หลังจากสร้างความประทับใจให้กับแฟนเกมมาแล้ว ในภาคแรก ตอนนี้ Pathea Games สตูดิโอพัฒนาเกมจากประเทศจีน ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมภาคต่อด้วยการพาเราย้ายไปยังสถานที่ใหม่ เมืองใหม่ และพบปะผู้คนกลุ่มใหม่ ๆ และแม้จะยังเป็นช่วง Early Access แต่ตัวเกมถือว่ามอบคอนเทนต์และประสบการณ์ชวนติดพันให้กับผู้เล่นได้อย่างไม่น้อยหน้าเกมอื่น ๆ แต่มันจะคุ้มค่าพอกับการเสียเงินมาลองเล่นหรือไม่ มาดูกันใน My Time at Sandrock
Story
สำหรับใครที่เพิ่งมาตาม หรือรู้จักซีรีส์นี้ อาจจะคิดว่า นี่เป็นเกมแนว Life Simulator ปลูกผัก ทำฟาร์มทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ว เกมนี้มีเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม (หากคุณสนใจ) มาตั้งแต่ภาคแรก My Time at Portia แล้ว โดยเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างคล้ายกับเกมอย่าง Horizon Zero Dawn เมื่อโลกปัจจุบันที่มนุษย์เคยอยู่นั้น ล่มสลายไปแล้วจากวิกฤติการณ์บางอย่าง ที่เราแนะนำว่าลองไปหาเนื้อเรื่องอ่านดูแทน เพราะยาวมาก และเมื่อโลกกลับสู่ความสงบ เหล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินตลอดก็ขึ้นบนพื้นดินและเริ่มก่อตั้งอารยธรรมใหม่อีกครั้ง และในภาค Sandrock นี้ จะย้ายมายังพื้นที่ใหม่
Sandrock ตั้งอยู่ใน Martle’s Oasis ที่ก่อตั้งโดยนักเดินทางคาราวานที่ตัดสินใจลงหลักปักฐาน และขยับขยายพื้นที่ของ Sandrock ขึ้นมา แต่ใกล้ ๆ กันนี้ มันกลับเป็นซากมหานครที่ถูกฝังไว้ใต้ผืนทราบ ที่เป็นช่วงสงคราม Alliance ปะทะกับ Duvos ครั้งแรก ตัวละครของเราในฐานะเจ้าของเวิร์คช็อปคนใหม่ที่จะเข้ามาลงหลักปักฐานในเมือง Sandrock แห่งนี้ จะได้พบเจอกับเหล่าตัวละครมากหน้าหลายตา ทั้งสมาคมนักขุดเหมือง สมาคมนักล่า การมีอยู่ของจอมโจรปริศนา บอกได้เลยว่า นี่คือเกมแนว Life Simulation ที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามไม่แพ้เกมฟอร์มใหญ่เลยทีเดียว
แต่เรามักจะโดนดึงดูดใจด้วยคอนเทนต์ของเกมที่เพลิดเพลิน และมีอะไรให้ทำเยอะมาก ๆ แต่ถ้าใครไม่ Skip เนื้อเรื่อง คุณอาจจะได้พบเนื้อเรื่องชั้นดีจากเกมปลูกผักเบาสมองเกมนี้ก็เป็นได้
Presentation
เนื่องจากตัวเกมเป็นช่วง Early Access ดังนั้นคอนเทนต์ของเกมในเวอร์ชั่นนีจึงยังไม่ใช่เวอร์ชั่นเต็ม และตัวเกมมีลายน้ำพาดไว้ชัดเจนที่มุมขวาจอของเกมไว้ตลอดเวลา แต่ใครคิดว่ายังไม่คุ้มที่จะซื้อมาเล่นตอนนี้ คุณอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะเท่าที่มีอยู่ตอนนี้นั้นก็มากพอที่จะเล่นได้ยาว ๆ หลายสิบชั่วโมงแล้ว
