BY KKMTC
24 Jul 18 5:24 pm

ย้อนรอย Corrupted Blood Incident – เหตุการณ์ไวรัสล้างโลกใน WoW ที่วงการเกมต้องจดจำไปตลอดกาล

21 Views

Plague Inc ในโลก World of Warcraft

Corrupted Blood incident เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญที่สุดในเกม World of Warcraft และเป็นที่น่าจดจำทั้งวงการเกมไปตลอดกาล เพราะว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีคาดคิดของทีมงาน Blizzard Entertainment ที่มีเพียงแค่มีช่องโหว่ หรือบัคตัวเดียว ก็สามารถทำให้โลกจักรวาลในเกม World of Warcraft เต็มไปด้วยไวรัสล้างโลก ที่ไม่ต่างจากหนังประเภทซอมบี้ หรือ เกมที่มีเนื้อหาก่อการร้ายด้วยสารเคมีที่จะต้องมีการกักกันพื้นที่ (The Division) และผู้เล่นจะต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง หรืออยู่กับปาร์ตี้เพื่อน ๆ เพื่อที่จะเล่นเกมนี้ต่อไปโดยไม่เสียค่า Progression

และที่น่าสนใจที่สุด คือ ในโลกความเป็นจริงได้นำเหตุการณ์ Corrupted Blood incident มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจต่าง ๆ อีกด้วย

แล้วเหตุการณ์นี้มันน่าสนใจอย่างไร ? ทำไมถึงเป็นเหตุการณ์ที่วงการเกมที่ต้องจดจำไปตลอดกาล ? นี่คือ การย้อนรอย Corrupted Blood incident สกิลติดพิษล้างโลกที่ได้ทำลายชีวิตผู้เล่นในเกม World of Warcraft ไปมากมาย

จุดเริ่มต้นของทั้งหมด

ย้อนรอยกลับไปในปี 2005 ทางทีมผู้พัฒนา Blizzard Entertainment ได้นำเสนออัปเดตแผนที่ดันเจี้ยนตัวใหม่ที่ชื่อว่า Zul’Gurub ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับผู้เล่นที่มีเลเวลสูงที่ต้องการความท้าทายระดับสูงสุด โดยบอสตัวใหม่ประจำดันเจี้ยนจะมีชื่อว่า Hakkar the Soulflayer ที่นอกจากจะมีรูปร่างที่อึดและเก่งกาจน่ากลัวอยู่แล้ว มันก็มีสกิลสุดแสนจะอันตรายที่สร้างอุปสรรคให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก โดยมีสกิลที่ชื่อว่า Corrupted Blood

Hakkar the Soulflayer

Hakkar the Soulflayer

Corrupted Blood เป็นสกิลประเภท Debuff ที่จะสร้างความเสียหายให้กับพลังชีวิตของผู้เล่นถึง 875 – 1125 HP และจะลดค่า 200 HP ทุกวินาที และสามารถกระจายสู่ผู้เล่นอื่นได้ในระยะ 100 หลา โดยสกิลนี้จะมีระยะเวลา 10 วินาที

แค่อ่านดูก็รู้สึกน่ากลัวแล้ว สำหรับผู้เล่นในช่วงนั้นผู้เล่นที่เข้าดันเจี้ยนจะมีเลือดอยู่ประมาณ 4000 – 5000 เป็นมาตราฐาน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสกิลที่อันตราย ๆ มาก เพราะนอกจะสร้างความเสียหายให้แก่พลังชีวิตผู้เล่นได้เยอะแล้ว ยังแพร่กระจายสู่ผู้เล่นรอบตัวอีกด้วยให้ส่งกระทบตามอีกด้วย แต่ก็จัดว่าโชคดีที่สกิลนี้จะมีระยะเวลาที่กำจัดตัวเองโดยอัตโนมัติ และสกิลนี้จะไม่มีทางหลุดรอดไปจากดันเจี้ยนได้โดยเด็ดขาด แม้ผู้เล่นจะใช้เทเลพอร์ตในขณะที่ยังคงติดพิษสกิลนี้ก็ตาม

Zul'Gurub

แผนที่ Zul’Gurub

แต่ทำไมถึงเกิดการแพร่ระบาดขึ้นได้ละ ?

