดันเจี้ยนบางแห่งก็จะมีรถราง ที่เราจะต้องไขปริศนา สับรางให้ถูก ถึงจะเปิดทางไปต่อได้ คือในแง่ความเป็นเกมแอ็คชั่นมันก็พอจะมีบ้าง แต่ถ้าเทียบกับ Puzzle แล้ว อย่างหลังจะเยอะกว่ามาก

เกมนี้มีระบบอุปกรณ์ให้เราติดตั้งและสวมใส่ จากที่ดูมาก็จะมีทั้งอาวุธ ชุดเกราะ เสื้อผ้าที่ใส่ ที่น่าจะบวกค่าสเตตัสต่าง ๆ ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น และตัวละครยังมีทั้งค่าความผ่อนคลาย ค่าชื่อเสียง ค่าความสัมพันธ์ อะ เสริมอีกนิดนึง เกมนี้จะมีระบบช่วงเวลาต่าง ๆ ของตัวเกม เช้า สาย บ่าย เย็น เราเลือกได้ว่าในแต่ละช่วงเวลาเราจะไปทำอะไร เช่นช่วงเช้า อาจจะไปลงดันเจี้ยน เก็บเลเวล หาของ ช่วงบ่ายก็หา NPC สักตัว ไปใช้เวลาร่วมกัน พูดคุย สานสัมพันธ์ การสานสัมพันธ์กับบางตัวละคร จะทำให้เลเวลความสัมพันธ์อัปเกรด และได้รับบัฟต่าง ๆ เช่น Albert ที่หากพัฒนาความสัมพันธ์จนถึงระดับ 1 จะขยายหลอด MP ขึ้น เป็นต้น และน่าจะมีอีกหลายคนที่ให้ความสามารถเจ๋ง ๆ แบบนี้

น่าเสียดายที่ทั้งหมดที่เราได้เล่นในเกมนี้ มันเป็นเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า 1 ชั่วโมงนี้ ตัวเกม Dungeons of Hinterberg ถือว่านำเสนอประสบการณ์ช่วงต้นออกมาได้น่าประทับใจมาก ทีนี้ก็ต้องรอดูกันว่าในเกมเต็มจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน โดยตัวเกม มีแผนจะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2024 นี้

Aisoon Srikum

Back to top