ตัวเกมในตอนนี้เป็นเกมแบบ Single Player หรือเล่นได้คนเดียวเท่านั้น และขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องที่น่าสนใจที่บอกไว้ในช่วง Story แต่ในอนาคต ทีมงานยืนยันมาแล้วว่าในอนาคต จะเพิ่มระบบ Co-op และ Multiplayer เข้ามาเมื่อถึงเวลาแล้ว ดังนั้นตอนนี้เราก็ทำฟาร์ม ขยับขยายพื้นที่เวิร์คช็อปด้วยตัวคนเดียวกันไปก่อน เรื่องของกราฟิกนั้น ใครที่ชื่นชอบภาพแบบการ์ตูนจากภาคแรกก็น่าจะชื่นชอบภาคนี้ได้ไม่ยาก เพราะใช้กราฟิกที่ค่อนข้างคล้ายกัน แต่มีการอัปเกรดให้ดูสวยงามและมีความคมชัดมากขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่แอนิเมชั่นและท่าทางก็ลื่นไหลขึ้นกว่าภาคแรก และเกมไม่ได้มีแค่การปลูกผัก ทำฟาร์ม สร้างบ้านแต่เพียงเท่านั้น เพราะเกมยังใส่ระบบดันเจี้ยน และการต่อสู้เข้ามาไว้ในเกมด้วย ทำให้เราต้องขยันหาของมาคราฟท์ ทั้งสร้างอุปกรณ์ทำไร่ทำนา รวมไปถึงการต่อสู้ด้วย
และเป็นถึงเกมปลูกผักทำฟาร์ม สิ่งที่ต้องมาควบคู่กันเลยก็คือ ระบบการสานสัมพันธ์กับเหล่า NPC ทั้งหลาย ทุกครั้งที่เราได้ทำความรู้จัก หรือพูดคุยกับตัวละครใหม่ เราก็จะได้ข้อมูลของพวกเขาไว้ในสมุดบันทึก และสามารถไปมาหาสู่กัน และสานสัมพันธ์ได้อย่างต่อเนื่อง และแต่ละคนก็จะมีตารางประจำวันของชีวิตตัวเอง มีปฏิทินให้เราดูอีเวนท์สำคัญใน Sandrock และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเพยีงคอนเทนต์ในช่วง Early Access เท่านั้น คาดว่าหลังจากนี้จะมีอีกมากมายอัปเดตเข้ามาให้เราได้เล่นกัน โดยรวมของเกมนี้ เราสามารถเสียเวลากับมันได้ประมาณ 15-20 ชั่วโมงในตอนนี้ แต่ก็ถือว่ามากพอแล้ว สำหรับช่วง Early Access
ที่ไม่พูดถึงสักหน่อยเลยคงไม่ได้ เพราะเกมนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ชาวไทย ทำให้ภาคนี้มีการรองรับซับไตเติลภาษาไทยมาในตัวเองเลย และต้องขอบอกว่าแปลดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ปัญหาของมันไม่ได้อยู่ที่แปลดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้เป็นปัญหาในเรื่องของการแสดงผล ที่ฟอนต์กับตัวหนังสือชิดกัน และอยู๋ผิดที่ผิดทางจนอ่านแทบไม่ได้ กลับไปเล่นภาษาอังกฤษเอา อาจจะรู้เรื่องกว่า แต่มีชาวไทยได้ทำการม็อดแก้ไขไปบ้างแล้ว ก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะมีการแก้ไขในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร
Gameplay