ในวันที่ 13 กันยายน 2005 สกิลไวรัส Corrupted Blood ได้หลุดออกไปจากดันเจี้ยน Zul’Gurub เพราะ “สัตว์เลี้ยง”  อาชีพ Hunters และ Warlocks ที่มีสกิลความสามารถในการเรียก หรือ เก็บสัตว์ไว้กับผู้เล่นได้ ซึ่งเจ้าพิษ Corrupted Blood สามารถแพร่ระบาดสู่สัตว์เลี้ยงของเราได้เช่นกัน ถ้าหากผู้เล่นเก็บสัตว์เลี้ยงในขณะติดพิษนี้อยู่ สกิลพิษตัวนี้ยังคงติดพิษอยู่เมื่อเรียกสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง

World of Warcraft

สัตว์เลี้ยงของคลาส Hunter

ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้สัตว์เลี้ยงของอาชีพ Hunters และ Warlocks ได้เริ่มปล่อยเชื้อไวรัสสกิล Corrupted Blood แพร่กระจายสู่ผู้เล่นอื่นในเมืองหลักต่าง ๆ ที่จะมีผู้เล่นเลเวลต่ำและเวลสูงปะปนกันไป (ส่วนใหญ่เป็นเลเวลต่ำ-กลาง) แล้วด้วยพิษของสกิลตัวนี้มีพลังการทำลายล้างที่รุนแรงเกินไปกว่าที่ผู้เล่นทั่วไปจะสามารถต่อกรได้ ส่งผลทำให้ผู้เล่นจำนวนมากได้ตายจากสกิล Corrupted Blood ด้วยเวลาเพียงแค่ 1-3 วินาทีเท่านั้น ! แล้วได้เริ่มกระจายไปทั่วเมืองจนกลายเป็นเมืองมรณะที่เต็มไปด้วยศพโครงกระดูกมากมายจนนับไม่ได้

ถ้าหากคุณคิดว่าสถานการณ์นี้เลวร้ายอยู่แล้ว มันยังไม่ถึงที่สุด เพราะว่า NPC ของเกมนี้ก็สามารถติดพิษจาก Corrupted Blood ด้วยเช่นกัน แต่พิษตัวนี้ไม่สามารถทำอะไรกับ NPC ได้เลย และติดสถานะพิษตัวนี้ไปตลอดกาลโดยไม่สามารถล้างที่จะล้างพิษได้ ซึ่งอาจจะเป็นข้อผิดพลาดของทีมงาน Blizzard Entertainment ที่ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดได้ว่าสกิล Corrupted Blood จะส่งผลต่อเหตุการณ์ไวรัสล้างโลกในครั้งนี้ได้

World of Warcraft

การแพร่ระบาดของ Corrupted Blood ทำให้เมืองที่ปลอดภัย กลายเป็นเมืองนรกในพริบตา

เหตุนี้จึงส่งผลทำให้ผู้เล่นไม่สามารถที่จะติดต่อ NPC ได้สะดวก แถมเข้าใกล้ก็ตายฟรี และทำให้เกมนี้ไม่สามารถเล่นได้ตามปกติเหมือนทุกวันที่ผ่านมา จนกว่าทีมงานจะปล่อย Patch แก้ตัวเกม สังคมเกม World of Warcraft จะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดให้กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยมี Blizzard Entertainment คอยหนุนหลังไว้

เหตุการณ์นี้ส่งผลทำให้สังคมในเกม World of Warcraft เปลี่ยนไปจากหน้าเป็นหลังมือเหมือนเล่นคนละเกม

เกมสมัยนั้น เทคโนโลยียังคงไม่รวดเร็วเท่ากับปัจจุบัน ที่เกิดปัญหาตัวในเกมเมื่อไหร่ ก็สามารถเรียกร้องทีมงานแล้วสามารถแก้ปัญหาได้ทันทีโดยการปล่อย Quick Patch ในวันต่อไป ในปี 2005 ทีมงานจะต้องใช้เวลาจากการแก้ไขเกม และปล่อยอัปเดตเป็นเวลานานถึงสัปดาห์ สิ่งที่ทำได้มีเพียงงดเล่นชั่วคราว กับปรับเปลี่ยนการเสียซะเสี

