BY StolenHeart
23 Jul 19 11:59 am

Sound card จำเป็นแค่ไหนสำหรับเกมเมอร์ ?

64 Views

หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่เหล่าเกมเมอร์ต้องเผชิญหน้ากันมานานก็คือ เรามีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องซื้อ Sound Card มาใช้ เพราะทุกวันนี้คุณภาพเสียงจาก Mainboard หรือจากหูฟังที่มีราคาพอตัวก็ให้คุณภาพเสียงที่โอเคมากอยู่แล้ว แล้วจำเป็นแค่ไหนที่เราต้องการการ์ดเสียงมาอัพเกรดคุณภาพเสียงในเกมเพิ่มขึ้นไปอีก วันนี้เราจะมาเจาะลึกในเรื่องนี้กัน

เชื่อว่าเหล่าเกมเมอร์หลายคนพอได้ราคาของ Sound Card ในท้องตลาดตอนนี้ก็คงจะสงสัยกัน ว่าทำไมมันถึงได้แพงนัก แต่ละตัวทั้งแบบติดตั้งในเครื่อง PC หรือภายนอกต่างก็มีราคาแพงระดับพันกว่าบาทขึ้นไปแทบทั้งสิ้นในรุ่นและยี่ห้อที่ได้รับความนิยม จนทำให้หลายคนที่เวลาจะประกอบคอมใหม่สักเครื่องขึ้นมา ก็จะตัด Sound Card ทิ้งเพราะเห็นว่าไม่จำเป็น เนื่องจาก Mainboard ก็มีช่องเสียงมาให้อยู่แล้ว และมีคุณภาพที่ไม่เลวอย่างที่ได้กล่าวไป

เพราะถึงแม้จะเป็นเพียง Sound On Board แต่มันก็รองรับการทำงานระดับ 5.1 หรือ 7.1 ได้กันเกือบหมดแล้ว แถมหูฟังบางรุ่นก็มี Sound Card แยกที่เพิ่มมิติของเสียงขึ้นมาอีกระดับ แม้จะเป็นการจำลองเสียงแต่คุณภาพที่ได้นั้นไม่ได้ขี้เหร่เลย ถ้าเทียบกับเมื่อสักเกือบ 20 ปีก่อน เราจะเห็นความต่างชัดเจนว่า PC ที่ใช้เพียงแค่ Sound On Board กับแบบมี Sound Card นั้นแตกต่างกันมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการต่อออกลำโพงแบบ 5.1 ขึ้นไป คุณภาพเสียงในไฟล์ระดับเดียวกันต่างกันมากอย่างที่รู้สึกได้เลย

และพอมาในยุคนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเทียบกันไม่ออกอย่างแน่นอน ว่าเสียงแบบ 5.1 หรือ 7.1 ต่างกันขนาดไหน แบบมี Dolby Digital หรือแบบอื่น ๆ นั้นทำหน้าที่เพิ่มเติมอะไรบ้าง เกมเมอร์ที่ไม่อยากปวดหัวหรือปวดใจซื้อของเพิ่ม ก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจในจุดนี้กันสักเท่าไหร่ เพราะหูไม่ได้เทพขนาดแยกความต่างของเสียงได้ขนาดนั้น

แต่ถ้าหากคุณคือผู้เล่นเกมที่ไม่โอนอ่อนต่อคุณภาพเสียงที่แย่ลงมา และไม่อยากให้สิ่งที่ผู้พัฒนาสร้างขึ้นมาอย่างประณีตล่ะจะทำอย่างไร ?