สำหรับเกมนี้ หลัก ๆ แล้วจะเป็น Life Simulation ผสมผสานกับความเป็น Action Adventure ด้วย ผู้เล่นจะเริ่มด้วย บ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือน้อยมาก จากนั้นออกตามหาวัตถุดิบมาคราฟท์ของใหม่ ๆ ใช้ ช่วงแรกเกมเพลย์จะเป็นการตัดต้นไม้ ตีหิน เพื่อนำมันมาสร้างของเบื้องต้นเท่านั้น ก่อนที่สิ่งของเราจะเยอะขึ้น จนต้องบริหารจัดการ และดูดเวลาในชีวิตจริงเราอย่างหนัก
แต่สิ่งที่เป็นคอนเซปต์ของเกมนี้มาตั้งแต่ภาคแรกที่เรารู้กันดี เพราะหลายคนแซวเกมนี้ว่า เราจะได้กลายมาเป็น “ทาส” ของเหล่าชาวบ้านชาวเมืองในเกมนี้ ชนิดที่ว่าทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีหยุดหย่อน และชาวเมืองของเกมนี้ก็ยังคงคอนเซปต์ความ “ไม่ยอมทำอะไรเอง” เลยสักอย่าง เอะอะก็ใช้ผู้เล่น ชนิดที่ว่าจะฝนตก ฟ้าร้อง น้ำท่วม เวทีพัง พายุเข้า ก็มักจะเป็นหน้าที่ผู้เล่นเสมอ ที่จะต้องไปหาของ หาไอเทม หรือคอยช่วยเหลือ เกมเพลย์ในช่วงแรกจึงเป็นการวิ่งภารกิจไปมาจนแทบจะหมดเวลาไปกับการพูดคุย แต่ก็จะมีซีนแอ็คชั่นให้เราได้เล่นกันสนุก ๆ บ้าง
ตามธรรมเนียมของเกมแนว Farming Sim นั้น ผู้เล่นจะต้องมีค่า Energy เป็นตัวกำหนดสิ่งที่จะทำในแต่ละวัน แต่เกมนี้ไม่ได้ใจร้ายมากขนาดนั้น เพราะแม้ Energy ของเราจะหมดเร็ว แต่เวลาในแต่ละวันก็ผ่านไปเร็วมาก และเราสามารถอัปเกรดสกิลต่าง ๆ เพื่อขยายหลอด Stamina ให้ยาวขึ้น ทำอะไรได้มากขึ้นได้ในภายหลัง ประกอบกับที่ช่วงแรกเน้นพูดคุย วิ่งคุย ส่งของอยู่แล้ว Stamina เราแทบจะเหลือล้นด้วยซ้ำไป แม้จะมีความเป็น RPG แต่ก็ไม่หนักขนาดนั้น เพราะทุกการกระทำของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ การเก็บเกี่ยว การปลูกผลผลิต เราจะสามารถได้ค่า EXP จากมันทั้งหมด และเมื่อเลเวลอัป จะทำให้เราปลดล็อคสกิลใหม่ ๆ ได้ และมีค่าพลังเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนของการปลูกผัก ทำฟาร์ม เก็บเกี่ยว เราจะเริ่มกันที่เครื่องแปรรูป จากนั้นขยับขยายกิจการจนทำฟาร์ม ปลูกผัก สามารถนำเงิน หรือผลผลิตที่ได้มาจากการเก็บเกี่ยวไปขายต่อเพื่อนำเงินไปซื้อของใหม่ ๆ และสูตรการสร้างของใหม่ ๆ ด้วย จากนั้นเราจะค่อย ๆ ปลดดันเจี้ยน เหมืองแร่ ที่ภายในจะเพิ่มระบบการต่อสู้เข้าไปเหมือนกับภาคแรก ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ก็จะเป็นระบบการต่อสู้แบบเรียลไทม์เหมือนกับเกมแอ็คชั่นทั่วไป ทำให้มีความสนุกและความท้าทายในการเล่นอยู่บ้าง