ในขณะที่เกิดการแพร่ระบาด เกมเพลย์ปกติจะไม่สามารถที่จะเล่นได้สะดวก ผู้เล่นพยายามที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คล้ายในโลกความเป็นจริง ผู้เล่นบางคนที่มีสกิลฟื้น HP (Healing) จะอาสาเป็นหน่วยพยาบาลคอยรักษาผู้เล่นอื่น, ผู้เล่นเลเวลต่ำได้พยายามตักเตือนไม่ให้ผู้เล่นเข้าไปในพื้นที่มีเชื้อระบาด, เมืองหลักต่าง ๆ ได้โดนปล่อยทิ้งร้างราวกับเชอร์โนบิล และหนีอพยพไปยังพื้นที่ชนบทในเกม หรือแม้กระทั่งมีผู้เล่นสุดเกรียนพยายามที่จะแพร่เชื้อไปทั่วจักรวาล World of Warcraft เช่นกัน (หัวเราะ)

Corrupted Blood Incident

ตลกร้ายที่สุด คือ ทีมงาน Blizzard Entertainment ได้พยายามที่จะกักกันอาณาเขตเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้กว้างไปกว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะยังคงมีผู้เล่นพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่มีการแพร่ระบาดไปขยายสู่พื้นที่อื่นอยู่เรื่อย ๆ แล้วในที่สุด ทีมงานก็เหลืออด ได้ตัดสินใจที่จะแก้ไขทั้งหมด (ที่ไม่อยากจะทำ) คือ การฮาร์ดรีเซ็ต หรือล้างเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด พร้อมกับยืนยันปล่อย Patch แก้ไขอย่างเร่งด่วนทันที

World of Warcraft

ในวันที่ 8 ตุลาคม 2005 เป็นวันจุดจบของการแพร่ระบาดของ Corrupted Blood โดยการให้สกิล Corrupted Blood ไม่สามารถกระจายพิษสู่สัตว์เลี้ยงได้ เพื่อไม่ให้มีการแพร่กระจายออกสู่โลกภายนอกเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมา และเกมเมอร์ก็ได้เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “Corrupted Blood Incident”

จากเหตุการณ์แพร่ระบาดในเกมสู่การศึกษาค้นคว้าในชีวิตจริง

หลังจากเหตุการณ์ Corrupted Blood Incident ผ่านไป ในโลกความเป็นจริงได้ใช้เหตุการณ์ในเกม World of Warcaft ไปใช้ศึกษารีเสิร์ชในด้านการแพร่ระบาดของโรค เพื่อคาดเดาพฤติกรรมของมนุษย์เมื่อเกิดเหตุการณ์โรคระบาดขึ้น ซึ่งมีผลวิจัยมีการรายงานผลลัพธ์ออกมามากมายโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือองค์การอนามัยต่าง ๆ ขนาดที่องค์กรณ์ควบคุมโรคของ CDC ยังต้องใช้เกมนี้ในการศึกษากันเลยทีเดียว

และรวมไปถึงศึกษาด้านการก่อการร้าย โดยคุณ Charles Blair ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ได้กล่าวว่า World of Warcraft เป็นเกมที่อาจจะเป็นหนทางใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการศึกษารูปแบบของการก่อการร้ายเกิดขึ้นและจะวางแผนดำเนินการอย่างไร เพราะผู้เล่น World of Warcraft บางคนตัดสินในเลือกแพร่เชื้อให้ระบาดกว้างยิ่งกว่าเดิม ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะห์การทางทหารในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับความสมจริงที่สุด

World of Warcraft

World of Warcraft ยังคงครองตำแหน่งเกมที่ทรงอิทธิพลต่อโลก ทั้ง ๆ ที่เกมนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความเป็นจริงแต่อย่างใด และตอนนี้เกมก็ยังเปิดบริการตามปกติมาตั้งแต่ปี 2004 มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเกม MMORPG ที่มียอดผู้เล่นมากที่สุดในโลกโดยสถิติบันทึกโดยกินเนสบุ๊ค เวิลด์เรคคอร์ด ซึ่งก็จัดว่าเป็นเกมที่ผ่านอะไรมามากเหมือนกัน จึงก็ไม่แปลกเลยว่าทำไมเกม World of Warcraft ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ครับ

ที่มาของข้อมูล : PCGamer, WoW Wikia

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top