เช่นคุณฟังเพลงในรูปแบบไฟล์ FLAG หรือเลือกฟังผ่าน Tidal ที่เป็นบริการ Music Streaming เพลงคุณภาพสูง เล่นเกมก็ต้องจัดเต็มเลือกแบบกระหึ่ม ๆ 7.1 ไปเลย อันนี้แค่การ์ดเสียง On Board ไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้แน่นอน และเพื่อให้กำลังขับจากลำโพงหรือหูฟังเรือนหมื่นของคุณไปถึงระดับนั้นได้ การ์ดเสียงระดับเทพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

และที่สำคัญคือเทคโนโลยีที่ถูกใช้ใน Sound On Board นั้นค่อนข้างจำกัด ยกเว้นแต่ว่า Mainboard รุ่นนั้นยัดหน่วยประมวลผลทางด้านเสียงมาแบบจัดเต็ม

แต่ถ้าให้ว่ากันจริง ๆ แล้วอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานในด้านเสียงแบบเฉพาะทางนั้นยังไงก็ดีกว่า

เพราะทางผู้พัฒนาจะสามารถใส่เทคโนโลยีของตัวเองเข้ามาเสริมประสิทธิภาพของเสียงได้ เช่น EAX หรือ Environment Audio Extension ของ Creative ที่ถูกพัฒนามาอย่างยาวนานหลายสิบปี มาจนถึงรุ่น 5.0 ในการ์ดเสียง X-Fi ที่หลายคนยังคงให้ความไว้ใจในคุณภาพเสียงมาจนตอนนี้ แถมชิปเสียงที่ถูกอัดแน่นอยู่ด้านใน Sound Card นั้นจะช่วยให้การประมวลผลด้านเสียงดีกว่าชิปบน Mainboard ที่มีอยู่ไม่กี่ตัวแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลย

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสกับคุณภาพเสียงของการฟังเพลงและเล่นเกม รวมไปถึงอยากใช้งานหูฟังระดับเรือนหมื่นให้คุ้มค่าที่สุด Sound Card ดี ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ว่าคุณอยากจะเลือกใช้งานการ์ดเสียงแบบไหน ยิ่งในยุคนี้เรามีการ์ดเสียงแบบ External ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ทั้งติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก แค่เสียบก็ใช้ได้เลย เช่น GSX 1000 ของ Sennheiser หรือ Creative Omni Surround 5.1 หรือถ้ามีความสามารถมากพอที่จะติดตั้งลงในเครื่อง PC ข้างใน ก็ยังมีตัวเลือกมากมายให้เลือกใช้เพียบ เช่น Creative Sound Blaster Z หรือ Asus Xonar เป็นต้น

แล้วทีนี้เราจะเลือกการ์ดเสียงอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา?

เรื่องนี้ก็อยู่ที่เราต้องการความสะดวกในการใช้งานมากขนาดไหน มีอุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีแรงขับมากกพอหรือเปล่า ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็เลือก Sound Card แบบ External ก็เป็นตัวเลือกที่สะดวกดี หรือถ้าคิดว่ายังไม่พอใจ ก็สามารถเลือก Sound Card แบบ Internal ที่ติดตั้งภายในเครื่อง PC และรองรับเทคโนโลยีทางด้านเสียงแบบจัดเต็มได้ ซึ่งก็มีทั้งราคาไม่แพงไปจนถึงระดับหมื่นกว่าบาทให้เลือกใช้งานตามต้องการ

สุดท้ายสำหรับเรื่องของการ์ดเสียงนั้นก็อยู่ที่ความพึงพอใจส่วนบุคคลของผู้ใช้เป็นหลัก ว่าต้องการคุณภาพเสียงในระดับไหน และมีหูฟังหรือลำโพงที่มีแรงขับมากพอหรือไม่ เพราะถ้าให้ว่ากันตามตรงทุกวันนี้ Sound Card On Board ก็มีการรองรับทางด้านเสียงแบบต่าง ๆ อย่างน่าพอใจและครอบคลุมเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว ยกเว้นแต่ว่าคุณยังคงใฝ่หา ”ที่สุด” ของเทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียงเพิ่มเติม และคิดว่าเสียงที่ได้ยินนั้นยังไม่จบอย่างที่ใจต้องการ เพราะหูแต่ละคนนั้นมีความสามารถหรือพึงพอใจในเรื่องเสียงที่ไม่เท่ากันนั่นเอง เงินของคุณ และคุณคือผู้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองครับ

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top