ในช่วงแรกเราอาจจะยังไม่ต้องบริหารจัดการอะไรมากนัก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป มีอะไรให้ทำเยอะขึ้น ผู้เล่นจะต้องเลือกว่า ใน 1 วันนี้ จะเอาเวลาไปทำอะไรให้คุ้มที่สุด หาทรัพยากรประเภทไหนมาตุนไว้ที่บ้าน และเมื่อแปรรูปสำเร็จแล้ว จะเอามาขายต่อให้เหล่า NPC หรือเอามาคราฟท์ของที่ดีขึ้นให้กับเราเอง เพราะเกมนี้เวลาจะคราฟท์อะไรก็ตาม เวลาจะดำเนินไปตามเวลาจริง เช่น การแปรรูปทองแดงในเกม หากเราต้องใช้เวลา 15 นาที ก็เท่ากับ 15 นาทีในโลกแห่งความเป็นจริงของเรา ทำให้เกมนี้อาจจะดูดเวลามากยิ่งกว่าเกมอื่น ๆ ส่วนไอเทมไม่จำเป็นอิื่น ๆ ก็อาจจะนำไปขายทิ้ง หรือส่งมอบให้ NPC เพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็ย่อมได้
ใด ๆ ก็ตาม ทั้งหมดนี้ ยังคงเป็นส่วนของช่วง Early Access เพราะจากที่ดูหลาย ๆ อย่างในหลาย ๆ ส่วนของเกมแล้ว ยังมีคอนเทนต์อัปเดตอีกมากมายที่รอการใส่่เข้ามาเพิ่มเติม เพราะในภาคแรกนั้น กว่าจะอัปเดตเป็ฯเกมเต็ม ก็ยังต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป ภาคนี้เองก็คงจะไม่ต่างกัน แต่หากคุณเป็นคนชื่นชอบความเยอะ ความแน่นของคอนเทนต์เกมเพลย์ ยังไงเกมนี้ก็ตอบโจทย์คุณแน่นอน แม้จะอยู่ในช่วง Early Access ก็ตาม
Performance
เรียกได้ว่าเป็นปัญหาหนักที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนี้ Performance ที่เป็นปัญหาควบคู่กันกับเกม Early Access เกิดขึ้นค่อนข้างหนักกับเกมนี้ อย่างแรกเลยคือเรื่องของอาการหน่วงเพาะเฟรมเรทตก โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดพายุทราย ถือว่าร่วงไปพอสมควร ทำให้เล่นเกมได้ไม่ค่อยลื่นไหล โชคดีที่เกมนี้ไม่ค่อยมีระบบการต่อสู้ที่ต้องใช้ความราบรื่นของเฟรมเรทเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ การแก้ไขให้เกมลื่นที่สุดจะเป็นการดีกว่าอยู่แล้ว
และส่วนของบั๊กการแสดงผลภาษาที่เราพูดถึงในหมวด Presentation เอง ก็เป็นอุปสรรคสำหรับคนที่อยากจะเล่นภาษาไทยอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะมีม็อดมาช่วย แต่การอัปเดตแพทช์ต่อ ๆ ไปก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ก็ต้องรอการแก้ไขจากทีมงานพัฒนาโดยตรงเองอีกที ส่วนอื่น ๆ ของเกมนั้น อย่างเช่นบั๊ก ก็มีให้เห็นบ้างประปรายในฐานะเกม Early Access แต่ปัญหาใหญ่สุดคือการแสดงผลด้านภาษาและความแกว่งของเฟรมเรทในการเล่น แต่ส่วนนี้เราจะยังไม่สามารถตัดสินได้ เพราะต้องรอตัวเกมเวอร์ชั่นเต็มออกมาก่อน
My Time at Sandrock เป็นอีกเกมที่แฟนเกมแนว Life Sim ไม่ควรพลาด แม้จะอยู่ในช่วง Early Access แต่ความสนุกของมันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว และหากยึดหลักเกมภาคแรก หลังออกจาก Early Access แล้ว เกมจะขึ้นราคาด้วย ดังนั้นใครสนใจ จะซื้อดองไว้ก็ไม่ว่า หรือใครอยากจะรอเกมเต็มเลย ก็ทำได้เช่นกัน